ผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่าวันนี้จะมาถึง
คือวันที่ความสัมพันธ์ไทย-เขมรมันแย่ที่สุดนับจากสงครามเย็น
2-3ปีก่อนผมยังตั้งกระทู้หาแรงงานต่างด้าว คนเขมรก็เป็นตัว เลือก นึงเพราะไซต์ งานอยู่อีสาน
จะลำบากเอาคนพม่าที่หนีสงครามมาทำงานก็ใช่ที่ คนพม่าเขาก็ไม่ยอมมา
ช่วงปี2565-2566 ผมเริ่มมีความเป็นชาตินิยม เพราะเขมรในเน็ตทำตัวกวนตีนเรื่องเคลมมวยไทย จากนั้นก็เคลมทุกอย่างเหมือนตั้งใจกวนตีนไปเรื่อย
แต่ก็ไม่คิดว่ามาปีนี้ 2568 ความสัมพันธ์มันจะดิ่งลงเหวได้ขนาดนี้
วิธีที่ฮุนเซนใช้ มันก็เหมือนกรณี ฮามาส-อิสราเอล คืออ่อนแอกว่าเลยใช้วิธีลอบกัด โจมตีก่อนแล้ววิ่งไปฟ้องชาวโลก แต่สิ่งที่ฮามาสHiAกว่าผู้นำเขมร เห็นจะเป็นการจับตัวประกันชาติอื่น ส้วนอิสราเอลก็โต้กลับรุนแรงกว่ารัฐไทยพันเท่า แต่นั่นก็เป็นปัญหาของเขา
ประเด็นที่อยากย้ำเตือน คือ
ถึงแม้ว่าวิธีการลอบกัดของฝ่ายที่อ่อนแอกว่า แบบเขมรทำกับไทย มันจะเหมือนกับฮามาส แต่เป้าประสงค์หลักของฮุนเซนไม่ใช่การยึดเขตแดนหรือปราสาท แต่เป็นการปกป้องอาณาจักรสีดำ ปกป้องรายได้จากธุรกิจอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งมีคนวิเคราะห์แล้วทั้งสื่อนอก สื่อใน แต่อาจจะไม่ค่อยแมส เพราะสื่อไทยประโคมข่าวโจมตีชินวัตรมันเอื้อประโยชน์ให้คนไทยบางกลุ่มมากกว่านำเสนอความจริง
ผมเห็นนักวิชาการหลายคนยังหลงทาง ยังพูดเรื่องเขตแดน มรดกเจ้าอาณานิคม พูดราวกับว่า
ความผิดทั้งหมดเป็นของฝรั่ง และโทษแต่พวกคลั่งชาติที่ เถียงกันจะเอาทุกตารางนิ้ว
ซึ่งอาจจะจริงบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก
สาเหตุของปัญหาชายแดน มาจากผู้นำกัมพูชา เป็นส่วนใหญ่ การก่อหวอด สร้างความวุ่นวายเรื่องข้อพิพิาท
ทุกครั้ง เริ่มจากผู้นำเขมร ไม่ใช่ฝั่งไทย
(แม้ว่ากลุ่มผลประโยชน์ในไทยจะฉวยโอกาสในการทำร้ายศัตรูทางการเมืองในชาติเดียวกันก็ตาม)
ผู้นำเขมรไม่ได้ใส่ใจปราสาท เห็นได้จากการวางกับระเบิดหรือใช้ตัวปราสาทเป็นบังเกอร์
ในขณะเดียวกันรัฐบาลไทย-ทุกรัฐบาล- ตั้งแต่หลังครามเย็น ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเขตแดน เพราะมองชายแดนเป็นบริเวณการค้า รัฐบาลประยุทธ์เลยยอมให้เขมรตั้งชุมชน ตั้งคาสิโน ตั้งเสาสัญญาณ ส่วนรัฐบาลเพื่อไทย นายกมองแต่เรื่องการค้าชายแดนเลยโทรไปต่อรองเปิดด่าน จนกระทั่งมีประเด็นคลิปเสียง
ตัดภาพมาตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ไทยเขมรมันแย่ในระดับที่ฟื้นฟูให้เหมือนก่อนปีนี้ ยากมาก
การเล่นบทคนดีไม่สนุกเท่าไหร่ ตราบใดที่เครือข่ายฮุนเซนยังพร่ำเสอนคนเขมรให้มองไทยเป็นศัตรู ในขณะที่ รัฐบาลไทยพยายามคิดเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจ เลยโดนเขาเอาเปรียบตลอด ตั้งแต่ยอมให้เคลมวัฒนธรรม ยอมแบ่งนักท่องเที่ยวจากการลงทุนซอฟต์พาวเวอร์ แบบที่เขมรไม่ได้ออกแรงอะไรมาก และสุดท้ายก็โดนทำร้ายทุกครั้งที่ผู้นำเขมรอยากเพิ่มคะแนนนิยมหลังจากเริ่มเสื่อมอำนาจ
ร่ายยาวมานาน มาถึงคำถามที่ตั้งเป็นหัวข้อ
คนไทยควรมีท่าทียังไงกับคนเขมร
ที่ผ่านมา คนไทย อาจจะเหยียดแรงงานต่างด้าว แต่ก็เหยียดในมิติทางเศรษฐกิจ ไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วไปที่คนรวยเหยียดคนจน
แบบเรียนของไทยอาจจะมีเหยียดเขมรด้วยเรื่องเล่าพระยาละแวก แต่พม่ามีซีนมากกว่าในบรรดาเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ และเราก็ไมไ่ด้เกลียดพม่ามากเท่ากับที่แบบเรียนไทยหมกหมุ่นกับการเสียกรุง
เมื่อเราพยายามจะให้ความเป็นธรรมกับคนเขมรที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮุนเซน ที่ใช้ไทยเป็นตัวร้ายในนิทานประวัติศาสตร์ชาตินิยม
สุดท้ายแล้วความปรารถนาดีที่เรามีกับเพื่อนมนุษย์ ก็จะถูกทำให้ดูกลายเป็นคนโง่ ?
หรือเราจะยอมแลก อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ประนีประนอม" และไม่มีปัญหาการเหยียดชาติพันธุ์ เอามาสังเวยให้กับการป้องกันการถูกผู้นำเขมรเอาเปรียบ(ด้วยการใช้คนเขมรเป็นตัวประกัน)
ผมพูดเรื่องนี้ เพราะ สื่อที่ดูเป็นสายสันติภาพหลายคน เช่น กรุณา บัวคำศรี หรือกระทั่งคนที่ทำงานให้เว็บประชาไท บางคนก็เริ่มรำคาญ การที่ฮุนเซนใช้คนเขมรเป็นตัวประกัน ทำให้คนไทยสงสาร เห็นใจคนรากหญ้า เพื่อผู้นำเขมรจะได้เอาเปรียบเราทุกครั้งที่มีโอกาส
ผมไม่แน่ใจว่า ต่อไป คนไทยจะสูญเสียความประนีประนอมแบบที่เป็นอยู่มั้ย แต่ที่แน่ๆ เรื่องจะยังไม่ได้รับการแก้ไข และอาจยิ่งเลวร้ายลง ถ้าฮุนเซนยังอยู่ในอำนาจ
ฮุนเซน เอาคนเขมรเป็นตัวประกัน แล้วคนไทยควรมีท่าทียังไงต่อคนเขมรที่อยู่ในไทย?
คือวันที่ความสัมพันธ์ไทย-เขมรมันแย่ที่สุดนับจากสงครามเย็น
2-3ปีก่อนผมยังตั้งกระทู้หาแรงงานต่างด้าว คนเขมรก็เป็นตัว เลือก นึงเพราะไซต์ งานอยู่อีสาน
จะลำบากเอาคนพม่าที่หนีสงครามมาทำงานก็ใช่ที่ คนพม่าเขาก็ไม่ยอมมา
ช่วงปี2565-2566 ผมเริ่มมีความเป็นชาตินิยม เพราะเขมรในเน็ตทำตัวกวนตีนเรื่องเคลมมวยไทย จากนั้นก็เคลมทุกอย่างเหมือนตั้งใจกวนตีนไปเรื่อย
แต่ก็ไม่คิดว่ามาปีนี้ 2568 ความสัมพันธ์มันจะดิ่งลงเหวได้ขนาดนี้
วิธีที่ฮุนเซนใช้ มันก็เหมือนกรณี ฮามาส-อิสราเอล คืออ่อนแอกว่าเลยใช้วิธีลอบกัด โจมตีก่อนแล้ววิ่งไปฟ้องชาวโลก แต่สิ่งที่ฮามาสHiAกว่าผู้นำเขมร เห็นจะเป็นการจับตัวประกันชาติอื่น ส้วนอิสราเอลก็โต้กลับรุนแรงกว่ารัฐไทยพันเท่า แต่นั่นก็เป็นปัญหาของเขา
ประเด็นที่อยากย้ำเตือน คือ
ถึงแม้ว่าวิธีการลอบกัดของฝ่ายที่อ่อนแอกว่า แบบเขมรทำกับไทย มันจะเหมือนกับฮามาส แต่เป้าประสงค์หลักของฮุนเซนไม่ใช่การยึดเขตแดนหรือปราสาท แต่เป็นการปกป้องอาณาจักรสีดำ ปกป้องรายได้จากธุรกิจอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งมีคนวิเคราะห์แล้วทั้งสื่อนอก สื่อใน แต่อาจจะไม่ค่อยแมส เพราะสื่อไทยประโคมข่าวโจมตีชินวัตรมันเอื้อประโยชน์ให้คนไทยบางกลุ่มมากกว่านำเสนอความจริง
ผมเห็นนักวิชาการหลายคนยังหลงทาง ยังพูดเรื่องเขตแดน มรดกเจ้าอาณานิคม พูดราวกับว่า
ความผิดทั้งหมดเป็นของฝรั่ง และโทษแต่พวกคลั่งชาติที่ เถียงกันจะเอาทุกตารางนิ้ว
ซึ่งอาจจะจริงบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก
สาเหตุของปัญหาชายแดน มาจากผู้นำกัมพูชา เป็นส่วนใหญ่ การก่อหวอด สร้างความวุ่นวายเรื่องข้อพิพิาท
ทุกครั้ง เริ่มจากผู้นำเขมร ไม่ใช่ฝั่งไทย
(แม้ว่ากลุ่มผลประโยชน์ในไทยจะฉวยโอกาสในการทำร้ายศัตรูทางการเมืองในชาติเดียวกันก็ตาม)
ผู้นำเขมรไม่ได้ใส่ใจปราสาท เห็นได้จากการวางกับระเบิดหรือใช้ตัวปราสาทเป็นบังเกอร์
ในขณะเดียวกันรัฐบาลไทย-ทุกรัฐบาล- ตั้งแต่หลังครามเย็น ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเขตแดน เพราะมองชายแดนเป็นบริเวณการค้า รัฐบาลประยุทธ์เลยยอมให้เขมรตั้งชุมชน ตั้งคาสิโน ตั้งเสาสัญญาณ ส่วนรัฐบาลเพื่อไทย นายกมองแต่เรื่องการค้าชายแดนเลยโทรไปต่อรองเปิดด่าน จนกระทั่งมีประเด็นคลิปเสียง
ตัดภาพมาตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ไทยเขมรมันแย่ในระดับที่ฟื้นฟูให้เหมือนก่อนปีนี้ ยากมาก
การเล่นบทคนดีไม่สนุกเท่าไหร่ ตราบใดที่เครือข่ายฮุนเซนยังพร่ำเสอนคนเขมรให้มองไทยเป็นศัตรู ในขณะที่ รัฐบาลไทยพยายามคิดเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจ เลยโดนเขาเอาเปรียบตลอด ตั้งแต่ยอมให้เคลมวัฒนธรรม ยอมแบ่งนักท่องเที่ยวจากการลงทุนซอฟต์พาวเวอร์ แบบที่เขมรไม่ได้ออกแรงอะไรมาก และสุดท้ายก็โดนทำร้ายทุกครั้งที่ผู้นำเขมรอยากเพิ่มคะแนนนิยมหลังจากเริ่มเสื่อมอำนาจ
ร่ายยาวมานาน มาถึงคำถามที่ตั้งเป็นหัวข้อ
คนไทยควรมีท่าทียังไงกับคนเขมร
ที่ผ่านมา คนไทย อาจจะเหยียดแรงงานต่างด้าว แต่ก็เหยียดในมิติทางเศรษฐกิจ ไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วไปที่คนรวยเหยียดคนจน
แบบเรียนของไทยอาจจะมีเหยียดเขมรด้วยเรื่องเล่าพระยาละแวก แต่พม่ามีซีนมากกว่าในบรรดาเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ และเราก็ไมไ่ด้เกลียดพม่ามากเท่ากับที่แบบเรียนไทยหมกหมุ่นกับการเสียกรุง
เมื่อเราพยายามจะให้ความเป็นธรรมกับคนเขมรที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮุนเซน ที่ใช้ไทยเป็นตัวร้ายในนิทานประวัติศาสตร์ชาตินิยม
สุดท้ายแล้วความปรารถนาดีที่เรามีกับเพื่อนมนุษย์ ก็จะถูกทำให้ดูกลายเป็นคนโง่ ?
หรือเราจะยอมแลก อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ประนีประนอม" และไม่มีปัญหาการเหยียดชาติพันธุ์ เอามาสังเวยให้กับการป้องกันการถูกผู้นำเขมรเอาเปรียบ(ด้วยการใช้คนเขมรเป็นตัวประกัน)
ผมพูดเรื่องนี้ เพราะ สื่อที่ดูเป็นสายสันติภาพหลายคน เช่น กรุณา บัวคำศรี หรือกระทั่งคนที่ทำงานให้เว็บประชาไท บางคนก็เริ่มรำคาญ การที่ฮุนเซนใช้คนเขมรเป็นตัวประกัน ทำให้คนไทยสงสาร เห็นใจคนรากหญ้า เพื่อผู้นำเขมรจะได้เอาเปรียบเราทุกครั้งที่มีโอกาส
ผมไม่แน่ใจว่า ต่อไป คนไทยจะสูญเสียความประนีประนอมแบบที่เป็นอยู่มั้ย แต่ที่แน่ๆ เรื่องจะยังไม่ได้รับการแก้ไข และอาจยิ่งเลวร้ายลง ถ้าฮุนเซนยังอยู่ในอำนาจ