JJNY : 5in1 ปชน.ชี้วันปวศ.│ทหารเขมรเสี่ยงกินน้ำฝนปนน้ำเหลือง?│ชิงปิดสภาวุ่น!│‘แรงงานเขมร’ทิ้งงาน│จีน-ญี่ปุ่นปฏิเสธข่าว

พรรคประชาชน ชี้ วันปวศ. ผ่านกม.ชาติพันธุ์ เดินหน้าผลักดันกฎหมายลำดับรอง ให้คุ้มครองสิทธิมากขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5310794
.

.
“พรรคประชาชน” ชี้ ประเด็นสำคัญกฎหมายชาติพันธุ์หล่นหายระหว่างทาง เดินหน้าผลักดันกฎหมายลำดับรอง-แก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง คุ้มครองสิทธิให้ครอบคลุมมากขึ้น
.
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาชน นำโดย นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายมานพ คีรีภูวดล ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภาต่อร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
โดยนายเลาฟั้งกล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลงานของคณะทำงานปีกชาติพันธุ์ของพรรคประชาชน ซึ่งได้เสนอร่างต่อสภาตั้งแต่ยังเป็นพรรคก้าวไกล เข้าวาระ 1 เมื่อต้นปี 2567 ใช้เวลาประมาณหนึ่งปีครึ่งในชั้นกรรมาธิการ เราต้องต่อสู้ทางความคิดกับหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ หลักการหลายอย่างจึงหล่นหายไประหว่างทาง
.
โดย 2 เรื่องใหญ่ที่ยังเป็นปัญหาคือ 1.พรรคประชาชนเสนอให้มีการห้ามการโฆษณาหรือเผยแพร่ลักษณะที่เป็นการเหยียดหยาม สร้างความเกลียดชัง หรือเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ในชั้น ส.ว. ตัดออก เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะทุกวันนี้ยังมีการเผยแพร่ทางสื่อโดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย โจมตีและสร้างความเกลียดชังต่อกลุ่มชาติพันธุ์
.
2.การประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ และยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ที่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ เรื่องนี้ถูกตัดออกไปตั้งแต่ในชั้นสภาผู้แทนฯ และในชั้น ส.ว. ยังเขียนเพิ่มด้วยว่า ต้องไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงเขต หรือสถานะหรือเพิกถอนสภาพพื้นที่ของรัฐ ซึ่งยิ่งตอกย้ำการตัดโอกาสของกลุ่มชาติพันธุ์ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่ที่พวกเขาอยู่อาศัย
.
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกที่คุ้มครองสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ ในอดีตเรามีรัฐธรรมนูญที่ระบุหลักการกว้างๆ แต่วันนี้เป็นการสถาปนาในระดับพระราชบัญญัติ เป็นก้าวที่สำคัญมาก ดังนั้นหลังจากนี้เรายังต้องต่อสู้ในการออกกฎหมายลำดับรองและต้องแก้ไข พ.ร.บ. อีกหลายฉบับ เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรและภารกิจของพรรคประชาชนที่จะดำเนินการต่อไป
.
ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ที่มีส่วนสำคัญมากในการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ ขอบคุณสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ภาคประชาชน นักวิชาการ และสื่อมวลชนที่ติดตามนำเสนอเรื่องนี้ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
.
ด้านนายมานพกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย การผ่านกฎหมายฉบับนี้ทำให้พี่น้องชาติพันธุ์มีพื้นที่ทางการเมืองอย่างชัดเจน เป็นข่าวดีสำหรับวันสากลว่าด้วยชนพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก 9 สิงหาคมที่กำลังจะมาถึง
.

.
ทหารเขมร เสี่ยงกินน้ำฝนปะปนน้ำเหลือง?
.
ทหารเขมร เสี่ยงกินน้ำฝนปะปนน้ำเหลือง? หากยังไม่เก็บศพผู้เสียชีวิตออกไป
.
จากกรณีกัมพูชาไม่มาเก็บศพทหาร ตามแนวชายแดน จนส่งกลิ่นเหม็นทั่วแนวปะทะ
.
ล่าสุด (6 ส.ค. 68) ที่บ้านตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธมไม่ถึง 10 กิโลเมตร มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมง คาดว่าน้ำฝนบริเวณปราสาทตาเมือนธม คงไหลไปยังฐานปฏิบัติการของกัมพูชาเนื่องจากอยู่ต่ำกว่าตัวปราสาท และหากกัมพูชายังไม่เก็บศพทหารในจุดดังกล่าว อาจเสี่ยงที่น้ำฝนจะปนเปื้อนน้ำเหลืองของศพทหารกัมพูชา
.
ทั้งนี้ นายอภินพ อนุทูล ผู้ใหญ่บ้านตาเมียง ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว 7HD ว่า เป็นไปได้ที่ทหารกัมพูชาจะกินน้ำปนเปื้อน เพราะจะมีร่องน้ำจากตัวปราสาทไหลลงไปใกล้กับฐานปฏิบัติการของกัมพูชา ซึ่งทหารกัมพูชามักจะดื่มน้ำฝนที่ไหลลงมาจากร่องน้ำ
.
เพราะอดีตหลังสู้รบเมื่อปี 2554 ช่วงที่ฟื้นฟูความสัมพันธ์ ตนได้มีโอกาสแข่งกีฬากับทหารกัมพูชาที่อยู่ฐานปฏิบัติการใต้ปราสาทตาเมือนธม และได้ถามถึงการกินการนอนของทหารกัมพูชาว่ากินอยู่อย่างไร ซึ่งทหารกัมพูชาก็ยอมรับว่าใช้น้ำฝนในการดำรงชีวิต  ทั้งดื่มกิน และนำมาประกอบอาหาร
.
สิ่งนี้อาจเป็นไปได้ว่าทหารกัมพูชาที่อยู่ฐานปฏิบัติการใกล้กับปราสาทตาเมือนธมตอนนี้อาจได้ดื่มน้ำฝนที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หากศพทหารกัมพูชายังไม่ได้มีการเก็บออกไป
.

.
ชิงปิดสภาวุ่น! ฉลาด ประเดิมขึ้นบังลังก์ปธ. หนีประชุมล่ม วิสุทธิ์ฉุนด่าส.ส. สันหลังยาว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5311051
.
“ฉลาด” ประเดิมชิงปิดประชุมมหนีสภาล่ม หลังเช็กองค์ประชุม ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง รอบแรกแล้วเห็นแววไปไม่รอด “วิสุทธิ์”ฉุนขู่ ด่าสส.สันหลังยาว ประจานรายชื่อ คนไม่อยู่ในที่ประชุม ฟ้องปชช.ไม่ต้องเลือกกลับเข้ามาอีก
.
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทน ราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง วาระ 2-3 ภายหลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีเนื้อหา 165 มาตรา และสมาชิกขอแปรญัตติกว่า 70มาตรา ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ขอร้องสมาชิกอยู่ในห้องประชุมอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องมีการลงมติรายมาตราบ่อยครั้ง ทำให้ เวลา 14.35 น. หลังจากที่พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้มา 2.30 ชั่วโมง สมาชิกขอพักการประชุม เพื่อขอไปรับประทานอาหาร นายวันมูหะมัดนอร์ อนุญาตให้พักประชุม 25นาที
.
กระทั่ง เวลา 15.00 น. กลับมาประชุมใหม่ ปรากฏว่า สมาชิกกลับมาประชุมน้อยกว่าเดิม โดยเมื่อผ่านการประชุมไป 1 ชั่วโมง ระหว่างกำลังจะลงมติมาตรา 60 และสั่งให้มีการแสดงตนเพื่อตรวสอบองค์ประชุม ผลปรากฏว่า มีสมาชิกแสดงตน 246 คน ถือว่าครบองค์ประชุมพอดี จากจำนวนส.ส.ทั้งหมด 492 คน
ทำให้ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วงประธานทำผิดข้อบังคับ เพราะสั่งปิดการแสดงตน เวลา 16.39 น. แต่ยังเปิดให้สมาชิกที่มาภายหลังแสดงตนได้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 16.47 น.จึงขานว่า มีองค์ประชุม 246 คน ขอให้เจ้าหน้าที่รายงานผลแสดงตนในเวลา 16.39 น.ด้วยว่ามีจำนวนเท่าไหร่
.
ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ขอร้องนายณัฐวุฒิว่า ขณะนี้ยังพอมีเวลา อยากให้กฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้เร็วที่สุด วันนี้อาจจะผิดพลาดไปบ้าง แต่ถ้าเลิกประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ การที่ตนยังให้แสดงตนอยู่ แม้จะปิดการแสดงตนไปแล้ว พร้อมจะรับผิดชอบ ถ้าทำโดยเจตนาและผิดรัฐธรรมนูญ แต่อะไรที่ผิดโดยไม่เจตนาก็ขออภัย ยืนยันถ้ากระทำผิดกฎหมายก็พร้อมรับผิดชอบ
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิยอมให้ดำเนินการประชุมต่อไปได้ และสามารถโหวตลงมติผ่านมาตรา 60 ไปได้ ด้วยคะแนนแต่ปัญหาก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะเมื่อเข้าสู่มาตรา 63 ก็ยังเกิดปัญหาเรื่ององค์ประชุมขึ้นมาอีก ทำให้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันทีว่า ถ้าองค์ประชุมล่มก็ดี จะได้เปิดเผยชื่อว่า ใครไม่อยู่ในห้องประชุม จะเปิดเผยชื่อผ่านสื่อ ใครไม่แสดงตน ประชาชนจะได้ทราบพวกขี้เกียจสันหลังยาว ทั้งที่ประชาชนต้องจ่ายเงินเดือนๆ ละเป็นแสน แต่ไม่ทำหน้าที่ สมัยหน้าจะได้ไม่ต้องไปเลือกกลับเข้ามา หากปิดประชุมแล้ว จะขอรายชื่อคนที่ไม่อยู่ในห้องประชุม มาแถลงข่าวให้คนทั้งประเทศรู้
.
ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครประชาชน กล่าวว่า หน้าที่รักษาองค์ประชุมสำคัญมากสำหรับฝ่ายรัฐบาล ขอบอกตรงไปมาว่า พวกตนขอเป็น เจมส์ เรืองศักดิ์ คือ อยู่แบบไร้ตัวตน ไม่เป็นองค์ประชุมให้ แต่ถ้าองค์ประชุมครบจะร่วมโหวตด้วย หากองค์ประชุมไม่ครบ วิปรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ให้ไปดูที่ลานจอดรถชั้นบี2 กฎหมายนี้ยังไม่ผ่านเลย ส.ส.ขับรถกลับไปแล้วหลายคน ได้ยินบางคนคุยโทรศัพท์ว่า กลับมาไม่ทันแล้ว ตอนนี้อยู่อยุธยาแล้ว
.
ส่วน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกสนับสนุนนายวิสุทธิ์ พร้อมอภิปรายว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน ซึ่งตนสนับสนุนให้เปิดเผยชื่อคนที่ไม่แสดงตน ทั้งนี้หากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบองค์ประชุม คงจะล่มตั้งแต่เที่ยงแล้ว
หลังจากที่บรรยากาศในที่ประชุมทำท่าจะวุ่นวายขึ้น ในที่สุด นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม จึงสั่งปิดประชุมในเวลา 17.13 น.
.

.
รับเหมาเผย ‘แรงงานเขมร’ ทิ้งงานหนีกลับประเทศ กระทบหลายไซต์งานก่อสร้างสะดุด
https://www.matichon.co.th/economy/news_5311250
.
รับเหมาเผย ‘แรงงานเขมร’ ทิ้งงานหนีกลับประเทศ กระทบหลายไซต์งานก่อสร้างสะดุด
.
วันที่ 6 สิงหาคม นางสาวลิซ่า งามตระกูลพานิช นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากบริษัทผู้รับเหมารายกลางและรายเล็ก ที่เป็นสมาชิกของสมาคมว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากสานการณ์เหตุปะทะบริเวณชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา กรณีที่แรงงานจากกัมพูชาทยอยกลับประเทศ หลังมีกระแสข่าวออกมาว่าหากไม่กลับประเทศรัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการถอนสัญชาติ ทำให้แรงงานก่อสร้างกัมพูชาใน 7 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพฯและจังหวัดโดยรอบอย่างภาคกลาง รวมทั้งหมดเป็นหลัก 100 คน ได้ทิ้งไซต์ก่อสร้างเพื่อเดินทางกลับประเทศในทันที
.
นางสาวลิซ่ากล่าวว่า จากเดิมคาดการณ์ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อแรงงานภาคการก่อสร้างมากนัก เนื่องจากค่าจ้างรายวันค่อนข้างสูง และคิดว่าจะมีผลกระทบเฉพาะในจังหวัดที่ติดกับชายแดนเท่านั้น แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มลามไปในหลายพื้นที่และเชื่อว่าคงไม่ใช่เฉพาะแรงงานภาคการก่อสร้างอย่างเดียวที่กำลังได้รับผลกระทบ ในส่วนของธุรกิจอื่นๆที่ใช้แรงงานจากประเทศกัมพูชาน่าจะได้รับผลกระทบเช่นกัน
.
แม้แรงงานกัมพูชาในระบบจะมีไม่มาก และสามารถหาแรงงานจากประเทศอื่นมาทดแทนได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้งานก่อสร้างสะดุดกลางคันได้ เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อการถ่ายงาน ทั้งนี้สมาคมกำลังรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นไฟลามทุ่งหรือไม่ หากกระทบหนักเป็นวงกว้างมากขึ้น อาจจะต้องขอให้หน่วยงานซึ่งเป็นเจ้าของโครงการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างให้กับผู้รับเหมา เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย รวมถึงเตรียมการหารือกับหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ว่า ได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่และจะหาทางแก้ปัญหานี้อย่างไรต่อไป” นางสาวลิซ่า กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่