เรื่องย่อ
"Joker" เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยา ดราม่า ออกฉายในปี 2019 กำกับโดย
Todd Phillips และนำแสดงโดย
Joaquin Phoenix ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละครวายร้ายชื่อดังจาก DC Comics แต่ไม่ได้อิงจากคอมิกส์โดยตรง แต่เน้นไปที่การสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ที่สมจริงและมืดมน
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมือง Gotham ที่เต็มไปด้วยความสกปรก ความเหลื่อมล้ำ และความสิ้นหวังในช่วงทศวรรษที่ 1980 เราได้รู้จักกับ
Arthur Fleck (Joaquin Phoenix) ชายหนุ่มผู้มีปัญหาทางจิตที่ต้องดูแลแม่ที่ป่วยและทำอาชีพเป็นตัวตลกรับจ้าง เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน (stand-up comedian) และพยายามสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน แต่ชีวิตของเขากลับเต็มไปด้วยความล้มเหลว การถูกดูถูกเหยียดหยาม และการถูกทำร้ายจากสังคม
ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงและภาวะทางประสาทที่ทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม Arthur จึงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เขาพยายามที่จะหาที่ยืนในสังคม แต่ความโหดร้ายของโลกภายนอกและระบบที่ไม่เหลียวแลคนชายขอบ ก็ยิ่งผลักไสเขาให้ดำดิ่งสู่ความมืดมิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การกระทำอันรุนแรงที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล การเดินทางของ Arthur คือการเปลี่ยนผ่านจากชายผู้ถูกกระทำไปสู่สัญลักษณ์แห่งความโกลาหลและการจลาจลในเมือง Gotham
ความรู้สึกหลังรับชม
"Joker" เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วรู้สึกหนักหน่วงและท้าทายความคิดอย่างมาก สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ
การแสดงอันน่าทึ่งของ Joaquin Phoenix ในบท Arthur Fleck ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เขาทุ่มเททั้งร่างกายและจิตใจในการถ่ายทอดความเจ็บปวด ความเปราะบาง และการล่มสลายทางจิตใจของตัวละครได้อย่างสมจริงจนน่าขนลุก ทุกการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และเสียงหัวเราะที่น่าเวทนาของเขาล้วนสร้างความประทับใจและความรู้สึกร่วมให้กับผู้ชมอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปในที่สุด
Todd Phillips กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสไตล์ที่มืดมนและสมจริง ภาพถ่ายที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความหดหู่และบรรยากาศที่สิ้นหวังของเมือง Gotham ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ของ Martin Scorsese อย่าง "Taxi Driver" และ "The King of Comedy" บทภาพยนตร์ยังมีการสำรวจประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง เช่น ความเหลื่อมล้ำ การขาดความเห็นอกเห็นใจ การล่มสลายของระบบสาธารณสุข และความรุนแรงที่แฝงอยู่ในสังคม
"Joker" ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แต่เป็นภาพยนตร์ที่ลงลึกไปในจิตใจของตัวละครและตั้งคำถามกับผู้ชมว่าอะไรคือสิ่งที่ผลักดันให้คนเรากลายเป็นคนเลวร้าย มันไม่ได้เชิดชูความรุนแรง แต่เป็นการนำเสนอโศกนาฏกรรมของตัวละครที่ถูกสังคมทอดทิ้งและทำร้ายจนหมดสิ้นหนทาง แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ทรงคุณค่าและเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.4/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 68% , คะแนนจากผู้ชม 88%
สรุป
"Joker" คือภาพยนตร์ที่ทรงพลัง ลึกซึ้ง และทิ้งความรู้สึกไว้ในใจผู้ชมอย่างยาวนาน ด้วยการแสดงอันเป็นตำนานของ
Joaquin Phoenix การกำกับที่เฉียบคม และการนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างเรื่องราวต้นกำเนิดของวายร้ายได้อย่างน่าจดจำและน่าเชื่อถือ ด้วยคะแนนจากนักวิจารณ์และผู้ชมที่สูง (โดยเฉพาะคะแนนจากผู้ชม) เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ "Joker" เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรดูอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจและชวนให้ขบคิด.
Joker: โศกนาฏกรรมของตัวตลก การล่มสลายของมนุษย์ในเมืองที่สิ้นหวัง
เรื่องย่อ
"Joker" เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยา ดราม่า ออกฉายในปี 2019 กำกับโดย Todd Phillips และนำแสดงโดย Joaquin Phoenix ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละครวายร้ายชื่อดังจาก DC Comics แต่ไม่ได้อิงจากคอมิกส์โดยตรง แต่เน้นไปที่การสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ที่สมจริงและมืดมน
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมือง Gotham ที่เต็มไปด้วยความสกปรก ความเหลื่อมล้ำ และความสิ้นหวังในช่วงทศวรรษที่ 1980 เราได้รู้จักกับ Arthur Fleck (Joaquin Phoenix) ชายหนุ่มผู้มีปัญหาทางจิตที่ต้องดูแลแม่ที่ป่วยและทำอาชีพเป็นตัวตลกรับจ้าง เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน (stand-up comedian) และพยายามสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน แต่ชีวิตของเขากลับเต็มไปด้วยความล้มเหลว การถูกดูถูกเหยียดหยาม และการถูกทำร้ายจากสังคม
ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงและภาวะทางประสาทที่ทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม Arthur จึงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เขาพยายามที่จะหาที่ยืนในสังคม แต่ความโหดร้ายของโลกภายนอกและระบบที่ไม่เหลียวแลคนชายขอบ ก็ยิ่งผลักไสเขาให้ดำดิ่งสู่ความมืดมิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การกระทำอันรุนแรงที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล การเดินทางของ Arthur คือการเปลี่ยนผ่านจากชายผู้ถูกกระทำไปสู่สัญลักษณ์แห่งความโกลาหลและการจลาจลในเมือง Gotham
ความรู้สึกหลังรับชม
"Joker" เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วรู้สึกหนักหน่วงและท้าทายความคิดอย่างมาก สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การแสดงอันน่าทึ่งของ Joaquin Phoenix ในบท Arthur Fleck ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เขาทุ่มเททั้งร่างกายและจิตใจในการถ่ายทอดความเจ็บปวด ความเปราะบาง และการล่มสลายทางจิตใจของตัวละครได้อย่างสมจริงจนน่าขนลุก ทุกการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และเสียงหัวเราะที่น่าเวทนาของเขาล้วนสร้างความประทับใจและความรู้สึกร่วมให้กับผู้ชมอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปในที่สุด
Todd Phillips กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสไตล์ที่มืดมนและสมจริง ภาพถ่ายที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความหดหู่และบรรยากาศที่สิ้นหวังของเมือง Gotham ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ของ Martin Scorsese อย่าง "Taxi Driver" และ "The King of Comedy" บทภาพยนตร์ยังมีการสำรวจประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง เช่น ความเหลื่อมล้ำ การขาดความเห็นอกเห็นใจ การล่มสลายของระบบสาธารณสุข และความรุนแรงที่แฝงอยู่ในสังคม
"Joker" ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แต่เป็นภาพยนตร์ที่ลงลึกไปในจิตใจของตัวละครและตั้งคำถามกับผู้ชมว่าอะไรคือสิ่งที่ผลักดันให้คนเรากลายเป็นคนเลวร้าย มันไม่ได้เชิดชูความรุนแรง แต่เป็นการนำเสนอโศกนาฏกรรมของตัวละครที่ถูกสังคมทอดทิ้งและทำร้ายจนหมดสิ้นหนทาง แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ทรงคุณค่าและเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.4/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 68% , คะแนนจากผู้ชม 88%
สรุป
"Joker" คือภาพยนตร์ที่ทรงพลัง ลึกซึ้ง และทิ้งความรู้สึกไว้ในใจผู้ชมอย่างยาวนาน ด้วยการแสดงอันเป็นตำนานของ Joaquin Phoenix การกำกับที่เฉียบคม และการนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างเรื่องราวต้นกำเนิดของวายร้ายได้อย่างน่าจดจำและน่าเชื่อถือ ด้วยคะแนนจากนักวิจารณ์และผู้ชมที่สูง (โดยเฉพาะคะแนนจากผู้ชม) เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ "Joker" เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรดูอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจและชวนให้ขบคิด.