เวอชั่น ฟรี ทั้งคู่นะครับ
พบว่า ถ้าอยากได้ยอดวิวเยอะgpt5 แนะนำการทำวิดีโอได้ดีกว่า
ในฐานะคนทำคอนเทนต์วิดีโอ ผมเคยสงสัยว่า
ถ้าเอาโจทย์เดียวกันไปให้ AI สองตัวคือ GPT-5 และ Gemini แต่งเรื่อง ผลลัพธ์จะต่างกันแค่ไหน
ผมเลยใช้วิธีสร้าง “โลกจำลอง” ให้เหมือนกันทุกอย่าง แล้วมาลองดูว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร
โจทย์ที่ผมให้ทั้งคู่คือ
“หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง มีพระเอกชื่อเอก เด็กหนุ่มหน้าตาขี้เหร่แต่ใจดี
ได้รับพลังจากพระธุดงค์ ออกผจญภัยกับเพื่อน เจอผี เจอสัตว์ประหลาด และต้องปกป้องหมู่บ้าน”
ผลที่ได้จาก GPT-5
เริ่มเรื่องด้วยภาพหมู่บ้านยามเย็น เสียงจักจั่น เสียงลมพัดทุ่งข้าว
สร้างอารมณ์ให้คนดูอินตั้งแต่ต้น
มีจังหวะเล่าเรื่องที่พอดี เปิด – ผูกปม – พีค – คลาย
เหมาะกับการตัดต่อวิดีโอ
บทพูดตัวละครฟังแล้วเหมือนคุยกันจริงๆ ไม่ใช่คำบรรยายติดหนังสือ
แทรกมุกเล็กๆ ให้ผ่อนคลาย ก่อนกลับไปสู่เหตุการณ์ตื่นเต้น
ตัวอย่างฉากจาก GPT-5:
แสงพระอาทิตย์ตกกระทบรวงข้าวสีทอง “เอก” เดินพร้อมเพื่อนๆ
เสียงชาตรีหัวเราะแซว “ถ้าเจอผีนะ ขอยืนข้างหลังนะจ๊ะ”
แล้วเงาดำก็เคลื่อนผ่านทางเดิน เสียงหมาหอนก้องไปทั่ว…
ผลที่ได้จาก Gemini
เข้าโจทย์ตรง แต่เล่าแบบ “บรรยายสรุป” มากกว่าใส่อารมณ์หรือบรรยากาศ
ไม่มีการปูฉากให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านนั้นจริงๆ
บทพูดฟังดูแข็งๆ เหมือนอ่านนิยายมากกว่าใช้ในวิดีโอ
จังหวะเล่าเรื่องค่อนข้างเรียบ ทำให้ขาดความตื่นเต้น
ตัวอย่างฉากจาก Gemini:
เอกได้รับพลังจากพระธุดงค์และออกเดินทางไปปกป้องหมู่บ้าน
เขาและเพื่อนพบกับผีร้ายและต่อสู้จนชนะ
สรุปจากประสบการณ์
หลังลองเองกับมือ ผมพบว่า GPT-5 เข้าใจจิตวิทยาคนดูมากกว่า
มันรู้ว่าคนดูอยากรู้สึกมีส่วนร่วม อยากได้ภาพและอารมณ์ที่ชัด
และจัดจังหวะเล่าเรื่องให้เหมาะกับวิดีโอ
ส่วน Gemini แม้จะตอบโจทย์เนื้อเรื่อง
แต่เหมาะกับการเขียนสรุปหรือเนื้อหาแบบตัวหนังสือมากกว่า
พูดง่ายๆ ถ้าต้องการบทที่ “เปิดกล้องถ่ายได้เลย”
ผมเลือก GPT-5 แบบไม่ต้องคิดนาน
.............................
เพื่อนๆลองสรา้งโลกจำลองแล้วให้
ai สรา้งเรื่อง1ตอน เปรียบเทียบกันได้ครับ
ผมทดลองแล้ว พบว่า gpt5 เข้าใจคนดูคนอ่านได้ดีกว่า
(จากยอดวิว)
รีวิวจากประสบการณ์จริง: ทดลองสร้างโลกจำลองแล้วให้ AI แต่งเรื่อง – GPT-5 ชนะขาดเพราะเข้าใจคนดูมากกว่า
พบว่า ถ้าอยากได้ยอดวิวเยอะgpt5 แนะนำการทำวิดีโอได้ดีกว่า
ในฐานะคนทำคอนเทนต์วิดีโอ ผมเคยสงสัยว่า
ถ้าเอาโจทย์เดียวกันไปให้ AI สองตัวคือ GPT-5 และ Gemini แต่งเรื่อง ผลลัพธ์จะต่างกันแค่ไหน
ผมเลยใช้วิธีสร้าง “โลกจำลอง” ให้เหมือนกันทุกอย่าง แล้วมาลองดูว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร
โจทย์ที่ผมให้ทั้งคู่คือ
“หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง มีพระเอกชื่อเอก เด็กหนุ่มหน้าตาขี้เหร่แต่ใจดี
ได้รับพลังจากพระธุดงค์ ออกผจญภัยกับเพื่อน เจอผี เจอสัตว์ประหลาด และต้องปกป้องหมู่บ้าน”
ผลที่ได้จาก GPT-5
เริ่มเรื่องด้วยภาพหมู่บ้านยามเย็น เสียงจักจั่น เสียงลมพัดทุ่งข้าว
สร้างอารมณ์ให้คนดูอินตั้งแต่ต้น
มีจังหวะเล่าเรื่องที่พอดี เปิด – ผูกปม – พีค – คลาย
เหมาะกับการตัดต่อวิดีโอ
บทพูดตัวละครฟังแล้วเหมือนคุยกันจริงๆ ไม่ใช่คำบรรยายติดหนังสือ
แทรกมุกเล็กๆ ให้ผ่อนคลาย ก่อนกลับไปสู่เหตุการณ์ตื่นเต้น
ตัวอย่างฉากจาก GPT-5:
แสงพระอาทิตย์ตกกระทบรวงข้าวสีทอง “เอก” เดินพร้อมเพื่อนๆ
เสียงชาตรีหัวเราะแซว “ถ้าเจอผีนะ ขอยืนข้างหลังนะจ๊ะ”
แล้วเงาดำก็เคลื่อนผ่านทางเดิน เสียงหมาหอนก้องไปทั่ว…
ผลที่ได้จาก Gemini
เข้าโจทย์ตรง แต่เล่าแบบ “บรรยายสรุป” มากกว่าใส่อารมณ์หรือบรรยากาศ
ไม่มีการปูฉากให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านนั้นจริงๆ
บทพูดฟังดูแข็งๆ เหมือนอ่านนิยายมากกว่าใช้ในวิดีโอ
จังหวะเล่าเรื่องค่อนข้างเรียบ ทำให้ขาดความตื่นเต้น
ตัวอย่างฉากจาก Gemini:
เอกได้รับพลังจากพระธุดงค์และออกเดินทางไปปกป้องหมู่บ้าน
เขาและเพื่อนพบกับผีร้ายและต่อสู้จนชนะ
สรุปจากประสบการณ์
หลังลองเองกับมือ ผมพบว่า GPT-5 เข้าใจจิตวิทยาคนดูมากกว่า
มันรู้ว่าคนดูอยากรู้สึกมีส่วนร่วม อยากได้ภาพและอารมณ์ที่ชัด
และจัดจังหวะเล่าเรื่องให้เหมาะกับวิดีโอ
ส่วน Gemini แม้จะตอบโจทย์เนื้อเรื่อง
แต่เหมาะกับการเขียนสรุปหรือเนื้อหาแบบตัวหนังสือมากกว่า
พูดง่ายๆ ถ้าต้องการบทที่ “เปิดกล้องถ่ายได้เลย”
ผมเลือก GPT-5 แบบไม่ต้องคิดนาน
.............................
เพื่อนๆลองสรา้งโลกจำลองแล้วให้
ai สรา้งเรื่อง1ตอน เปรียบเทียบกันได้ครับ
ผมทดลองแล้ว พบว่า gpt5 เข้าใจคนดูคนอ่านได้ดีกว่า
(จากยอดวิว)