แวะเข้ามาให้กำลังใจคนที่กำลังจะออกจากความสัมพันธ์ หรือ กำลังทำใจจากการโดนทิ้ง

มันไม่เกินจริงกับประโยคที่คนทั่วไปใช้บอกคนที่โดนทิ้ง/โดนเบื่อ
"ทำตัวให้สดใส ให้มีความสุขไว้
อย่าไปเพ้อให้คนเก่าเห็น
เห็นค่าในตัวเองไว้"

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับเราเมื่อ1-2ปีที่แล้ว
และเราได้เริ่มเขียนบทความสั้นๆไว้เตือนใจตัวเอง
อยากให้คนที่เพิ่งจะออกจากความสัมพันธ์ หรือคนที่โดนทิ้งเข้ามาอ่านมากๆ อาจจะฮีลใจได้ไม่มากก็น้อย  อยากให้ได้ลองอะไรใหม่ๆที่ไม่ใช่แค่คนๆเดียวจะให้เราได้ ลองอ่านดูนะคะ

มันไม่เกินจริงกับประโยคที่คนทั่วไปใช้บอกคนที่โดนทิ้ง/โดนเบื่อ
"ทำตัวให้สดใส ให้มีความสุขไว้
อย่าไปเพ้อให้คนเก่าเห็น
เห็นค่าในตัวเองไว้ สักวันเราจะมีความสุขในแบบฉบับที่ไม่มีเขาได้"

วันนั้น ในตอนที่เรายังเด็ก
เราทะเลาะกันบ่อยๆ ทะเลาะด้วยเรื่องที่ไม่น่าจะทะเลาะ
และเล่นบอกเลิกกันจนไม่คิดว่าวันนึง
ต่างคนต่างจะเบื่อกันและจากกันไปจริงๆ
พอโดนเขาทิ้ง ฉันก็ไปไม่เป็นอยู่พักใหญ่ๆ
ฉันดื่ม และทำตัวเก่ง ว่าเดี๋ยวเขาก็กลับมา
พอเมา กลับไปขอโทษเขาแบบเดิมๆ
แต่ครั้งนี้มันสายไปสำหรับฉันแล้ว
ฉันส่งข้อความรัวๆ โทรหาเขารัวๆ
เพื่อที่จะเอ่ยคำๆเดียว "ขอโทษ"
และเพื่อที่จะให้ความสัมพันธ์ครั้งนั้นกลับมาสดใสเหมือนเดิม

แต่เปล่าเลย สายทุกสายโดนปฏิเสธ ข้อความทุกข้อความโดนบล็อกหรืออาจจะโดนลบหายไปกับสายลมทั้งๆที่มันยังไม่ถูกโดนอ่านด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นฉันที่ไม่รู้ต้องทำตัวยังไง
ฉันแทบเป็นบ้า เริ่มร้องไห้กับเรื่องเล็กๆ
ทักหาเขาทุกวัน แม้รู้ว่าข้อความนั้นจะไปไม่ถึงเขา โลกที่สดใสของฉันเริ่มกลายเป็นสีเทา
ท้องฟ้าสีฟ้า ที่มีก้อนเมฆสีขาวประปราย
กลายเป็นท้องฟ้าที่มีแต่เมฆครึ้มปกคลุม
และเหมือนฝนมันตกทุกวันในความรู้สึกเรา
ความรู้สึกที่ตาบวมไปทำงาน หลังเลิกงานก็กลับมาจมกับสภาพอากาศที่มีแต่เมฆครึ้มปกคลุม
และเริ่มต้นร้องไห้กับตัวเองอีกครั้งเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน

แต่แล้ววันหนึ่ง ฉันที่ค่อยๆเริ่มตั้งสติว่า
เราควรเอาตัวเองจากเมฆครึ้มก้อนนี้
ออกไปข้างนอกบ้าง ทำกิจกรรม อื่นๆบ้าง
เริ่มทำความสะอาดอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป
เปิดม่านให้แสงเข้าห้อง เช็ดกระจกทั้งบานจนแทบไม่มีเค้าเดิมที่มีรอยฝุ่นที่เคยเกาะ
หาต้นไม้เล็กๆมาไว้สักต้น หามุมสบายตาที่มองเห็นง่ายๆ

อากาศที่เคยมืดครึ้มฝนตก เริ่มมีแสงแดดเข้ามาให้ฉันได้มีออกซิเจนบ้างแล้ว
ฉันเริ่มโหลดแอพลิเคชั่นหาคู่มาไว้และลงทะเบียนไว้ในโทรศัพท์
แต่มันก็ยังคงรู้สึกมึนๆ ใครทักมาฉันก็ยังคงปฏิเสธ
แต่สุดท้าย มันก็จะมีคนที่เราคิดว่าทำให้เรากล้าออกจากห้องนี้ได้
ฉันเริ่มออกเดทอีกครั้ง และอีกครั้ง และเรื่อยๆ
ผู้ชายเลี้ยงข้าวบ้าง เลี้ยงข้าวผู้ชายบ้าง
จนอยู่ๆก็มาเจอคนๆนึงที่ทำให้ฉันรู้สึกใจฟูขึ้นอีกครั้ง
ฉันยิ้มมากขึ้น เริ่มมีกำลังใจในแต่ละวันมากขึ้น

ที่ร่ายมายาวๆ มันแค่ส่วนนึงในช่วงระยะไม่ถึงปีที่ทำให้ฉันเศร้า และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง
หวังว่าคนที่ผ่านมาอ่านกำลังใจจากฉัน
จะสามารถหันกลับมารักตัวเองให้มากขึ้นนะ
ฉันเชื่อค่ะ ว่ายังไง ความรักของเรา ย่อมมีค่ามากสำหรับตัวเราเองเสมอ

ส่วนรักครั้งใหม่ มันก็คงจะมีกำแพงที่เราไม่กล้าข้ามไปได้
และมันก็คงมีความคิดที่ว่า เราจะต้องเจ็บอีกครั้ง ไม่รักแล้วได้ไหม

รักเถอะค่ะ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ
รอยยิ้มที่เรามี อย่าเก็บไว้ดูคนเดียวค่ะ
แบ่งปันให้คนอื่นบ้าง ยิ้ม ยิ้มให้คนทั้งโลกไปเลย ยิ้ม

มันไม่เกินจริงนะ
กับประโยคที่คนทั่วๆไป
เอามาพูด/ให้กำลังใจคนที่โดนทิ้ง

"ทำตัวให้สดใส ให้มีความสุขไว้
อย่าไปเพ้อให้คนเก่าเห็น
เห็นค่าในตัวเองไว้
มีเวลาก็ออกไปเที่ยว
ยิ้ม ยิ้มไปจนกว่าเราจะรู้สึกว่า
เราก็น่ารักขนาดนี้
ทำไมต้องรอคนที่เขาไม่เห็นค่าเราด้วย"

ถ้าหากเขาหมดรัก
ตอนนั้นก็ต้องเดินออกมาเท่านั้น
และเราต้องกลับมารักตัวเองให้ได้
ถึงมันจะยาก
แต่ ถ้าเราไม่รักตัวเอง ใครจะมารักเราล่ะ
"เขาก็ไม่รักเราแล้ว"

จงเชื่อว่า
วันหนึ่ง เราจะต้องกลับมาเข้มแข็งให้ได้
วันหนึ่ง จะต้องมีคนที่เข้ามาให้ค่าเรา
เขาจะไม่ปล่อยให้เรารู้สึกแบบที่ไม่ควรจะเป็น


แต่แล้ววันนึง หลังจากที่เราเริ่มสดใส
บางทีไปเที่ยวคนเดียว อัพโหลดชีวิต และรอยยิ้มลงโซเชียลอีกครั้ง
เขาคนนั้นกลับ กลับมา ขอโทษ
ขอโทษ คำนี้ มันดูน่าตลกมากตรงที่
ทำไมในตอนที่เราขอโทษ
เขาเลือกที่จะไม่สนใจ
แล้วกลับมาขอโทษอะไรในตอนที่
เราไม่ต้องการเขาแล้ว ยิ้ม

เราผ่านค่ำคืนที่ยากมาได้อยากทุลักทุเล
โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าวันนั้นมันยากสำหรับเราแค่ไหน
แต่แล้วทำไมกันนะ เราถึงปล่อยให้เขา ได้เอ่ย ขอโทษ เรา
ทั้งๆ ที่ตอนที่เราขอโทษเขา เขายังไม่แม้แต่จะอ่านข้อความนั้นเลย

ออกมาเถอะค่ะ ความสัมพันธ์ที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง
ให้โอกาสใหม่ๆ กับตัวเองกันนะคะ เพี้ยนmbpt
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่