คือต้องบอกก่อนว่าแม่เรามีลูกสองคนค่ะ คือพี่สาวกับเรา คือมันก็ไม่เชิงว่าเราเป็นลูกที่แม่ไม่รักนะคะ คือแม่ก็รักเราแหละค่ะแต่การแสดงออกของเขาที่มันแสดงต่อเรากับพี่เราบางทีมันก็รู้สึกต่างกันค่ะ มันอาจจะฟังดูงี่เง่านะคะที่เราเก็บเรื่องเล็กๆมาคิดแต่มันก็ทำให้เราคิดมากมาตลอดเลยค่ะ บางทีเราก็รู้สึกว่าแม่เราไม่เคยลงทุนอะไรกับเราเลยค่ะหลายๆอย่างเราก็ต้องใช้ต่อจากพี่เราหรือจากแม่ตลอดเลยค่ะ พอลองมาคิดดูดีๆเราก็แทบไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยค่ะเสื้อผ้าก็ต้องใช้ต่อตลอดเลยค่ะ โทรศัพท์ก็ต้องใช้ต่อ แล้วก็อีกเรื่องนึงคือเวลาเจอญาติค่ะ เวลาเจอกันพวกป้าๆเขาก็จะบอกให้เราไม่ต้องเรียนต่อค่ะ ให้รีบๆหางานทำมาเลี้ยงแม่เรา แต่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพี่เราเลยค่ะ พอโดนบ่อยๆเราก็รู้สึกพูดไม่ออกเหมือนกันค่ะ บางทีมันก็อึดอัดค่ะ ถ้าเป็นแค่ญาติที่พูดเราก็คงจะไม่อึดอัดขนาดนี้แต่แม่ก็พูดกับเราแบบนี้ค่ะ เราไม่รู้จะทำไงดีค่ะ แล้วตอนนี้เราก็ประสบปัญหาอีกแล้วค่ะ อันนี้น่าจะดูงี่เง่าที่สุดเลยมั้งคะ คือเราพูดกับแม่ไปค่ะว่าเราอยากได้โทรศัพท์ใหม่ คืออันที่ใช้อยู่มันก็เก่าแล้วก็จะพังแล้วค่ะ แต่เราก็พูดไปแล้วค่ะว่ามันก็แพงอยู่แต่เราก็จะออกตังตัวเองด้วยค่ะ คือเราก็มีเงินที่พ่อเขาให้เราอยู่ค่ะ แต่แม่เขาก็พูดว่าเราจะมีปัญญาจ่ายหรอ คือมันก็อาจจะเป็นประโยคเป็นห่วงใช่มั้ยคะ แต่เราก็แอบน้อยใจที่เหมือนแม่ไม่คิดจะออกช่วยเราเลย เรารู้นะคะว่าถ้าเราอยากได้เราก็ต้องจ่ายเอง แต่โทรศัพท์พี่เราแม่เขาก็จ่ายให้นะคะ แบบมันเลยยิ่งรู้สึกว่าแม่อาจจะไม่ได้รักเราเท่าพี่เราค่ะ อันนี้เราก็อาจจะคิดมากด้วยแหละค่ะ แต่เราชอบโดนบอกว่าเราหน้าเหมือนพ่อหรือไม่ก็แม่ไล่เราให้ไปอยู่กับพ่อค่ะ คือต้องบอกก่อนว่าแม่กับพ่อเราเลิกรากันไม่ดีค่ะ พอคิดงี้มันก็ยิ่งทำให้เราคิดว่าแม่อาจจะไม่รักเราเท่าพี่จริงๆก็ได้ค่ะ แต่มันก็อาจจะเป็นเพราะเราคิดมากไปหรือเปล่าคะ ถ้าเราคิดมากเราควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีคะ คือเราพยายามไม่คิดมากแล้วค่ะแต่มันยากมากเลยค่ะ พอไม่ได้ทำอะไรก็จะฟุ้งซ่านตลอดเลยค่ะ
แล้วก็ขอโทษที่มันอาจจะอ่านยากหรือมันวกไปวนมานะคะ เราคิดมากจนพิมพ์อะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เลยค่ะ
เราคิดมากไปเองมั้ยคะ
แล้วก็ขอโทษที่มันอาจจะอ่านยากหรือมันวกไปวนมานะคะ เราคิดมากจนพิมพ์อะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เลยค่ะ