บทสัมภาษณ์ JENNIE จาก Elle Korea ฉบับเดือน สิงหาคม 2025
Q : ตอนนี้เริ่มต้นกิจกรรมวง BLACKPINK แบบครบทีมอีกครั้ง คงเป็นช่วงที่ยุ่งมากเลยใช่ไหม (หัวเราะ) กิจกรรมเดี่ยวก่อนหน้านี้ช่วยเติมพลังให้กับกิจกรรมกรุ๊ปได้บ้างไหม? เพราะแต่ละคนต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเองและกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
เจนนี่ : ตอนที่ฉันเตรียมอัลบั้มเดี่ยว <Ruby> ฉันได้เรียนรู้และรู้สึกอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ได้ทบทวนว่าตัวเองยังขาดอะไรอยู่ แล้วจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร ฉันลองผิดลองถูกมากมายเพื่อยกระดับความสมบูรณ์แบบของอัลบั้ม จนถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ก็ล้วนมีการเดินทางของตัวเองมาก่อนกลับมารวมกลุ่มกัน ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น และกลายเป็นทีมที่เติบโตขึ้นค่ะ ครั้งนี้พวกเราก็ยังคงทุ่มเทเหมือนเดิม แต่มีหัวใจที่เปิดกว้างขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เลยรู้สึกว่าการทำกิจกรรมครั้งนี้จะมีความหมายเป็นพิเศษทั้งกับฉันและสมาชิกทุกคนค่ะ
Q : ได้ยินว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ยอมออกจากห้องอัดจนถึงตีสี่ (หัวเราะ) ตอนที่เตรียมซิงเกิลใหม่ของ BLACKPINK อย่าง “JUMP” มีจุดไหนที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษไหม?
เจนนี่: สำหรับการทำงานเป็นทีม ฉันจะโฟกัสที่ "ความสมดุล" เป็นหลัก เพราะวงเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันทุกคนเลยค่ะ เลยต้องหาวิธีให้พลังของแต่ละคนผสมผสานกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้ทั้งเพลงกลมกลืนและมีช่วงเวลาที่พวกเราสอดประสานกันได้ดีที่สุด โดยไม่ให้ใครโดดเด่นหรือหายไป
Q : คุณเคยบอกว่าชอบสิ่งที่ “ไม่สมบูรณ์แบบ” เคยมีช่วงเวลาที่ “ความไม่สมบูรณ์” นั้นกลับงดงามที่สุดบ้างไหม? อย่างตอนที่คุณเกือบร้องไห้ตอนจบเวที Coachella หรือร้องตะโกนบอกรักคุณแม่ หรือตอนที่ซ้อมเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้สักที
เจนนี่: ใช่เลยค่ะ สิ่งที่วางแผนเป๊ะ ๆ มันให้อารมณ์มั่นคง แต่ช่วงเวลาที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า กลับให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ค่ะ
อย่างตอนจบ Coachella เพลงสุดท้ายคือ “Starlight” แล้วฉันก็ร้องท่อน “I just wanna make my mama prouder” ตอนนั้นฉันเห็นแม่อยู่ตรงหน้าพอดี
เลยเผลอตะโกนออกมาทันที มันเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติโดยไม่รู้ตัวจริงๆค่ะ
Q : หลายคนรักคุณเพราะคุณดูเป็นคนที่รู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไรและอะไรคือของของตัวเอง แล้วเวลาที่รู้สึกเหมือนหลงทาง คุณทำยังไงเพื่อมองเห็น “สิ่งที่เป็นของคุณ” ให้ชัดเจนขึ้น?
เจนนี่: เวลาที่ฉันคิดมากหรือมีเรื่องให้กังวล ฉันจะหยุดก่อนค่ะ
หยุดความคิดทุกอย่าง แล้วนั่งสมาธิเพื่อล้างความคิดเหล่านั้นออกไป พอปล่อยให้หัวโล่ง เราจะค่อย ๆ มองเห็นคำตอบที่ชัดเจนขึ้นเอง
Q : ตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่ค่อย ๆ เติบโตอยู่ภายในตัวคุณไหม?
เจนนี่: ฉันได้ลองทำอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งออกอัลบั้มเดี่ยวที่ใส่สีสันของตัวเอง ทัวร์เดี่ยว แล้วก็ขึ้นเวที Coachella ด้วย
ผ่านประสบการณ์แบบนี้มา ฉันรู้สึกได้ถึงการเติบโตขึ้นของความกล้าหาญและความตื่นเต้น
แม้ฉันจะยังไม่รู้ว่ามันจะนำไปสู่อะไร แต่ฉันกำลังสนุกกับเรื่องราวตรงนี้ และฉันเชื่อว่า มันจะพาฉันไปสู่เวอร์ชันใหม่ ๆ ของตัวเองค่ะ
Q : แล้วสิ่งที่คุณมองว่าสวยงามที่สุดในตอนนี้คืออะไร?
เจนนี่: หัวใจของทุกคนที่คอยสนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวฉันค่ะ

Q: สไตล์ของคุณในช่วงนี้ดูเหมือนไม่ใช่แค่การ “แต่งตัว” แต่เหมือนเป็นโครงสร้างของความรู้สึก อารมณ์บางอย่างด้วย สไตล์ในตอนนี้สะท้อนภายในของคุณยังไงบ้าง?
เจนนี่: สำหรับฉัน “ความสบาย” และ “ความเป็นตัวเอง” คือรากฐานสำคัญค่ะ
เพราะฉันได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองลงในอัลบั้มเยอะมาก เลยถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า “อะไรคือสิ่งที่เป็นฉันที่สุด?”
และการแต่งตัวก็กลายเป็นอีกหนึ่งวิธีในการแสดงออกถึงความรู้สึกภายในพวกนั้นค่ะ
Q : วันนี้คุณใส่ชุด Chanel Ready-to-Wear Fall/Winter 2025 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นยุค 90 ยุคนั้นให้อะไรกับคุณบ้าง?
เจนนี่: ฉันนึกถึงหนังโรแมนติกคอมเมดี้ยุค 90 หรือผู้หญิงที่เป็นไอคอนอย่าง Julia Roberts ค่ะ
มันเป็นแฟชั่นที่ดูมั่นใจแต่ก็น่ารัก ดูไม่ตั้งใจแต่มีสไตล์ของตัวเอง
สไตล์ยุคนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่มันสะท้อนบุคลิกและพลังของคนคนนั้นได้เลย และนั่นมันก็ตรงกับตัวฉันตอนนี้เหมือนกันค่ะ
Q : ความสัมพันธ์อันยาวนานของคุณกับ Chanel มีอิทธิพลต่อด้านในของคุณยังไงบ้าง? เหมือนคุณสามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่าง K-pop star กับคนธรรมดาอย่างคิมเจนนี่ ระหว่างความเป็นหญิง-ชาย หรือปารีเซียง-เกาหลีได้เลย
Q : Chanel เป็นแบรนด์ที่ข้ามขอบเขตได้อย่างอิสระ ทั้งชายหญิง ตะวันออกตะวันตก ดั้งเดิมหรือโมเดิร์น
ฉันเองก็ได้สร้างตัวตนและสไตล์ของตัวเองจากความยืดหยุ่นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ มันไม่ใช่การทำลาย "ขอบเขต" แต่เป็นการค้นหาความสมดุลในพื้นที่ตรงกลาง และฉันคิดว่านั่นคือพลังสำคัญที่หล่อหลอมตัวฉันในตอนนี้
Q : ช่วงนี้ชื่อของ “เจนนี่” ดังไปทั่ว ตั้งแต่บีชคลับที่บาหลี เวทีกลางทะเลทราย หรือสถานที่ที่ฮิตที่สุดในโซล เพลง like JENNIE กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้รับความรักที่สุด ชื่อเพลงนี้คุณตัดสินใจยังไง? มันคงไม่ใช่การตัดสินใจง่าย ๆ ใช่ไหม ที่จะใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อเพลง?
เจนนี่: สำหรับเพลง like JENNIE คำว่า “JENNIE” เป็นแค่คำแทน ไม่ได้หมายถึงแค่ฉันคนเดียวค่ะ
ฉันตั้งใจให้เพลงนี้มีข้อความว่า “ใคร ๆ ก็สามารถรักตัวเอง และเปล่งประกายในแบบของตัวเองได้” ฉันแค่ใช้ชื่อ JENNIE เพราะมันเป็นชื่อของฉัน แต่ฉันหวังว่าใครก็ตามที่ร้องเพลงนี้จะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นค่ะ
Q : อัลบั้มนี้มีถึง 15 แทร็ก คุณทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์อย่าง Diplo, Dem Jointz, Mike WiLL และศิลปินอย่าง Doechii, Dua Lipa, Dominic Fike ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์มาก เล่าเกี่ยวกับให้ฟังหน่อยสิ
เจนนี่: ทุกขั้นตอนของอัลบั้มนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับฉันค่ะ เพราะฉันเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ความรับผิดชอบ มีทั้งความผิดพลาดและบทเรียน
แต่ก็สนุกมากที่ได้ร่วมงานกับหลาย ๆ คน ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ รู้สึกเหมือนค่อย ๆ ประกอบจิ๊กซอว์ไปทีละชิ้นเลยค่ะ
Q : ถ้าให้เลือกหนึ่งเพลงที่ท้าทายที่สุดในอัลบั้ม?
เจนนี่: ก็น่าจะเป็น “ZEN” ค่ะ เพลงนี้ทำยากมาก แต่พอมันสำเร็จขึ้นมา ฉันรู้สึกเหมือนเจอชิ้นส่วนสำคัญของจิ๊กซอว์เลย

Q : การก่อตั้งค่าย Odd Atelier (OA) เหมือนเป็นการประกาศว่า "ฉันพร้อมจะเผชิญกับทุกการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางอาชีพ" และคุณก็ทำได้สำเร็จ ถ้า OA มอบอิสระทางศิลปะให้คุณ สิ่งใดที่คุณรู้สึกว่าได้แสดงตัวตนอย่างอิสระที่สุด?
เจนนี่: แค่ความจริงที่ว่า “ไม่มีข้อจำกัด” ก็ถือว่าเป็นอิสระอันยิ่งใหญ่สำหรับฉันแล้วค่ะ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้ลงมือทำในสิ่งที่เคยคิดเล่น ๆ อยู่ในหัวให้กลายเป็นจริง แน่นอนว่ามันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ แต่ฉันก็ชอบที่ได้สร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยความคิดและเสียงของตัวเอง ที่สำคัญคือ ฉันมีทีมงานที่คอยสนับสนุน ช่วยให้ฉันกล้าลองโดยไม่ต้องกลัว
Q : อัลบั้มเดี่ยว Ruby ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกของ OA คุณทั้งแร็ป ร้อง พูด ร้องไห้ และหัวเราะ อะไรที่บอกความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังอัลบั้มเสร็จได้ตรงที่สุด?
เจนนี่: ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ตัวตนของตัวเองมากที่สุดเลยค่ะ
แม้ว่ามันจะเป็นแค่ก้าวแรก แต่เพราะมันเป็นเวลาที่ฉันได้อยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่ จึงเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก

Q : ตอนนี้คำว่า like JENNIE ให้อะไรกับคุณบ้าง?
เจนนี่: มันทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจขึ้นนะคะ พอร้องเพลงนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าถึงแม้เส้นทางที่ผ่านมาอาจจะยาก แต่ฉันก็กำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง ฉันกำลังทำได้ดี – มันเป็นเสียงสะท้อนเชิงบวกจากตัวเองเลยค่ะ
Q : เวที Coachella สำหรับคุณเป็นเหมือนสถานที่หลบภัยหรือสนามรบ (หัวเราะ)
เจนนี่: อาทิตย์แรกเหมือนสนามรบค่ะ (หัวเราะ) เพราะตื่นเต้นและกดดันมาก แต่พอถึงอาทิตย์ที่สอง ฉันเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและสนุกกับเวที ก่อนขึ้นเวทีฉันก็สั่นมาก แต่พอได้เห็นผู้ชมสุดลูกหูลูกตา ได้รับพลังจากพวกเขา ฉันกลับรู้สึกว่าได้รับพลังมากกว่าที่ฉันมอบให้พวกเขาอีกค่ะ
Q : สำหรับคุณที่ได้เริ่มการเดินทางครั้งใหม่ด้วยตัวเอง BLACKPINK คงยังเป็นความภูมิใจที่มั่นคงเสมอ ไม่ว่าจะเมื่อไรหรือที่ไหนใช่ไหมคะ?
เจนนี่: แน่นอนเลยค่ะ ชื่อ BLACKPINK และสมาชิกแต่ละคนเป็นพลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันเสมอ การที่ฉันสามารถเริ่มเส้นทางของตัวเองได้อย่างราบรื่นก็เพราะเส้นทางที่พวกเราร่วมเดินทางกันมาก่อน ฉันจึงภูมิใจมาก ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BLACKPINK ค่ะ
Q : BLACKPINK มีเวิลด์ทัวร์ “DEADLINE” หลังจากห่างหายจากเวทีไปนาน อะไรคือความรู้สึกที่คุณคิดถึงมากที่สุดในฐานะ BLACKPINK?
เจนนี่: ฉันอยากมองตาและสัมผัสพลังของบลิ้งค์ด้วยตัวเองอีกครั้งค่ะ อยากได้ยินเสียงเชียร์ ได้รับพลังเหล่านั้นตรง ๆ ตอนคอนเสิร์ตที่เมืองโกยาง แม้อากาศจะร้อนมาก แต่แฟน ๆ ก็เชียร์กันอย่างเต็มที่ ทำให้ฉันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
Q : คุณเคยบอกว่าหวังให้คนอื่นแทนที่คำว่า “JENNIE” ด้วยชื่อของตัวเอง ถ้าคุณจะให้กำลังใจคนที่กล้าใช้ชื่อตัวเองในแบบนั้น คุณจะบอกว่าอะไร?
เจนนี่: ไม่ว่าเส้นทางที่คุณเดินจะเป็นทางขึ้นหรือลง หรือแม้แต่ถ้าต้องย้อนกลับไปเส้นทางเดิม ขอให้เชื่อมั่นเสมอว่าคุณกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง และพูดแบบนั้นกับตัวเองเรื่อยๆค่ะ
คำแปลไทยจากบ้าน JENNIE THAILAND 🤍

รวมบทสัมภาษณ์ JENNIE จาก Elle Korea ฉบับเดือนสิงหาคม 2025
บทสัมภาษณ์ JENNIE จาก Elle Korea ฉบับเดือน สิงหาคม 2025
Q : ตอนนี้เริ่มต้นกิจกรรมวง BLACKPINK แบบครบทีมอีกครั้ง คงเป็นช่วงที่ยุ่งมากเลยใช่ไหม (หัวเราะ) กิจกรรมเดี่ยวก่อนหน้านี้ช่วยเติมพลังให้กับกิจกรรมกรุ๊ปได้บ้างไหม? เพราะแต่ละคนต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเองและกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
เจนนี่ : ตอนที่ฉันเตรียมอัลบั้มเดี่ยว <Ruby> ฉันได้เรียนรู้และรู้สึกอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ได้ทบทวนว่าตัวเองยังขาดอะไรอยู่ แล้วจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร ฉันลองผิดลองถูกมากมายเพื่อยกระดับความสมบูรณ์แบบของอัลบั้ม จนถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ก็ล้วนมีการเดินทางของตัวเองมาก่อนกลับมารวมกลุ่มกัน ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น และกลายเป็นทีมที่เติบโตขึ้นค่ะ ครั้งนี้พวกเราก็ยังคงทุ่มเทเหมือนเดิม แต่มีหัวใจที่เปิดกว้างขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เลยรู้สึกว่าการทำกิจกรรมครั้งนี้จะมีความหมายเป็นพิเศษทั้งกับฉันและสมาชิกทุกคนค่ะ
Q : ได้ยินว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ยอมออกจากห้องอัดจนถึงตีสี่ (หัวเราะ) ตอนที่เตรียมซิงเกิลใหม่ของ BLACKPINK อย่าง “JUMP” มีจุดไหนที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษไหม?
เจนนี่: สำหรับการทำงานเป็นทีม ฉันจะโฟกัสที่ "ความสมดุล" เป็นหลัก เพราะวงเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันทุกคนเลยค่ะ เลยต้องหาวิธีให้พลังของแต่ละคนผสมผสานกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้ทั้งเพลงกลมกลืนและมีช่วงเวลาที่พวกเราสอดประสานกันได้ดีที่สุด โดยไม่ให้ใครโดดเด่นหรือหายไป
Q : คุณเคยบอกว่าชอบสิ่งที่ “ไม่สมบูรณ์แบบ” เคยมีช่วงเวลาที่ “ความไม่สมบูรณ์” นั้นกลับงดงามที่สุดบ้างไหม? อย่างตอนที่คุณเกือบร้องไห้ตอนจบเวที Coachella หรือร้องตะโกนบอกรักคุณแม่ หรือตอนที่ซ้อมเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้สักที
เจนนี่: ใช่เลยค่ะ สิ่งที่วางแผนเป๊ะ ๆ มันให้อารมณ์มั่นคง แต่ช่วงเวลาที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า กลับให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ค่ะ
อย่างตอนจบ Coachella เพลงสุดท้ายคือ “Starlight” แล้วฉันก็ร้องท่อน “I just wanna make my mama prouder” ตอนนั้นฉันเห็นแม่อยู่ตรงหน้าพอดี
เลยเผลอตะโกนออกมาทันที มันเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติโดยไม่รู้ตัวจริงๆค่ะ
Q : หลายคนรักคุณเพราะคุณดูเป็นคนที่รู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไรและอะไรคือของของตัวเอง แล้วเวลาที่รู้สึกเหมือนหลงทาง คุณทำยังไงเพื่อมองเห็น “สิ่งที่เป็นของคุณ” ให้ชัดเจนขึ้น?
เจนนี่: เวลาที่ฉันคิดมากหรือมีเรื่องให้กังวล ฉันจะหยุดก่อนค่ะ
หยุดความคิดทุกอย่าง แล้วนั่งสมาธิเพื่อล้างความคิดเหล่านั้นออกไป พอปล่อยให้หัวโล่ง เราจะค่อย ๆ มองเห็นคำตอบที่ชัดเจนขึ้นเอง
Q : ตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่ค่อย ๆ เติบโตอยู่ภายในตัวคุณไหม?
เจนนี่: ฉันได้ลองทำอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งออกอัลบั้มเดี่ยวที่ใส่สีสันของตัวเอง ทัวร์เดี่ยว แล้วก็ขึ้นเวที Coachella ด้วย
ผ่านประสบการณ์แบบนี้มา ฉันรู้สึกได้ถึงการเติบโตขึ้นของความกล้าหาญและความตื่นเต้น
แม้ฉันจะยังไม่รู้ว่ามันจะนำไปสู่อะไร แต่ฉันกำลังสนุกกับเรื่องราวตรงนี้ และฉันเชื่อว่า มันจะพาฉันไปสู่เวอร์ชันใหม่ ๆ ของตัวเองค่ะ
Q : แล้วสิ่งที่คุณมองว่าสวยงามที่สุดในตอนนี้คืออะไร?
เจนนี่: หัวใจของทุกคนที่คอยสนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวฉันค่ะ
Q: สไตล์ของคุณในช่วงนี้ดูเหมือนไม่ใช่แค่การ “แต่งตัว” แต่เหมือนเป็นโครงสร้างของความรู้สึก อารมณ์บางอย่างด้วย สไตล์ในตอนนี้สะท้อนภายในของคุณยังไงบ้าง?
เจนนี่: สำหรับฉัน “ความสบาย” และ “ความเป็นตัวเอง” คือรากฐานสำคัญค่ะ
เพราะฉันได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองลงในอัลบั้มเยอะมาก เลยถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า “อะไรคือสิ่งที่เป็นฉันที่สุด?”
และการแต่งตัวก็กลายเป็นอีกหนึ่งวิธีในการแสดงออกถึงความรู้สึกภายในพวกนั้นค่ะ
Q : วันนี้คุณใส่ชุด Chanel Ready-to-Wear Fall/Winter 2025 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นยุค 90 ยุคนั้นให้อะไรกับคุณบ้าง?
เจนนี่: ฉันนึกถึงหนังโรแมนติกคอมเมดี้ยุค 90 หรือผู้หญิงที่เป็นไอคอนอย่าง Julia Roberts ค่ะ
มันเป็นแฟชั่นที่ดูมั่นใจแต่ก็น่ารัก ดูไม่ตั้งใจแต่มีสไตล์ของตัวเอง
สไตล์ยุคนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่มันสะท้อนบุคลิกและพลังของคนคนนั้นได้เลย และนั่นมันก็ตรงกับตัวฉันตอนนี้เหมือนกันค่ะ
Q : ความสัมพันธ์อันยาวนานของคุณกับ Chanel มีอิทธิพลต่อด้านในของคุณยังไงบ้าง? เหมือนคุณสามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่าง K-pop star กับคนธรรมดาอย่างคิมเจนนี่ ระหว่างความเป็นหญิง-ชาย หรือปารีเซียง-เกาหลีได้เลย
Q : Chanel เป็นแบรนด์ที่ข้ามขอบเขตได้อย่างอิสระ ทั้งชายหญิง ตะวันออกตะวันตก ดั้งเดิมหรือโมเดิร์น
ฉันเองก็ได้สร้างตัวตนและสไตล์ของตัวเองจากความยืดหยุ่นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ มันไม่ใช่การทำลาย "ขอบเขต" แต่เป็นการค้นหาความสมดุลในพื้นที่ตรงกลาง และฉันคิดว่านั่นคือพลังสำคัญที่หล่อหลอมตัวฉันในตอนนี้
Q : ช่วงนี้ชื่อของ “เจนนี่” ดังไปทั่ว ตั้งแต่บีชคลับที่บาหลี เวทีกลางทะเลทราย หรือสถานที่ที่ฮิตที่สุดในโซล เพลง like JENNIE กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้รับความรักที่สุด ชื่อเพลงนี้คุณตัดสินใจยังไง? มันคงไม่ใช่การตัดสินใจง่าย ๆ ใช่ไหม ที่จะใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อเพลง?
เจนนี่: สำหรับเพลง like JENNIE คำว่า “JENNIE” เป็นแค่คำแทน ไม่ได้หมายถึงแค่ฉันคนเดียวค่ะ
ฉันตั้งใจให้เพลงนี้มีข้อความว่า “ใคร ๆ ก็สามารถรักตัวเอง และเปล่งประกายในแบบของตัวเองได้” ฉันแค่ใช้ชื่อ JENNIE เพราะมันเป็นชื่อของฉัน แต่ฉันหวังว่าใครก็ตามที่ร้องเพลงนี้จะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นค่ะ
Q : อัลบั้มนี้มีถึง 15 แทร็ก คุณทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์อย่าง Diplo, Dem Jointz, Mike WiLL และศิลปินอย่าง Doechii, Dua Lipa, Dominic Fike ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์มาก เล่าเกี่ยวกับให้ฟังหน่อยสิ
เจนนี่: ทุกขั้นตอนของอัลบั้มนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับฉันค่ะ เพราะฉันเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ความรับผิดชอบ มีทั้งความผิดพลาดและบทเรียน
แต่ก็สนุกมากที่ได้ร่วมงานกับหลาย ๆ คน ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ รู้สึกเหมือนค่อย ๆ ประกอบจิ๊กซอว์ไปทีละชิ้นเลยค่ะ
Q : ถ้าให้เลือกหนึ่งเพลงที่ท้าทายที่สุดในอัลบั้ม?
เจนนี่: ก็น่าจะเป็น “ZEN” ค่ะ เพลงนี้ทำยากมาก แต่พอมันสำเร็จขึ้นมา ฉันรู้สึกเหมือนเจอชิ้นส่วนสำคัญของจิ๊กซอว์เลย
Q : การก่อตั้งค่าย Odd Atelier (OA) เหมือนเป็นการประกาศว่า "ฉันพร้อมจะเผชิญกับทุกการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางอาชีพ" และคุณก็ทำได้สำเร็จ ถ้า OA มอบอิสระทางศิลปะให้คุณ สิ่งใดที่คุณรู้สึกว่าได้แสดงตัวตนอย่างอิสระที่สุด?
เจนนี่: แค่ความจริงที่ว่า “ไม่มีข้อจำกัด” ก็ถือว่าเป็นอิสระอันยิ่งใหญ่สำหรับฉันแล้วค่ะ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้ลงมือทำในสิ่งที่เคยคิดเล่น ๆ อยู่ในหัวให้กลายเป็นจริง แน่นอนว่ามันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ แต่ฉันก็ชอบที่ได้สร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยความคิดและเสียงของตัวเอง ที่สำคัญคือ ฉันมีทีมงานที่คอยสนับสนุน ช่วยให้ฉันกล้าลองโดยไม่ต้องกลัว
Q : อัลบั้มเดี่ยว Ruby ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกของ OA คุณทั้งแร็ป ร้อง พูด ร้องไห้ และหัวเราะ อะไรที่บอกความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังอัลบั้มเสร็จได้ตรงที่สุด?
เจนนี่: ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ตัวตนของตัวเองมากที่สุดเลยค่ะ
แม้ว่ามันจะเป็นแค่ก้าวแรก แต่เพราะมันเป็นเวลาที่ฉันได้อยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่ จึงเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก
Q : ตอนนี้คำว่า like JENNIE ให้อะไรกับคุณบ้าง?
เจนนี่: มันทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจขึ้นนะคะ พอร้องเพลงนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าถึงแม้เส้นทางที่ผ่านมาอาจจะยาก แต่ฉันก็กำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง ฉันกำลังทำได้ดี – มันเป็นเสียงสะท้อนเชิงบวกจากตัวเองเลยค่ะ
Q : เวที Coachella สำหรับคุณเป็นเหมือนสถานที่หลบภัยหรือสนามรบ (หัวเราะ)
เจนนี่: อาทิตย์แรกเหมือนสนามรบค่ะ (หัวเราะ) เพราะตื่นเต้นและกดดันมาก แต่พอถึงอาทิตย์ที่สอง ฉันเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและสนุกกับเวที ก่อนขึ้นเวทีฉันก็สั่นมาก แต่พอได้เห็นผู้ชมสุดลูกหูลูกตา ได้รับพลังจากพวกเขา ฉันกลับรู้สึกว่าได้รับพลังมากกว่าที่ฉันมอบให้พวกเขาอีกค่ะ
Q : สำหรับคุณที่ได้เริ่มการเดินทางครั้งใหม่ด้วยตัวเอง BLACKPINK คงยังเป็นความภูมิใจที่มั่นคงเสมอ ไม่ว่าจะเมื่อไรหรือที่ไหนใช่ไหมคะ?
เจนนี่: แน่นอนเลยค่ะ ชื่อ BLACKPINK และสมาชิกแต่ละคนเป็นพลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันเสมอ การที่ฉันสามารถเริ่มเส้นทางของตัวเองได้อย่างราบรื่นก็เพราะเส้นทางที่พวกเราร่วมเดินทางกันมาก่อน ฉันจึงภูมิใจมาก ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BLACKPINK ค่ะ
Q : BLACKPINK มีเวิลด์ทัวร์ “DEADLINE” หลังจากห่างหายจากเวทีไปนาน อะไรคือความรู้สึกที่คุณคิดถึงมากที่สุดในฐานะ BLACKPINK?
เจนนี่: ฉันอยากมองตาและสัมผัสพลังของบลิ้งค์ด้วยตัวเองอีกครั้งค่ะ อยากได้ยินเสียงเชียร์ ได้รับพลังเหล่านั้นตรง ๆ ตอนคอนเสิร์ตที่เมืองโกยาง แม้อากาศจะร้อนมาก แต่แฟน ๆ ก็เชียร์กันอย่างเต็มที่ ทำให้ฉันรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
Q : คุณเคยบอกว่าหวังให้คนอื่นแทนที่คำว่า “JENNIE” ด้วยชื่อของตัวเอง ถ้าคุณจะให้กำลังใจคนที่กล้าใช้ชื่อตัวเองในแบบนั้น คุณจะบอกว่าอะไร?
เจนนี่: ไม่ว่าเส้นทางที่คุณเดินจะเป็นทางขึ้นหรือลง หรือแม้แต่ถ้าต้องย้อนกลับไปเส้นทางเดิม ขอให้เชื่อมั่นเสมอว่าคุณกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง และพูดแบบนั้นกับตัวเองเรื่อยๆค่ะ
คำแปลไทยจากบ้าน JENNIE THAILAND 🤍