"รักชนก-สหัสวัต" ยื่น ก.ล.ต. สอบบริษัทประเมินราคาตึก Skyy9 ชี้ ลงทุน 7 พันล้าน แพงเกินจริง
.
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ส.ค.68 ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน พร้อมด้วย นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบบริษัทผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน กรณีการประเมินมูลค่าตึกสกายไนน์ฯ ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์ในการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม
.
น.ส.รักชนก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนและคณะ เคยออกมาเปิดโปงข้อมูลกรณีสำนักงานประกันสังคม เข้าลงทุนในตึกสกายไนน์ฯ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงผิดปกติ จนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างกว้างขวาง และต่อมามีการฟ้องร้องดำเนินคดีรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง
.
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งพบข้อมูลสำคัญ คือ มีการดำเนินการลงทุนอย่างเร่งรีบผิดปกติ มูลค่าที่แท้จริงของอาคารอยู่ที่ประมาณ 3,400–3,800 ล้านบาท แต่สำนักงานประกันสังคม ตัดสินใจลงทุนถึง 7,000 ล้านบาท และมีความผิดพลาดในการดำเนินการและการให้ข้อมูล อันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานประกันสังคมและผู้ประกันตน
.
"แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาแทน โดยยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน เราจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนสุดท้าย คือการยื่นเรื่องให้ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบ " น.ส.รักชนก กล่าว
.
น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจดีว่าการเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้ อาจทำให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบบ้าง แต่ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินของประชาชน จึงขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากใครไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ควรกังวล แต่หากทำผิดแล้วยังพยายามบิดเบือน ก็ต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้น
.
ในประเด็นนี้ น.ส.รักชนก ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบทบาทของบริษัท MFC ซึ่งเป็นผู้เสนอขายตึกสกายไนน์ฯ ให้กับสำนักงานประกันสังคม โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้เดียวที่เสนอทรัพย์สินนี้ และยังเป็นผู้จัดหาบริษัทประเมินราคาอีกด้วย ซึ่งควรจะต้องได้รับการจัดหาจากทั้งสองฝ่ายอย่างอิสระ เพื่อให้การประเมินเป็นธรรมและน่าเชื่อถือ และเมื่อ MFC เป็นทั้งผู้เสนอขาย ผู้จัดหาผู้ประเมิน และปัจจุบันยังเป็นผู้บริหารจัดการอาคารด้วย จึงต้องตั้งข้อสงสัยถึงความเหมาะสม และขอให้ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด
.
นายสหัสวัต กล่าวเสริมว่า หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาประเมินของอาคารสูงผิดปกติ มาจากการอ้างว่าอาคารได้รับใบรับรองอาคารสีเขียว (Green Building) ซึ่งควรจะทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้น แต่จากการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ พบว่าไม่มีใบรับรองดังกล่าวอยู่จริง
.
"ถ้าหลักฐานเท็จถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุน ย่อมต้องมีผู้รับผิดชอบ และหากพบว่าเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต ก.ล.ต. ควรพิจารณาถึงการเพิกถอนใบอนุญาตการลงทุนของบริษัทที่เกี่ยวข้อง " นายสหัสวัต กล่าว
.
เมื่อถามถึงระยะเวลาที่คาดว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ นายสหัสวัต กล่าวว่า เอกสารที่ส่งให้ ก.ล.ต. มีจำนวนมาก และเรื่องนี้มีผลกระทบต่อกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ จึงเชื่อว่า ก.ล.ต. จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ
.
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีความพยายามในการล็อบบี้จากบริษัทบางแห่ง รวมถึงความพยายามให้ลดระดับการตรวจสอบ แต่เธอยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่
.
อีกทั้ง ระหว่างทางมีหลายฝ่ายพยายามบอกให้เราผ่อนแรง แต่เราขอยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดหยุดการทำงานของเราได้ เพราะเราต้องรับผิดชอบต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน เราทำเพื่อความโปร่งใสของการบริหารกองทุนที่ประชาชนฝากความหวังไว้
.
เมื่อถามว่าการเปิดโปงครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองอย่างชัดเจน แต่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีซึ่งอาจเป็นการพยายามปิดปากทางการเมือง
.
“รัฐบาลชุดนี้มีเสียงในสภาที่เปราะบาง เราไม่แน่ใจว่าเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจบางคน รัฐบาลจะกล้าตรวจสอบอย่างจริงจังหรือไม่ ” น.ส.รักชนก ทิ้งท้าย
.
.
ด่วน! GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ หวังสถานการณ์คลี่คลาย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9883997
.
GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติ ลงนามบันทึกผลการประชุม หวังคลี่คลาย สถานการณ์ชายแดน นำมาซึ่งสันติภาพ
.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ส.ค.2568 ที่ประเทศมาเลเซีย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา
.
จากนั้น พล.อ
.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.
เตีย เสรย-ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุม ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ทั้งสองฝ่ายหารือ และตกลงกันตลอด 3 วันที่ผ่านมา
.
ด้วยความหวังให้สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาคลี่คลาย นำมาซึ่งสันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมถึงไทยสนับสนุนการใช้กลไกทวิภาคี ระหว่างกันในการพูดคุยอย่างมีประสิทธิภาพ
.
The Extraordinary Session of the General Border Committee (GBC) Meeting between Thailand and Cambodia agree on a 13-point ceasefire implementation agreement, with representatives from both countries signing agreed minutes aimed at resolving border tensions and returning peace to the border
.
The Extraordinary Session of the General Border Committee (GBC) Meeting between Thailand and Cambodia lasted over one hour, at the end of which both sides agreed on a common approach contained in the 13-point ceasefire implementation agreement, which was developed jointly by the Secretariats of both sides.
Following this, General Nattaphon Narkphanit, Deputy Minister of Defense and Acting Minister of Defence, and General Tea Seiha, Deputy Prime Minister and Minister of Defence of Cambodia, signed agreed minutes, detailing the agreements reached over the past three days. The Meeting aimed to resolve the Thai-Cambodian border tensions, leading to peace and peaceful coexistence among the people of both countries, with Thailand underscoring the need for effective use of bilateral mechanisms for dialogue.
.
.
.
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค-ธุรกิจ ก.ค. 68 ดิ่งต่อกันเดือนที่ 6 พิษภาษีทรัมป์-ปะทะชายแดน-การเมืองไม่นิ่ง
.
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย(ภาคธุรกิจ)เดือนกรกฎาคม 2568 ว่าดัชนีปรับลดลงจากระดับ 46.7 เป็น 45.9 โดยยังคงมีสัญญาณปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน
.
นายวชิร กล่าวว่า เนื่องจากภาคธุรกิจความกังวลต่อแนวทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และการตอบโต้ของประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบของนโยบายทรัมป์ รวมถึง การเมืองไม่มีเสถียรภาพหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายไทย -กัมพูชา ที่ส่งผลกับประชาชน รวมถึงการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนชายแดนที่ต้องหยุดชะงัก
.
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน กรกฎาคม 2568 ว่าดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 52.7 เป็น 51.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 31 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา
.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง และมีปัญหาสงครามการค้า สงครามชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ปรับลดลงได้อย่างต่อเนื่อง
.
“ดัชนีทั้ง 2 รายการ ทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ในเดือนกรกฎาคม ตกลงต่อเนื่อง และตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือนทั้ง 2 รายการ เพราะทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจเอง กังวลปัญหา เสถียรภาพรัฐบาล สงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 และความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยซึมลงต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 2 ครั้งรวม 0.5% อยู่ที่ 1.75% แต่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นช้าและการเข้าถึงสินเชื่อลำบาก” นายธนวรรธน์ กล่าวว่า
.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจนั้นดัชนีความเชื่อมั่นตกลงทุกภาคและมีค่าต่ำกว่า 50 ดังนั้น จึงเสนอให้ภาครัฐ เร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ แผนการเจรจาต่อรองภาษีกับประเทศมหาอำนาจที่มีผลต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม
.
รวมถึงการ ออกมาตรการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งการบริหารจัดการการค้าชายแดน , หามาตรการป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง,หามาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นที่สามารถเพิ่มยอดคำสั่งซื้อสินค้าและบริการในทุกสาขาธุรกิจ
.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ รวมทั้งขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการส่งออกและภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในภูมิภาคได้ รวมไปถึง ออกมาตรการส่งเสริมช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังคงเป้าการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ 1.5-2% หรือค่ากลางที่ 1.7%
JJNY : "รักชนก-สหัสวัต"ยื่นก.ล.ต.│GBC ไทย-กัมพูชาเห็นพ้องหยุดยิง│เชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค.68 ดิ่ง│สื่ออาหรับรายงานผลกระทบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ด่วน! GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ หวังสถานการณ์คลี่คลาย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9883997
.
GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติ ลงนามบันทึกผลการประชุม หวังคลี่คลาย สถานการณ์ชายแดน นำมาซึ่งสันติภาพ
.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ส.ค.2568 ที่ประเทศมาเลเซีย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา
.
จากนั้น พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.เตีย เสรย-ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุม ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ทั้งสองฝ่ายหารือ และตกลงกันตลอด 3 วันที่ผ่านมา
.
ด้วยความหวังให้สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาคลี่คลาย นำมาซึ่งสันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมถึงไทยสนับสนุนการใช้กลไกทวิภาคี ระหว่างกันในการพูดคุยอย่างมีประสิทธิภาพ
.
The Extraordinary Session of the General Border Committee (GBC) Meeting between Thailand and Cambodia agree on a 13-point ceasefire implementation agreement, with representatives from both countries signing agreed minutes aimed at resolving border tensions and returning peace to the border
.
The Extraordinary Session of the General Border Committee (GBC) Meeting between Thailand and Cambodia lasted over one hour, at the end of which both sides agreed on a common approach contained in the 13-point ceasefire implementation agreement, which was developed jointly by the Secretariats of both sides.
Following this, General Nattaphon Narkphanit, Deputy Minister of Defense and Acting Minister of Defence, and General Tea Seiha, Deputy Prime Minister and Minister of Defence of Cambodia, signed agreed minutes, detailing the agreements reached over the past three days. The Meeting aimed to resolve the Thai-Cambodian border tensions, leading to peace and peaceful coexistence among the people of both countries, with Thailand underscoring the need for effective use of bilateral mechanisms for dialogue.
.
.
https://www.matichon.co.th/economy/news_5312132