พอดีผมค้นเจอข้อความทั้งในอรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ ความว่า " เมื่อพระองค์เสวยสมบัติอยู่อย่างนั้น วันหนึ่ง ได้มีการพูดกันขึ้นในระหว่างหมู่พระญาติดังนี้ว่า พระสิทธัตถะทรงเที่ยวขวนขวายอยู่แต่การเล่นเท่านั้น ไม่ทรงศึกษา
ศิลปศาสตร์อะไรๆ เมื่อมีสงครามมาประชิดเข้า จักกระทำอย่างไร.
พระราชารับสั่งให้เรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า นี่แน่ะพ่อ พวกญาติๆ ของลูกพากันพูดว่า สิทธัตถะไม่ศึกษา
ศิลปศาสตร์อะไรๆ ขวนขวายแต่การเล่นเท่านั้นเที่ยวไป ในเรื่องนี้ ลูกจะเข้าใจอย่างไร ในเวลาประจวบกับพวกศัตรู.
พระโพธิสัตว์ทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ไม่มีกิจที่จะต้องศึกษา
ศิลปศาสตร์ ขอพระองค์ได้โปรดให้เที่ยวตีกลองป่าวร้องไปในพระนคร เพื่อให้มาดูศิลปะของข้าพระองค์ ในวันที่ ๗ แต่วันนี้ไป ข้าพระองค์จักแสดง
ศิลปศาสตร์แก่หมู่พระญาติ. พระราชาได้ทรงกระทำตามนั้น พระโพธิสัตว์ให้ประชุมนักแม่นธนูผู้สามารถยิงอย่างสายฟ้าแลบ และผู้สามารถยิงขนหางสัตว์ แล้วทรงแสดงศิลปะทั้ง ๑๒ ชนิดแก่พระญาติ ซึ่งไม่ทั่วไปกับพวกนักแม่นธนูอื่นๆ ในท่ามกลางมหาชน" แนบลิงค์:
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=1&p=6&h=ศิลปศาสตร์#hl
พ้อมกันนั้น อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ เอกกนิบาตชาดก อปัณณกชาดก ระบุด้วยเนื้อความตรงกัน ความว่า "เมื่อพระองค์เสวยมหาสมบัติอยู่ วันหนึ่งได้มีพูดกันขึ้นในระหว่างหมู่พระญาติอย่างนี้ว่า พระสิทธัตถะทรงขวนขวายอยู่แต่การเล่นเท่านั้น มิได้ทรงศึกษาศิลปะใดๆ เลย เมื่อเกิดสงครามขึ้นจักทำอย่างไรกัน. พระราชาทรงมีรับสั่งให้เรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า นี่แน่ะพ่อ พวกญาติๆ ของลูกพูดกันว่า พระสิทธัตถะมิได้ศึกษาศิลปะใดๆ เลย เที่ยวขวนขวายแต่การเล่น ดังนี้ ลูกจะเห็นว่า ถึงกาลอันควรหรือยัง.
พระโพธิสัตว์ทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ไม่มีกิจที่จะต้องศึกษาศิลปะ ขอพระองค์ได้โปรดให้ตีกลอง ป่าวร้องไปในพระนคร เพื่อให้มาดูการแสดงศิลปะของข้าพระองค์. แต่นี้อีก ๗ วัน ข้าพระองค์ก็จักแสดงศิลปะแก่พระญาติทั้งหลาย. พระราชาได้ทรงกระทำตามเช่นนั้น. พระโพธิสัตว์รับสั่งให้ประชุม เหล่านายขมังธนูที่สามารถยิงได้ดังสายฟ้าแลบ ยิงขนหางสัตว์ได้ ยิงต้านลูกศรได้ ยิงตามเสียงได้ และยิงลูกศรตามลูกศรได้ แล้วได้ทรงแสดงศิลปะ ๑๒ อย่างที่พวกนายขมังธนูเหล่าอื่นไม่มีแก่พระญาติทั้งหลาย ในท่ามกลางมหาชน" แนบลิงค์:
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=1&p=5#สหชาต_๗
ดังนั้น เพียงเท่านี้ก็อาจยืนยันได้ว่า พระโพธิสัตว์ในพระชาติสุดท้าย ไม่ได้ทรงศึกษาศิลปศาสตร์ใด ๆ เลย ได้ไหมครับ
จริง ๆ แล้ว ในพระชาติสุดท้าย พระโพธิสัตว์สิทธัตถะ ไม่ได้ทรงเรียนศิลปศาสตร์
พระราชารับสั่งให้เรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า นี่แน่ะพ่อ พวกญาติๆ ของลูกพากันพูดว่า สิทธัตถะไม่ศึกษาศิลปศาสตร์อะไรๆ ขวนขวายแต่การเล่นเท่านั้นเที่ยวไป ในเรื่องนี้ ลูกจะเข้าใจอย่างไร ในเวลาประจวบกับพวกศัตรู.
พระโพธิสัตว์ทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ไม่มีกิจที่จะต้องศึกษาศิลปศาสตร์ ขอพระองค์ได้โปรดให้เที่ยวตีกลองป่าวร้องไปในพระนคร เพื่อให้มาดูศิลปะของข้าพระองค์ ในวันที่ ๗ แต่วันนี้ไป ข้าพระองค์จักแสดงศิลปศาสตร์แก่หมู่พระญาติ. พระราชาได้ทรงกระทำตามนั้น พระโพธิสัตว์ให้ประชุมนักแม่นธนูผู้สามารถยิงอย่างสายฟ้าแลบ และผู้สามารถยิงขนหางสัตว์ แล้วทรงแสดงศิลปะทั้ง ๑๒ ชนิดแก่พระญาติ ซึ่งไม่ทั่วไปกับพวกนักแม่นธนูอื่นๆ ในท่ามกลางมหาชน" แนบลิงค์: https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=1&p=6&h=ศิลปศาสตร์#hl
พ้อมกันนั้น อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ เอกกนิบาตชาดก อปัณณกชาดก ระบุด้วยเนื้อความตรงกัน ความว่า "เมื่อพระองค์เสวยมหาสมบัติอยู่ วันหนึ่งได้มีพูดกันขึ้นในระหว่างหมู่พระญาติอย่างนี้ว่า พระสิทธัตถะทรงขวนขวายอยู่แต่การเล่นเท่านั้น มิได้ทรงศึกษาศิลปะใดๆ เลย เมื่อเกิดสงครามขึ้นจักทำอย่างไรกัน. พระราชาทรงมีรับสั่งให้เรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า นี่แน่ะพ่อ พวกญาติๆ ของลูกพูดกันว่า พระสิทธัตถะมิได้ศึกษาศิลปะใดๆ เลย เที่ยวขวนขวายแต่การเล่น ดังนี้ ลูกจะเห็นว่า ถึงกาลอันควรหรือยัง.
พระโพธิสัตว์ทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ไม่มีกิจที่จะต้องศึกษาศิลปะ ขอพระองค์ได้โปรดให้ตีกลอง ป่าวร้องไปในพระนคร เพื่อให้มาดูการแสดงศิลปะของข้าพระองค์. แต่นี้อีก ๗ วัน ข้าพระองค์ก็จักแสดงศิลปะแก่พระญาติทั้งหลาย. พระราชาได้ทรงกระทำตามเช่นนั้น. พระโพธิสัตว์รับสั่งให้ประชุม เหล่านายขมังธนูที่สามารถยิงได้ดังสายฟ้าแลบ ยิงขนหางสัตว์ได้ ยิงต้านลูกศรได้ ยิงตามเสียงได้ และยิงลูกศรตามลูกศรได้ แล้วได้ทรงแสดงศิลปะ ๑๒ อย่างที่พวกนายขมังธนูเหล่าอื่นไม่มีแก่พระญาติทั้งหลาย ในท่ามกลางมหาชน" แนบลิงค์: https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=1&p=5#สหชาต_๗
ดังนั้น เพียงเท่านี้ก็อาจยืนยันได้ว่า พระโพธิสัตว์ในพระชาติสุดท้าย ไม่ได้ทรงศึกษาศิลปศาสตร์ใด ๆ เลย ได้ไหมครับ