สวัสดีค่ะ คือเราโดนพี่สาวแท้เอาโน้ตบุ๊คเราไปขายเพราะมาทำงานไม่อยู่บ้าน และไม่มีใครสนใจของเราเลย
เรามาเที่ยวที่กรุงเทพฯตั้งแต่เดือนเมษายนและก็ได้งานทำเดือน พฤษภาคมจึงไม่ได้เอามาด้วย เพราะตอนแรกกะจะมาเที่ยวแล้วก็กลับจึง โน๊ตบุ๊คมันอยู่ในห้องเราค่ะเราฝากกูญแจไว้กับพ่อ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมมีญาติกลับไปที่ใต้ เราก็เลยขอให้พี่เราไปเปิดห้องแล้วก็เอาไปฝากกับญาติขึ้มากรุงเทพ พี่เราก็ไปเปิดเข้าไปเอาของ แต่ไม่เอาไปฝากให้ญาติเอามาให้เรา ตอนแรึก็สงสัยค่ะ อ้างนู่นนี่นั่นว่าพ่อไม่ให้เอาไปฝากบ้างไม่ว่างไปฝากบ้างจนญาติเรากลับ เราโทรไปถามคนที่บ้านเค้าก็บอกไม่ได้ห้าม เราก็เอะใจแล้ว ก็บอกพี่ฝห้เอากลับไปไว้ในห้องเหมือนเดินมันก็บอกเอาไปเก็บแล้วบอกให้ถ่ายรูปมาก็โมโหใส่เราบอก คนที่บ้านก็ยุ่งอะไรต่างๆนาๆ มารำคาญใส่เรา เราก็หยุดไป พอถึงกลางเดือนพฤษภาคม เรามีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ เลยโทรไปให้พ่อส่งมาให้ พ่อก็ไม่ส่งบอกส่งไปก็กลัวพังระหว่างทาง เราก็เออออไป เราก็ถามอยู่ตลอดว่ามันยังอยู่มั้ยเพราะเราไม่ค่อยไว้ใจพี่ตัวเอง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถามอีกเพราะงานยุ่งมาก จนเวลาผ่านไปจนถึงเดือนกรกฎาคม
เป็นเดือนที่แม่เราไม่สบายนอนโรงพยาบาลไม่มีคนอยู่บ้าน ประมาณ15วัน ช่วงนั้นเราก็ถามแค่สุขภาพเค้าเท่านั้นไม่ได้ถามเรื่องอื่นเลย พอแกออกจากโรงพยาบาลเราก็โทรไปถามสุขภาพแล้วก็เรื่องโน๊ตบุ๊คเรา วันนั้นแม่ตัดสินใจบอกเราว่ามันไม่อยู่แล้วพี่สาวเราทำจอแตกแล้วเอาไปซ่อม เราก็ห้ะ มันจะแตกได้ไงในเมื่ออยู่ในห้องเรา แม่บอกลูกพี่สาวเราทำตก เราก็ห้ะไปอีกรอบถ้าของอยู่ในห้องเราเก็จะเล่นได้ไง แม่ก็บอกตั้งแต่มิถุนายนแล้วที่พี่เราเอาไป ในหัวคือ

แล้วโดนเอาไปขายแน่นอนเพราะพี่เราไม่ใช่คนดี ชอบขโมยเอาของที่บ้านไปขายตลอดเราร้องเลยค่ะเจ็บใจเสียใจมากๆเพราะมันเป็นสิ่งที่เราซื้อเอง ถามแม่ไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น โกรธมากมายุ่งกับของเรา โทรไปทักไปก็ไม่บอกความจริงเลย ด่าเรากลับมาอีก บอกกูเอาไปซ่อม 3,000 เราว่าไม่ใช่ ค่าซ่อมรุ่นของเราถมาร้านซ่อม ก็ 5,000 แล้ว โกหกหน้าด้านมาก ถามซ่อมที่ไหนก็ไม่บอก เงียบใส่ พ่อแม่ก็บอกแค่ะไม่ต้องไปสนใจ สร้างใหม่เอาไม่ต้องเสียใจ เงิน 30,000 กับคนที่ทำงานเงินเดือน 10,400 หาเลี้ยงคนที่บ้านหักอย่างอื่นแทบไปเหลือเก็บพูดอย่างกับมันง่าย จะแจ้งความก็ห้ามเราก็ไม่มีหลักฐานด้วย พ่อแม่ก็ห้ามอีกบอกสงสารลูกมัน เอ้า ไม่ส่งสารเราเหรอโดนเอาเปรียบมาตลอด ไม่มีใครสนใจของเราเลยไม่สนใจความรู้สึกเราเลย
เราได้แต่ผูกกับตัวเองว่าทำใจอย่างเดียวเลย หันไปให้ใครช่วยก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ อาจจะมีพิมพ์ผิดบ้างเพราะแป้นดีด
เราโดนพี่สาวขโมยของของเราไปขาย แต่เราทำอะไรไม่ได้เลยทำยังไงดีค่ะ
เรามาเที่ยวที่กรุงเทพฯตั้งแต่เดือนเมษายนและก็ได้งานทำเดือน พฤษภาคมจึงไม่ได้เอามาด้วย เพราะตอนแรกกะจะมาเที่ยวแล้วก็กลับจึง โน๊ตบุ๊คมันอยู่ในห้องเราค่ะเราฝากกูญแจไว้กับพ่อ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมมีญาติกลับไปที่ใต้ เราก็เลยขอให้พี่เราไปเปิดห้องแล้วก็เอาไปฝากกับญาติขึ้มากรุงเทพ พี่เราก็ไปเปิดเข้าไปเอาของ แต่ไม่เอาไปฝากให้ญาติเอามาให้เรา ตอนแรึก็สงสัยค่ะ อ้างนู่นนี่นั่นว่าพ่อไม่ให้เอาไปฝากบ้างไม่ว่างไปฝากบ้างจนญาติเรากลับ เราโทรไปถามคนที่บ้านเค้าก็บอกไม่ได้ห้าม เราก็เอะใจแล้ว ก็บอกพี่ฝห้เอากลับไปไว้ในห้องเหมือนเดินมันก็บอกเอาไปเก็บแล้วบอกให้ถ่ายรูปมาก็โมโหใส่เราบอก คนที่บ้านก็ยุ่งอะไรต่างๆนาๆ มารำคาญใส่เรา เราก็หยุดไป พอถึงกลางเดือนพฤษภาคม เรามีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ เลยโทรไปให้พ่อส่งมาให้ พ่อก็ไม่ส่งบอกส่งไปก็กลัวพังระหว่างทาง เราก็เออออไป เราก็ถามอยู่ตลอดว่ามันยังอยู่มั้ยเพราะเราไม่ค่อยไว้ใจพี่ตัวเอง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถามอีกเพราะงานยุ่งมาก จนเวลาผ่านไปจนถึงเดือนกรกฎาคม
เป็นเดือนที่แม่เราไม่สบายนอนโรงพยาบาลไม่มีคนอยู่บ้าน ประมาณ15วัน ช่วงนั้นเราก็ถามแค่สุขภาพเค้าเท่านั้นไม่ได้ถามเรื่องอื่นเลย พอแกออกจากโรงพยาบาลเราก็โทรไปถามสุขภาพแล้วก็เรื่องโน๊ตบุ๊คเรา วันนั้นแม่ตัดสินใจบอกเราว่ามันไม่อยู่แล้วพี่สาวเราทำจอแตกแล้วเอาไปซ่อม เราก็ห้ะ มันจะแตกได้ไงในเมื่ออยู่ในห้องเรา แม่บอกลูกพี่สาวเราทำตก เราก็ห้ะไปอีกรอบถ้าของอยู่ในห้องเราเก็จะเล่นได้ไง แม่ก็บอกตั้งแต่มิถุนายนแล้วที่พี่เราเอาไป ในหัวคือ
เราได้แต่ผูกกับตัวเองว่าทำใจอย่างเดียวเลย หันไปให้ใครช่วยก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ อาจจะมีพิมพ์ผิดบ้างเพราะแป้นดีด