🚨 [แชร์ประสบการณ์จริง] จ่ายช้า 6 วัน พนักงานทวงหนี้บอก "เห็นข้อมูลทั้งหมดค่ะ" แล้วพูดถึงบัตรเครดิตที่ไม่เกี่ยว! 😱
โทรมาทวงสินเชื่อ แต่กลับพูดถึงบัตรเครดิต แล้วยังอ้างว่า "เห็นหมด" ทั้งที่คนละบัญชี! ต่อสู้ PDPA มา 1 เดือนครึ่ง ธนาคารยังตอบไม่ตรงประเด็น 💸
📞 บทสนทนาที่ทำให้ผมอึ้ง
พนักงาน: "คุณมีสินเชื่อค้างอยู่ 1 งวดนะคะ"
ผม: "โอเคครับ ดำเนินการให้ครับ"
พนักงาน: "ถ้าชำระล่าช้าแบบนี้ จะมีผลกับ บัตร... ด้วยนะคะ"
ผม: "เดี๋ยวนะครับ คุณเห็นข้อมูลบัตรเครดิตผมด้วยเหรอ?"
พนักงาน: "เห็นหมดค่ะ ทั้งสินเชื่อ บัตรเครดิต ค่ะ"
ผม: "แต่มันคนละบัญชีกันนะครับ คนละเรื่องกัน คนละประเภทกัน และการทวงควรทวงในสิ่งที่เจาะจง"
พนักงาน: "..." วางสาย 📞
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนมีคนแอบ "มองทะลุ" ข้อมูลการเงินทั้งหมด ทั้งที่เขาโทรมาแค่เรื่องสินเชื่อบัญชีเดียว!
⏰ Timeline การต่อสู้ (รายละเอียดครบ เพราะเป็นเรื่องจริง)
📅 24 มิ.ย. 2568 - วันเกิดเหตุ
พนักงานบริษัททวงหนี้โทรมา
พูดถึงบัญชีอื่นทันที โดยไม่ได้ถาม
ยืนยันว่า "เห็นข้อมูลทั้งหมด"
วางสายหลังผมโต้แย้ง
📅 30 มิ.ย. - เริ่มต้นการต่อสู้
ยื่นร้องเรียน ธปท. (ธนาคารแห่งประเทศไทย)
ขอตรวจสอบคลิปเสียงและเอกสารความยินยอมต่างๆ
📅 9 ก.ค. - แจ้งหน่วยงานเพิ่มเติม
ยื่นเรื่องผ่าน สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และทราบว่า 21 ก.ค. ส่งต่อให้ PDPC)
📅 17 ก.ค. - ส่งข้อความไปติดตามทางช่อง Chat ของ ธปท
โทรติดตาม ธปท. → ได้คำตอบว่าธนาคารควรตอบภายใน 15 วัน
ส่งจดหมายถึงฝ่ายกฎหมายธนาคาร
📅 18 ก.ค. - คำตอบแรก (ที่ไม่ตอบ)
เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอก:
"บริษัทในเครือมีหลายบริษัทครับ เลยเจาะจงไม่ได้ และตอนสมัครก็กดไปได้อ่านไหม เห็นไหม"
🤔 คำถาม: ถ้าบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าจะยินยอมโดยไม่รู้ตัวตลอดไปเหรอ?
📅 21 ก.ค. - หนังสือชี้แจง (ที่ไม่ชี้แจง)
ธนาคารส่งหนังสือตอบกลับ แต่:
❌ ไม่พูดถึงวันเกิดเหตุ
❌ ไม่อ้างถึงคลิปเสียง
❌ ไม่ตอบตรงประเด็น
📅 23 ก.ค. - โต้กลับ
ส่งหนังสือโต้แย้งการชี้แจงที่บ่ายเบี่ยง
📅 3 ส.ค. - ขั้นสุดท้าย
ส่งอีเมลถึง DPO (เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล) และผู้บริหารระดับสูง
📅 7 ส.ค. - วันนี้
ยังคงเงียบ 🤐
🔥 คำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้
บริษัททวงหนี้เห็นข้อมูลบัตรเครดิตได้อย่างไร? (คนละบัญชี คนละเรื่อง)
การพูดว่า "จะมีผลกับบัญชีอื่น" เหมาะสมไหม? (กดดันทางจิตใจ)
Consent ที่ให้ตอนสมัคร = ใช้เปิดเผยได้ตลอดชีวิตเหรอ?
ทำไมธนาคารไม่ยอมตรวจคลิปเสียงที่ร้องขอ? 🎧
🎯 สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้
✅ สิทธิที่เราควรรู้
ความยินยอม ต้อง "เฉพาะเจาะจง" ไม่ใช่คลุมเครือ
พนักงาน ควรเข้าถึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น
PDPA ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็น "สิทธิ" ของเรา
การร้องเรียน ยังดีกว่าปล่อยให้เกิดซ้ำ
🔺 Red Flags ที่ต้องระวัง
พนักงานพูดถึงบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้อง
อ้างว่า "เห็นข้อมูลหมด" โดยไม่อธิบาย
ใช้ข้อมูลส่วนตัวเป็นเครื่องมือกดดัน
องค์กรตอบคำถามแบบบ่ายเบี่ยง
😤 สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดที่สุด
ถ้าธนาคารมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้อง...
✅ ข้อมูลเปิดเผยได้
✅ การพูดของพนักงานเหมาะสม
✅ เอกสารครบถ้วนแล้ว
แล้วทำไมไม่รีบชี้แจงอย่างตรงประเด็นตั้งแต่แรก? 🤷♂️
ผมให้โอกาสแล้ว ขอคลิปเสียง ขอเอกสาร แต่ได้แค่คำตอบที่บ่ายเบี่ยง ไม่แตะคลิป ไม่ตอบใจความ
ถ้าเอกสารชัดเจนตั้งแต่แรก เรื่องนี้ก็คงจบไปนานแล้ว!
🙏 ขอบคุณหน่วยงานที่ช่วยคนเล็กคนน้อย
ธปท. - มีระบบรับเรื่องอย่างเป็นทางการ
สคบ. - ช่วยตรวจสอบความเป็นธรรม
PDPC - ความหวังในยุคข้อมูลส่วนตัว
💬 สำหรับคนที่คิดว่า "ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่"
❓ "คุณก็จ่ายช้าเอง จะมาโวยวายทำไม?"
ตอบ: ใช่ จ่ายช้า 6 วัน แต่ไม่เคยหนีหนี้ สิ่งที่ร้องเรียนคือ การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
❓ "บริษัทในเครือก็เป็นเครือเดียวกัน จะอะไรนักหนา?"
ตอบ: อยู่ในเครือ ≠ ดูข้อมูลได้หมด PDPA ต้อง "ความยินยอมเฉพาะเจาะจง"
❓ "เขาอาจพูดลอยๆ ก็ได้นี่?"
ตอบ: ถ้าพูดลอยๆ แต่ตรงทุกบัญชี = มีข้อมูลจริง หรือระบบมีช่องโหว่หนักมาก
⚠️ ข้อคิดสำคัญ
ถ้าเรายอมให้เรื่องเล็กๆ แบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติ...
วันหนึ่ง "ข้อมูลส่วนตัวของคุณ" อาจไม่เหลือคำว่า "ส่วนตัว" อีกต่อไป 📱💳
🎯 สรุปท้ายที่สุด
ผมเรียกเพื่อต้องการคำอธิบายว่า "ข้อมูลของผมไปอยู่ในมือใคร"
ถ้าวันหนึ่งลูกคุณ หรือพ่อแม่คุณ ได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่พูดว่า:
"ผมเห็นข้อมูลหมดเลยนะครับ รวมถึงบัญชีบัตรเครดิตของคุณด้วย"
แล้วคนในครอบครัวคุณไม่รู้ว่าเขามีสิทธิพูดแบบนั้นหรือไม่...
คุณจะยังคิดว่า "ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่" อยู่ไหม? 🤔
📢 ถ้าคุณคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรถูกมองข้าม
กด "แนะนำ" หรือแชร์ต่อ เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่า PDPA ไม่ใช่เรื่องไกลตัว!
#PDPA #ข้อมูลส่วนตัว #สิทธิผู้บริโภค #ธนาคาร #ประสบการณ์จริง
🚨 [แชร์ประสบการณ์จริง] จ่ายช้า 6 วัน บริษัทในเครือธนาคารโทรมาทวงหนี้กดดันอ้อมๆและบอก "เห็นข้อมูลทั้งหมด"
โทรมาทวงสินเชื่อ แต่กลับพูดถึงบัตรเครดิต แล้วยังอ้างว่า "เห็นหมด" ทั้งที่คนละบัญชี! ต่อสู้ PDPA มา 1 เดือนครึ่ง ธนาคารยังตอบไม่ตรงประเด็น 💸
📞 บทสนทนาที่ทำให้ผมอึ้ง
พนักงาน: "คุณมีสินเชื่อค้างอยู่ 1 งวดนะคะ"
ผม: "โอเคครับ ดำเนินการให้ครับ"
พนักงาน: "ถ้าชำระล่าช้าแบบนี้ จะมีผลกับ บัตร... ด้วยนะคะ"
ผม: "เดี๋ยวนะครับ คุณเห็นข้อมูลบัตรเครดิตผมด้วยเหรอ?"
พนักงาน: "เห็นหมดค่ะ ทั้งสินเชื่อ บัตรเครดิต ค่ะ"
ผม: "แต่มันคนละบัญชีกันนะครับ คนละเรื่องกัน คนละประเภทกัน และการทวงควรทวงในสิ่งที่เจาะจง"
พนักงาน: "..." วางสาย 📞
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนมีคนแอบ "มองทะลุ" ข้อมูลการเงินทั้งหมด ทั้งที่เขาโทรมาแค่เรื่องสินเชื่อบัญชีเดียว!
⏰ Timeline การต่อสู้ (รายละเอียดครบ เพราะเป็นเรื่องจริง)
📅 24 มิ.ย. 2568 - วันเกิดเหตุ
พนักงานบริษัททวงหนี้โทรมา
พูดถึงบัญชีอื่นทันที โดยไม่ได้ถาม
ยืนยันว่า "เห็นข้อมูลทั้งหมด"
วางสายหลังผมโต้แย้ง
📅 30 มิ.ย. - เริ่มต้นการต่อสู้
ยื่นร้องเรียน ธปท. (ธนาคารแห่งประเทศไทย)
ขอตรวจสอบคลิปเสียงและเอกสารความยินยอมต่างๆ
📅 9 ก.ค. - แจ้งหน่วยงานเพิ่มเติม
ยื่นเรื่องผ่าน สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และทราบว่า 21 ก.ค. ส่งต่อให้ PDPC)
📅 17 ก.ค. - ส่งข้อความไปติดตามทางช่อง Chat ของ ธปท
โทรติดตาม ธปท. → ได้คำตอบว่าธนาคารควรตอบภายใน 15 วัน
ส่งจดหมายถึงฝ่ายกฎหมายธนาคาร
📅 18 ก.ค. - คำตอบแรก (ที่ไม่ตอบ)
เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอก:
"บริษัทในเครือมีหลายบริษัทครับ เลยเจาะจงไม่ได้ และตอนสมัครก็กดไปได้อ่านไหม เห็นไหม"
🤔 คำถาม: ถ้าบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าจะยินยอมโดยไม่รู้ตัวตลอดไปเหรอ?
📅 21 ก.ค. - หนังสือชี้แจง (ที่ไม่ชี้แจง)
ธนาคารส่งหนังสือตอบกลับ แต่:
❌ ไม่พูดถึงวันเกิดเหตุ
❌ ไม่อ้างถึงคลิปเสียง
❌ ไม่ตอบตรงประเด็น
📅 23 ก.ค. - โต้กลับ
ส่งหนังสือโต้แย้งการชี้แจงที่บ่ายเบี่ยง
📅 3 ส.ค. - ขั้นสุดท้าย
ส่งอีเมลถึง DPO (เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล) และผู้บริหารระดับสูง
📅 7 ส.ค. - วันนี้
ยังคงเงียบ 🤐
🔥 คำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้
บริษัททวงหนี้เห็นข้อมูลบัตรเครดิตได้อย่างไร? (คนละบัญชี คนละเรื่อง)
การพูดว่า "จะมีผลกับบัญชีอื่น" เหมาะสมไหม? (กดดันทางจิตใจ)
Consent ที่ให้ตอนสมัคร = ใช้เปิดเผยได้ตลอดชีวิตเหรอ?
ทำไมธนาคารไม่ยอมตรวจคลิปเสียงที่ร้องขอ? 🎧
🎯 สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้
✅ สิทธิที่เราควรรู้
ความยินยอม ต้อง "เฉพาะเจาะจง" ไม่ใช่คลุมเครือ
พนักงาน ควรเข้าถึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น
PDPA ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็น "สิทธิ" ของเรา
การร้องเรียน ยังดีกว่าปล่อยให้เกิดซ้ำ
🔺 Red Flags ที่ต้องระวัง
พนักงานพูดถึงบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้อง
อ้างว่า "เห็นข้อมูลหมด" โดยไม่อธิบาย
ใช้ข้อมูลส่วนตัวเป็นเครื่องมือกดดัน
องค์กรตอบคำถามแบบบ่ายเบี่ยง
😤 สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดที่สุด
ถ้าธนาคารมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้อง...
✅ ข้อมูลเปิดเผยได้
✅ การพูดของพนักงานเหมาะสม
✅ เอกสารครบถ้วนแล้ว
แล้วทำไมไม่รีบชี้แจงอย่างตรงประเด็นตั้งแต่แรก? 🤷♂️
ผมให้โอกาสแล้ว ขอคลิปเสียง ขอเอกสาร แต่ได้แค่คำตอบที่บ่ายเบี่ยง ไม่แตะคลิป ไม่ตอบใจความ
ถ้าเอกสารชัดเจนตั้งแต่แรก เรื่องนี้ก็คงจบไปนานแล้ว!
🙏 ขอบคุณหน่วยงานที่ช่วยคนเล็กคนน้อย
ธปท. - มีระบบรับเรื่องอย่างเป็นทางการ
สคบ. - ช่วยตรวจสอบความเป็นธรรม
PDPC - ความหวังในยุคข้อมูลส่วนตัว
💬 สำหรับคนที่คิดว่า "ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่"
❓ "คุณก็จ่ายช้าเอง จะมาโวยวายทำไม?"
ตอบ: ใช่ จ่ายช้า 6 วัน แต่ไม่เคยหนีหนี้ สิ่งที่ร้องเรียนคือ การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
❓ "บริษัทในเครือก็เป็นเครือเดียวกัน จะอะไรนักหนา?"
ตอบ: อยู่ในเครือ ≠ ดูข้อมูลได้หมด PDPA ต้อง "ความยินยอมเฉพาะเจาะจง"
❓ "เขาอาจพูดลอยๆ ก็ได้นี่?"
ตอบ: ถ้าพูดลอยๆ แต่ตรงทุกบัญชี = มีข้อมูลจริง หรือระบบมีช่องโหว่หนักมาก
⚠️ ข้อคิดสำคัญ
ถ้าเรายอมให้เรื่องเล็กๆ แบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติ...
วันหนึ่ง "ข้อมูลส่วนตัวของคุณ" อาจไม่เหลือคำว่า "ส่วนตัว" อีกต่อไป 📱💳
🎯 สรุปท้ายที่สุด
ผมเรียกเพื่อต้องการคำอธิบายว่า "ข้อมูลของผมไปอยู่ในมือใคร"
ถ้าวันหนึ่งลูกคุณ หรือพ่อแม่คุณ ได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่พูดว่า:
"ผมเห็นข้อมูลหมดเลยนะครับ รวมถึงบัญชีบัตรเครดิตของคุณด้วย"
แล้วคนในครอบครัวคุณไม่รู้ว่าเขามีสิทธิพูดแบบนั้นหรือไม่...
คุณจะยังคิดว่า "ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่" อยู่ไหม? 🤔
📢 ถ้าคุณคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรถูกมองข้าม
กด "แนะนำ" หรือแชร์ต่อ เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่า PDPA ไม่ใช่เรื่องไกลตัว!
#PDPA #ข้อมูลส่วนตัว #สิทธิผู้บริโภค #ธนาคาร #ประสบการณ์จริง