ในการเขียนเรื่องราวครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะแชร์เรื่องราวการเลี้ยงสุนัขที่มีอายุเยอะแล้ว เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองและใครอีกหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มันอาจจะยาวมาก หากใครได้อ่านเราก็ขอขอบคุณมากนะคะ
ดำ หมาไทยซึ่งตอนนี้อายุน่าจะประมาณ 17 ปีได้ ที่เราไม่แน่ใจ ขอเท้าความไปเมื่อ 17 ปัที่แล้ว แฟนเรามารอรับเราหน้าออฟฟิศและสตาร์ทรถนั่งรอในรถ พอเราขึ้นรถ รถออกตัวก็เหมือนเหยียบหมาเข้าและมีเสียงร้อง แล้วมันก็วิ่งหนีไปตรงป่าๆ รปภ แถวนั้นก็ช่วยกันอุ้มมาให้เรา แล้วเราก็รีบพาน้องไปหาหมอทันที เหตุการณ์นั้น ทำให้ดำ ต้องผ่าตัดช่วงสะโพกทั้งสองข้าง และเราก็พามันกลับมาบ้านเรา ดูและรักษาแบะพาไปทำกายภาพตามหมอนัดตลอด 2 เดือน จนกลับมาเดินวิ่งได้ปกติ และอยู่กับเรามาจนถึงทุกวันนี้ ดำเก่งมากๆเลย ซึ่งเราก็เลยเดาอายุเค้าเอาจากลักษณะครั้งแรกที่เจอน่าจะอายุประมาณ 2 ปีค่ะ
ดำอยู่กับเรามา 15 ปี ตอนนี้อายุก็ประมาณ 17 ปี
-ดำเริ่มมีอาการหมาแก่เมื่อช่วง ปลายๆปี 67 ดำจะชอบเดินเข้าออกจากตัวบ้านบ่อยมาก (ปกติดำจะนอนในตัวบ้านส่วนด้านหลัง และเราทำประตูหมาไว้ให้เค้าเดินเข้าออกได้เอง) โดนเฉพาะตอนกลางคืน แทบไม่นอน เดินเข้าออกตลอด จนอยู่ดีดี ขาดำก็เริ่มเหมือนอ่อนแรงลง ขาจะสั่นๆ เดินช้าลง บางทีเดินๆอยู่ก็ล้ม แล้วเค้าก็จะร้องเรียก เพราะลุกเองไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบนี้ตลอด เราก็เลยเริ่มปิดประตูหมาไม่ให้ดำใช้ เพราะกลัวเวลากลางวัน เดินออกไปล้มนอกตัวบ้านแล้วไม่มีคนอยู่ แล้วก็พาเค้าออกไปเป็นเวลาแทน หลังจากนั้นดำก็เริ่มร้องเริ่มเห่าโดยไม่มีสาเหตุ โดยเฉพาะเวลากลางคืน เราเลยพาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นอาการของหมาแก่ และเริ่มเป็นอัลไซเมอร์ ก็จะให้ยาระงับประสาทกับยาแก้ปวด ซึ่งอาจจะมีกระดูกงอกตรงช่วงบริเวณหลังซึ่งเกิดขึ้นได้กับหมาแก่ ซึ่งยาก็ช่วยได้ระดับนึง ดำก็ยังคงเห่าและร้องอยู่ ซึ่งเราเองตอนนั้นกังวลมากเพราะเกรงใจคนข้างบ้านเพราะตรงที่ดำนอนจะใกล้กับบ้านเค้าและเสียงดำก็ดังมาก เราต้องคอยลุกกลางดึกมาอยู่กับดำมาพยายามทำให้ดำหยุดเห่า ใส่ที่ครอบปากเพื่อให้เสียงเห่าเบาลงก็สงสาร แต่เราก็มีไปขอโทษและบอกข้างบ้านไว้ด้วย และเราก็พยายามทุกทางแล้ว ซึ่งโชคดีที่เค้าบอกเค้าเข้าใจ
จนมาถึงช่วงต้นปี 68 เราเลยตัดสินใจกั้นห้องในบ้านชั้นล่างสำหรับดำ อย่างน้อยๆก็ลดเสียงดังออกไปนอกบ้านได้บ้าง ซึ่งอาการดำตอนนั้นก็คือ จะเดินวนไปวนมาในห้องตลอด (1ในอาการอัลไซเมอร์) จนวันนึงขาหลังทั้งสองข้างของดำเริ่มไม่มีแรงและยืนไม่ได้ แต่อาการเห่าและร้องไม่มีสาเหตุค่อยๆน้อยลง กลางคืนก็นอนหลับได้ เราจึงให้เค้าหยุดกินยา ตั้งแต่ช่วงพ.ค. เป็นต้นมา ดำก็จะร้องเฉพาะเวลาที่โอบิเต็มอยากให้เปลี่ยน เวลาเค้าอึ เวลาหิวน้ำ หิวข้าว ซึ่งเราก็ต้องคอยดูคอยสังเกตุเอาไว้เค้าต้องกาอะไร ส่วนการนอน ดำจะนอนบนที่นอนโฟม เราก็จะคอยพลิกสลับด้านให้เค้าบ่อยๆเท่าที่ทำได้ ซึ่งเป็นโชคดีที่เราอยู่บ้านตลอดด้วยไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก จึงดูเค้าได้ตลอด ซึ่งถ้าเค้าไม่ได้พลิกตัวนานๆ เราสังเเกตห็นว่าขาหลังเค้าจะบวมๆ แต่พอสลับเค้าบ่อยๆก็หายไม่เป็น แต่ก็แอบมีเป็นแผลกดทับด้วยครั้งนึง เราก็ทำแผลให้เค้าทุกวันจนตอนนี้ใกล้หายแล้ว และตอนนี้สิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างที่เกิดขึ้นก็คือ การหาท่านอน จัดท่านอนให้ดำ ซึ่งนอนยากมากกว่าจะได้นอนหลับเค้าจะพยายามดิ้น ตะกุย และเห่า เหมือนแบบท่านอนไม่ได้ หรือเค้าหายใจไม่สะดวก หรือเค้าไม่ชอบ คือเราต้องขยับเค้า หาที่หาตำแหน่งให้เค้าไปจนกว่าเค้าจะนิ่ง ซึ่งบางทีเป็นชั่วโมง และบางครั้งก็นั่งคุยนั่งเล่นกับเค้าไปจนเราอยากจะกลับไปตรงนั้นด้วนเลย เคยแม้กระทั่งร้องไห้ออกมาเพราะท้อ เหนื่อย และสงสารดำมาก ไม่รู้จะต้องทำยังไงให้นอนแบบไหน ดำก็จะเห่าไม่หยุด แต่ถ้าเค้าได้นอนแล้วเค้าจะนอนยาวเลย
ทุกๆคืนตอนนี้เราหมือนหลับไม่สนิท คอยพะวงที่จะได้ยินเสียงดำร้อง พอดำร้องก็รีบลงมาดูว่าร้องทำไม แล้วช่วงนี้ชอบอึตอนกลางดึกอีก เราไม่ได้ใส่แพมเพิสกันอึ เพราะอึของดำค่อนข้างเก็บง่ายและไม่ค่อยมีกลิ่น (เราให้กินอาหารเม็ดหมาแก่ pawdy ) เราจะใส่เฉพาะ โอบิ ให้ดำ และหมั่นเช็ดทำความสะอาดให้เค้าบ่อยๆ เพื่อเค้าจะได้ไม่เกิดแผลอะไรตามมา เราพยายามทำทุกอย่างทุกทางเพื่อไม่ให้เค้าเจ็บหรือป่วย เค้าจะได้ไม่ทรมานเพิ่มและเราเองจะได้ไม่เครียดมากกว่าเดิมด้วย
เราบอกกับตัวเองว่าเราต้องใส่ใจเค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เค้าพูดไม่ได้บอกไม่ได้ว่าเค้าเป็นอะไรรู้สึกอะไร ถึงแม้บางครั้งจะมีท้อบ้างร้องไห้บ้างก็ตาม
เวลาเราเข้ามาทำอะไรให้เค้า เราก็จะคุยกับเค้าตลอด ถึงแม้เค้าอาจจะไม่ได้ยินเพราะหูตีงแล้ว ก็ตาม หรือเวลาเค้าไม่ยอมนอนเราก็จะนั่งเล่นลูบหัวเค้ากล่อมเค้า พอมองตาเค้าจ้องหน้าเค้าก็สงสาร
เราเองก็ไม่รู้ว่าค้าจะอยู่กับเราไปอีกถึงตอนไหน มันอาจจะอีกนานเป็นปีๆ เราก็จะดูแลเค้าและรักเค้าแบบนี้ไปจนถึงตอนนั้น
พี่รักดำนะ น้องชายสุดเท่และเก่งมากๆของพี่
- แค่ละคนมีเวลา มีความสามารถ มีข้อจำกัดในการดูแลไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน แต่ขอแค่ให้ทำให้เค้าให้เต็มที่ เท่าที่ทำได้ ด้วยความรักความเมตตา อย่ารังเกียจเค้า อย่ารำคาญเค้า เค้ามาอยู่กับเรามันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันเป็นโชคชะตาร่วมกัน -
ชีวิตในทุกๆวันกับดำหมาแก่วัย 17 ปี
ดำ หมาไทยซึ่งตอนนี้อายุน่าจะประมาณ 17 ปีได้ ที่เราไม่แน่ใจ ขอเท้าความไปเมื่อ 17 ปัที่แล้ว แฟนเรามารอรับเราหน้าออฟฟิศและสตาร์ทรถนั่งรอในรถ พอเราขึ้นรถ รถออกตัวก็เหมือนเหยียบหมาเข้าและมีเสียงร้อง แล้วมันก็วิ่งหนีไปตรงป่าๆ รปภ แถวนั้นก็ช่วยกันอุ้มมาให้เรา แล้วเราก็รีบพาน้องไปหาหมอทันที เหตุการณ์นั้น ทำให้ดำ ต้องผ่าตัดช่วงสะโพกทั้งสองข้าง และเราก็พามันกลับมาบ้านเรา ดูและรักษาแบะพาไปทำกายภาพตามหมอนัดตลอด 2 เดือน จนกลับมาเดินวิ่งได้ปกติ และอยู่กับเรามาจนถึงทุกวันนี้ ดำเก่งมากๆเลย ซึ่งเราก็เลยเดาอายุเค้าเอาจากลักษณะครั้งแรกที่เจอน่าจะอายุประมาณ 2 ปีค่ะ
ดำอยู่กับเรามา 15 ปี ตอนนี้อายุก็ประมาณ 17 ปี
-ดำเริ่มมีอาการหมาแก่เมื่อช่วง ปลายๆปี 67 ดำจะชอบเดินเข้าออกจากตัวบ้านบ่อยมาก (ปกติดำจะนอนในตัวบ้านส่วนด้านหลัง และเราทำประตูหมาไว้ให้เค้าเดินเข้าออกได้เอง) โดนเฉพาะตอนกลางคืน แทบไม่นอน เดินเข้าออกตลอด จนอยู่ดีดี ขาดำก็เริ่มเหมือนอ่อนแรงลง ขาจะสั่นๆ เดินช้าลง บางทีเดินๆอยู่ก็ล้ม แล้วเค้าก็จะร้องเรียก เพราะลุกเองไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบนี้ตลอด เราก็เลยเริ่มปิดประตูหมาไม่ให้ดำใช้ เพราะกลัวเวลากลางวัน เดินออกไปล้มนอกตัวบ้านแล้วไม่มีคนอยู่ แล้วก็พาเค้าออกไปเป็นเวลาแทน หลังจากนั้นดำก็เริ่มร้องเริ่มเห่าโดยไม่มีสาเหตุ โดยเฉพาะเวลากลางคืน เราเลยพาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นอาการของหมาแก่ และเริ่มเป็นอัลไซเมอร์ ก็จะให้ยาระงับประสาทกับยาแก้ปวด ซึ่งอาจจะมีกระดูกงอกตรงช่วงบริเวณหลังซึ่งเกิดขึ้นได้กับหมาแก่ ซึ่งยาก็ช่วยได้ระดับนึง ดำก็ยังคงเห่าและร้องอยู่ ซึ่งเราเองตอนนั้นกังวลมากเพราะเกรงใจคนข้างบ้านเพราะตรงที่ดำนอนจะใกล้กับบ้านเค้าและเสียงดำก็ดังมาก เราต้องคอยลุกกลางดึกมาอยู่กับดำมาพยายามทำให้ดำหยุดเห่า ใส่ที่ครอบปากเพื่อให้เสียงเห่าเบาลงก็สงสาร แต่เราก็มีไปขอโทษและบอกข้างบ้านไว้ด้วย และเราก็พยายามทุกทางแล้ว ซึ่งโชคดีที่เค้าบอกเค้าเข้าใจ
จนมาถึงช่วงต้นปี 68 เราเลยตัดสินใจกั้นห้องในบ้านชั้นล่างสำหรับดำ อย่างน้อยๆก็ลดเสียงดังออกไปนอกบ้านได้บ้าง ซึ่งอาการดำตอนนั้นก็คือ จะเดินวนไปวนมาในห้องตลอด (1ในอาการอัลไซเมอร์) จนวันนึงขาหลังทั้งสองข้างของดำเริ่มไม่มีแรงและยืนไม่ได้ แต่อาการเห่าและร้องไม่มีสาเหตุค่อยๆน้อยลง กลางคืนก็นอนหลับได้ เราจึงให้เค้าหยุดกินยา ตั้งแต่ช่วงพ.ค. เป็นต้นมา ดำก็จะร้องเฉพาะเวลาที่โอบิเต็มอยากให้เปลี่ยน เวลาเค้าอึ เวลาหิวน้ำ หิวข้าว ซึ่งเราก็ต้องคอยดูคอยสังเกตุเอาไว้เค้าต้องกาอะไร ส่วนการนอน ดำจะนอนบนที่นอนโฟม เราก็จะคอยพลิกสลับด้านให้เค้าบ่อยๆเท่าที่ทำได้ ซึ่งเป็นโชคดีที่เราอยู่บ้านตลอดด้วยไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก จึงดูเค้าได้ตลอด ซึ่งถ้าเค้าไม่ได้พลิกตัวนานๆ เราสังเเกตห็นว่าขาหลังเค้าจะบวมๆ แต่พอสลับเค้าบ่อยๆก็หายไม่เป็น แต่ก็แอบมีเป็นแผลกดทับด้วยครั้งนึง เราก็ทำแผลให้เค้าทุกวันจนตอนนี้ใกล้หายแล้ว และตอนนี้สิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างที่เกิดขึ้นก็คือ การหาท่านอน จัดท่านอนให้ดำ ซึ่งนอนยากมากกว่าจะได้นอนหลับเค้าจะพยายามดิ้น ตะกุย และเห่า เหมือนแบบท่านอนไม่ได้ หรือเค้าหายใจไม่สะดวก หรือเค้าไม่ชอบ คือเราต้องขยับเค้า หาที่หาตำแหน่งให้เค้าไปจนกว่าเค้าจะนิ่ง ซึ่งบางทีเป็นชั่วโมง และบางครั้งก็นั่งคุยนั่งเล่นกับเค้าไปจนเราอยากจะกลับไปตรงนั้นด้วนเลย เคยแม้กระทั่งร้องไห้ออกมาเพราะท้อ เหนื่อย และสงสารดำมาก ไม่รู้จะต้องทำยังไงให้นอนแบบไหน ดำก็จะเห่าไม่หยุด แต่ถ้าเค้าได้นอนแล้วเค้าจะนอนยาวเลย
ทุกๆคืนตอนนี้เราหมือนหลับไม่สนิท คอยพะวงที่จะได้ยินเสียงดำร้อง พอดำร้องก็รีบลงมาดูว่าร้องทำไม แล้วช่วงนี้ชอบอึตอนกลางดึกอีก เราไม่ได้ใส่แพมเพิสกันอึ เพราะอึของดำค่อนข้างเก็บง่ายและไม่ค่อยมีกลิ่น (เราให้กินอาหารเม็ดหมาแก่ pawdy ) เราจะใส่เฉพาะ โอบิ ให้ดำ และหมั่นเช็ดทำความสะอาดให้เค้าบ่อยๆ เพื่อเค้าจะได้ไม่เกิดแผลอะไรตามมา เราพยายามทำทุกอย่างทุกทางเพื่อไม่ให้เค้าเจ็บหรือป่วย เค้าจะได้ไม่ทรมานเพิ่มและเราเองจะได้ไม่เครียดมากกว่าเดิมด้วย
เราบอกกับตัวเองว่าเราต้องใส่ใจเค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เค้าพูดไม่ได้บอกไม่ได้ว่าเค้าเป็นอะไรรู้สึกอะไร ถึงแม้บางครั้งจะมีท้อบ้างร้องไห้บ้างก็ตาม
เวลาเราเข้ามาทำอะไรให้เค้า เราก็จะคุยกับเค้าตลอด ถึงแม้เค้าอาจจะไม่ได้ยินเพราะหูตีงแล้ว ก็ตาม หรือเวลาเค้าไม่ยอมนอนเราก็จะนั่งเล่นลูบหัวเค้ากล่อมเค้า พอมองตาเค้าจ้องหน้าเค้าก็สงสาร
เราเองก็ไม่รู้ว่าค้าจะอยู่กับเราไปอีกถึงตอนไหน มันอาจจะอีกนานเป็นปีๆ เราก็จะดูแลเค้าและรักเค้าแบบนี้ไปจนถึงตอนนั้น
พี่รักดำนะ น้องชายสุดเท่และเก่งมากๆของพี่
- แค่ละคนมีเวลา มีความสามารถ มีข้อจำกัดในการดูแลไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน แต่ขอแค่ให้ทำให้เค้าให้เต็มที่ เท่าที่ทำได้ ด้วยความรักความเมตตา อย่ารังเกียจเค้า อย่ารำคาญเค้า เค้ามาอยู่กับเรามันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันเป็นโชคชะตาร่วมกัน -