แผน "ตั้กแตน" ที่ว่า ในเรื่อง kingdom
กลยุทธ์ที่เฉียบขาดที่สุดของ โอเซ็น (Ousen) ที่ถูกใช้ในศึกบุกโจว ครั้งใหญ่ เพื่อพิชิตเมือง "กิ๋ว" ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐโจว
- แผนนี้มีหลักการที่เรียบง่ายแต่โหดเหี้ยมตามชื่อ "ตั๊กแตน" ที่กินทุกอย่างจนหมดสิ้น นั่นคือการใช้ประชาชนของโจวเองเป็นเครื่องมือในการทำลายเมืองของพวกเขาจากภายใน
- โอเซ็นไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การบุกยึดเมืองกิ๋วโดยตรงในทันที เพราะรู้ว่ากำแพงเมืองนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะพิชิตได้ด้วยกำลังทหาร
- แทนที่จะโจมตีเมืองกิ๋วโดยตรง โอเซ็นกลับสั่งให้กองทัพทำการปิดล้อมเมืองรอบๆ และไล่ต้อนประชาชนให้หนีเข้าไปยังเมืองกิ๋ว
- แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของโอเซ็น คือการใช้ประชาชนจำนวนมหาศาลที่หนีภัยสงครามนี้ ให้เข้าไปเป็นภาระด้านเสบียงอาหารของเมืองกิ๋ว เมื่อมีคนจำนวนมากในเมือง อาหารก็จะหมดเร็วกว่าที่เมืองจะทนได้
- การขาดแคลนอาหาร ทำให้ภายในเมืองกิ๋วเกิดความวุ่นวาย ประชาชนเริ่มประท้วงและก่อจลาจล ทำให้ระบบการป้องกันของเมืองอ่อนแอลงอย่างมาก
กรมอนามัยได้ให้คำแนะนำปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันสำหรับคนไทย
โดยแบ่งตามกลุ่มวัยและการใช้พลังงาน ซึ่งรวมถึงปริมาณข้าว-แป้งที่ควรได้รับด้วย
- เด็กอายุ 6-13 ปี, หญิงวัยทำงาน (25-60 ปี), ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
ควรบริโภคข้าว-แป้ง ประมาณ
8 ทัพพีต่อวัน
- วัยรุ่น (14-25 ปี), ชายวัยทำงาน (25-60 ปี)
ควรบริโภคข้าว-แป้ง ประมาณ
10 ทัพพีต่อวัน
ข้าวสวยสุก 1 ทัพพี จะมีน้ำหนักประมาณ 60-80 กรัม
ซึ่งหมายความว่าปริมาณข้าวที่ควรกินต่อวันจะอยู่ระหว่าง
600-800 กรัม หรือประมาณ
0.6-0.8 กิโลกรัม โดยน้ำหนักนี้เป็นน้ำหนักของข้าวสุกแล้ว
ถ้าเกิดมีคนกัมพูชาในไทยราว 8 แสนคน
เราจะใช้ค่าเฉลี่ยคือ
0.7 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน
จำนวนคน: 800,000 คน
ปริมาณข้าว (กิโลกรัม) = 800,000 คน x 0.7 กิโลกรัม/คน
ปริมาณข้าวรวม = 560,000 กิโลกรัม
วันเดียว ต้องกิน ปริมาณข้าวรวมถึง = 560 ตัน ภายใน 1 เดือน =
16,800 ตันข้าว
ถามว่าอยู่ ๆ คนกัมพูชา เข้ามาในประเทศขนาดนี้ จำนวนข้าวในกัมพูชาจะมีพอหรือ
ขนาดญี่ปุ่นเองในปี 2023 ยังมีปัญหาข้าวขาดแคลน เพราะนักท่องเที่ยวมาในประเทศเยอะเกินไปพอมีข่าวข้าวขาดแคลน คนก็แห่ซื้อกันซ้ำไปอีก
คิดว่าวิธีนี้จะได้ผลกับกัมพูชาหรือไม่ ไม่ต้องประกาศว่าไล่ตรง ๆ แต่ทำอย่างไงก็ได้ให้เข้ามาในไทยยาก ๆ
- ทำให้การข้ามแดนยุ่งยากขึ้น (เช่น ขั้นตอนเอกสารซับซ้อน, ตรวจเข้มมาก, เวลารอนาน)
- ควบคุมงานและใบอนุญาตแรงงาน ให้มีอายุสั้นขึ้นหรือรีบตรวจเข้มกว่าปกติ
- ไม่ต้องโจมตีเป้าหมายโดยตรง
- แต่สร้างแรงกดดันทางทรัพยากร (อาหาร/น้ำ/เสบียง)
- ใช้จำนวนคนเป็น “ตัวเพิ่มภาระ” จนระบบล่มเองจากภายใน
- ไม่ได้ “เมืองแตก” แบบ Kingdom แต่จะได้ “คนจนเดือดร้อน” ก่อน ซึ่งกดดันการเมืองภายในได้
สำหรับกัมพูชา ใช้แผน "ตั้กแตน" ดีมั้ย แบบเรื่อง kingdom
กลยุทธ์ที่เฉียบขาดที่สุดของ โอเซ็น (Ousen) ที่ถูกใช้ในศึกบุกโจว ครั้งใหญ่ เพื่อพิชิตเมือง "กิ๋ว" ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐโจว
- แผนนี้มีหลักการที่เรียบง่ายแต่โหดเหี้ยมตามชื่อ "ตั๊กแตน" ที่กินทุกอย่างจนหมดสิ้น นั่นคือการใช้ประชาชนของโจวเองเป็นเครื่องมือในการทำลายเมืองของพวกเขาจากภายใน
- โอเซ็นไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การบุกยึดเมืองกิ๋วโดยตรงในทันที เพราะรู้ว่ากำแพงเมืองนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะพิชิตได้ด้วยกำลังทหาร
- แทนที่จะโจมตีเมืองกิ๋วโดยตรง โอเซ็นกลับสั่งให้กองทัพทำการปิดล้อมเมืองรอบๆ และไล่ต้อนประชาชนให้หนีเข้าไปยังเมืองกิ๋ว
- แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของโอเซ็น คือการใช้ประชาชนจำนวนมหาศาลที่หนีภัยสงครามนี้ ให้เข้าไปเป็นภาระด้านเสบียงอาหารของเมืองกิ๋ว เมื่อมีคนจำนวนมากในเมือง อาหารก็จะหมดเร็วกว่าที่เมืองจะทนได้
- การขาดแคลนอาหาร ทำให้ภายในเมืองกิ๋วเกิดความวุ่นวาย ประชาชนเริ่มประท้วงและก่อจลาจล ทำให้ระบบการป้องกันของเมืองอ่อนแอลงอย่างมาก
กรมอนามัยได้ให้คำแนะนำปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันสำหรับคนไทย
โดยแบ่งตามกลุ่มวัยและการใช้พลังงาน ซึ่งรวมถึงปริมาณข้าว-แป้งที่ควรได้รับด้วย
- เด็กอายุ 6-13 ปี, หญิงวัยทำงาน (25-60 ปี), ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
ควรบริโภคข้าว-แป้ง ประมาณ 8 ทัพพีต่อวัน
- วัยรุ่น (14-25 ปี), ชายวัยทำงาน (25-60 ปี)
ควรบริโภคข้าว-แป้ง ประมาณ 10 ทัพพีต่อวัน
ข้าวสวยสุก 1 ทัพพี จะมีน้ำหนักประมาณ 60-80 กรัม
ซึ่งหมายความว่าปริมาณข้าวที่ควรกินต่อวันจะอยู่ระหว่าง 600-800 กรัม หรือประมาณ 0.6-0.8 กิโลกรัม โดยน้ำหนักนี้เป็นน้ำหนักของข้าวสุกแล้ว
ถ้าเกิดมีคนกัมพูชาในไทยราว 8 แสนคน
เราจะใช้ค่าเฉลี่ยคือ 0.7 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน
จำนวนคน: 800,000 คน
ปริมาณข้าว (กิโลกรัม) = 800,000 คน x 0.7 กิโลกรัม/คน
ปริมาณข้าวรวม = 560,000 กิโลกรัม
วันเดียว ต้องกิน ปริมาณข้าวรวมถึง = 560 ตัน ภายใน 1 เดือน = 16,800 ตันข้าว
ถามว่าอยู่ ๆ คนกัมพูชา เข้ามาในประเทศขนาดนี้ จำนวนข้าวในกัมพูชาจะมีพอหรือ
ขนาดญี่ปุ่นเองในปี 2023 ยังมีปัญหาข้าวขาดแคลน เพราะนักท่องเที่ยวมาในประเทศเยอะเกินไปพอมีข่าวข้าวขาดแคลน คนก็แห่ซื้อกันซ้ำไปอีก
คิดว่าวิธีนี้จะได้ผลกับกัมพูชาหรือไม่ ไม่ต้องประกาศว่าไล่ตรง ๆ แต่ทำอย่างไงก็ได้ให้เข้ามาในไทยยาก ๆ
- ทำให้การข้ามแดนยุ่งยากขึ้น (เช่น ขั้นตอนเอกสารซับซ้อน, ตรวจเข้มมาก, เวลารอนาน)
- ควบคุมงานและใบอนุญาตแรงงาน ให้มีอายุสั้นขึ้นหรือรีบตรวจเข้มกว่าปกติ
- ไม่ต้องโจมตีเป้าหมายโดยตรง
- แต่สร้างแรงกดดันทางทรัพยากร (อาหาร/น้ำ/เสบียง)
- ใช้จำนวนคนเป็น “ตัวเพิ่มภาระ” จนระบบล่มเองจากภายใน
- ไม่ได้ “เมืองแตก” แบบ Kingdom แต่จะได้ “คนจนเดือดร้อน” ก่อน ซึ่งกดดันการเมืองภายในได้