ช่วงนี้ใครที่ผ่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาจแอบคิดว่า “เอเชียทีค” คงเงียบเหงา เพราะไม่มีทัวร์จีนเดินเป็นกลุ่มเหมือนสมัยก่อน แต่ความจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น!
อานนท์ วิทยะสิรินันท์ ผอ.ฝ่ายขายและการตลาดของเอเชียทีค ซึ่งเปิดเผยเบื้องหลังการปรับกลยุทธ์ของโครงการฯ ได้อย่างน่าสนใจมาก
🎯 [ เปลี่ยนเกมตั้งแต่รู้ว่าคนจีนไม่มา ]
- ตั้งแต่ปีที่แล้ว เอเชียทีค “รู้ก่อน” ว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลง
- ไม่ได้นั่งรอให้ยอดตก แต่เริ่มทำ
แคมเปญเจาะคนไทย ทันที
- โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อยากชิล กิน-ดื่ม-แฮงเอาท์ช่วงเย็น
🛍️ [ ปรับร้านค้าใหม่ ดึงแบรนด์ที่ไทยต้องต่อคิว! ]
- จากที่เคยมีแต่ “ร้านนักท่องเที่ยว” → ปรับเป็นร้านกินดื่ม คนไทยเข้าได้
- ดึง
Miniso Flagship Store แห่งแรกในไทยมาเปิด ดึงคนมาต่อแถวซื้อของ
- เพิ่มศิลปิน T-POP ขึ้นโชว์ ดึงกลุ่ม Gen Z เข้ามาเยอะขึ้น
- เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดู “วัยรุ่น-สดใหม่” ผ่านโซเชียลด้วย
ผลคือ ลูกค้าไทยเพิ่มจาก 20% → 40% ภายในปีเดียว!
กลุ่มหลักคือ
วัยรุ่น - วัยทำงาน ที่มาเดินช่วงเย็น
🦖 [ Jurassic World กำลังมา และยังมีอีกเพียบในอนาคต! ]
- เอเชียทีคจับมือเปิด
Jurassic World: The Experience ในไทย (เปิด ส.ค. นี้)
- ตั้งใจให้เป็น Attraction ที่เจาะได้หลายวัย:
เด็กดูไดโนเสาร์ / พ่อแม่กินข้าว / ปู่ย่าชิลล์ริมแม่น้ำ
- เป้าหมายคือทำให้เอเชียทีคไม่ใช่แค่ “ตลาดกลางคืน” แต่เป็น
All Day Everyday Happiness ที่ใครก็มาได้ทั้งวัน
- ยังมีอีกหลาย Attraction จ่อเปิดในอีก 2-3 ปี
→ จะกลายเป็น Lifestyle Destination เต็มรูปแบบ
✈️ [ นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนไป ]
- สัดส่วนนักท่องเที่ยว:
🔹 ต่างชาติ 60%
🔹 คนไทย 40%
- จีนหาย → แต่เกาหลีใต้, เอเชียกลาง, ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น
- โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ดึงด้วยการใช้
Influencer เจาะตรงเป้า!
🌧️ [ ไทยโลว์ซีซัน แต่ยังไม่วิกฤตเท่าช่วงโควิด ]
- ตั้งแต่ พ.ค. เป็นต้นมา ถือเป็นช่วงโลว์ซีซันของประเทศ ฝนตก-คนเงินหมด-เศรษฐกิจฝืด
- แต่ยังถือว่า “เบา” มาก ถ้าเทียบกับยุคโควิด
- เชื่อว่า “นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา” แต่อาจเปลี่ยนไปเที่ยวเมืองรองแทน
- “เวียดนาม” ตอนนี้คือคู่แข่งที่มาแรงจริง แต่ไทยยังมั่นใจว่าจะดึงคนกลับมาได้
ที่มา
Brand Inside
🦖 Jurassic World: The Experience บุกกรุงเทพ 8 ส.ค. 2568!
- นิทรรศการสุดสมจริงจากภาพยนตร์ระดับโลก จะเปิดให้ชมครั้งแรกในประเทศไทยที่
เอเชียทีค วันที่
8 สิงหาคม 2025
- พื้นที่ราว
6,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ขนาดจริง การจำลองฉากสำคัญจากภาพยนตร์ และโซน Interactive immersive
🎟️ เปิดขายบัตรแล้ว!
- เริ่มจำหน่ายตั้งแต่
11 กรกฎาคม 2568 เพื่อรองรับความนิยมที่คาดว่าจะล้นหลาม
- บัตรจำหน่าย ณ เอเชียทีค บริเวณโกดัง 9–10 หรือผ่านช่องทางออนไลน์
💰 งบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โปรเจกต์ใหญ่ AWC
- พัฒนานิทรรศการนี้ด้วยงบลงทุนประมาณ
1.2 พันล้านบาท ผ่าน Asset World Corp ซึ่งเป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ
- ออกแบบให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับภูมิภาค เหมาะสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว และแฟนหนังไดโนเสาร์
⏰ เวลาเปิดบริการ
- เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่
11:00 – 22:00 น. (รอบสุดท้าย 21:00 น.)
AWC เอเชียทีค ปรับกลยุทธตั้งเป้า Jurassic World: The Experience ดึงลูกค้า
อานนท์ วิทยะสิรินันท์ ผอ.ฝ่ายขายและการตลาดของเอเชียทีค ซึ่งเปิดเผยเบื้องหลังการปรับกลยุทธ์ของโครงการฯ ได้อย่างน่าสนใจมาก
🎯 [ เปลี่ยนเกมตั้งแต่รู้ว่าคนจีนไม่มา ]
- ตั้งแต่ปีที่แล้ว เอเชียทีค “รู้ก่อน” ว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลง
- ไม่ได้นั่งรอให้ยอดตก แต่เริ่มทำ แคมเปญเจาะคนไทย ทันที
- โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อยากชิล กิน-ดื่ม-แฮงเอาท์ช่วงเย็น
🛍️ [ ปรับร้านค้าใหม่ ดึงแบรนด์ที่ไทยต้องต่อคิว! ]
- จากที่เคยมีแต่ “ร้านนักท่องเที่ยว” → ปรับเป็นร้านกินดื่ม คนไทยเข้าได้
- ดึง Miniso Flagship Store แห่งแรกในไทยมาเปิด ดึงคนมาต่อแถวซื้อของ
- เพิ่มศิลปิน T-POP ขึ้นโชว์ ดึงกลุ่ม Gen Z เข้ามาเยอะขึ้น
- เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดู “วัยรุ่น-สดใหม่” ผ่านโซเชียลด้วย
ผลคือ ลูกค้าไทยเพิ่มจาก 20% → 40% ภายในปีเดียว!
กลุ่มหลักคือ วัยรุ่น - วัยทำงาน ที่มาเดินช่วงเย็น
🦖 [ Jurassic World กำลังมา และยังมีอีกเพียบในอนาคต! ]
- เอเชียทีคจับมือเปิด Jurassic World: The Experience ในไทย (เปิด ส.ค. นี้)
- ตั้งใจให้เป็น Attraction ที่เจาะได้หลายวัย:
เด็กดูไดโนเสาร์ / พ่อแม่กินข้าว / ปู่ย่าชิลล์ริมแม่น้ำ
- เป้าหมายคือทำให้เอเชียทีคไม่ใช่แค่ “ตลาดกลางคืน” แต่เป็น
All Day Everyday Happiness ที่ใครก็มาได้ทั้งวัน
- ยังมีอีกหลาย Attraction จ่อเปิดในอีก 2-3 ปี
→ จะกลายเป็น Lifestyle Destination เต็มรูปแบบ
✈️ [ นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนไป ]
- สัดส่วนนักท่องเที่ยว:
🔹 ต่างชาติ 60%
🔹 คนไทย 40%
- จีนหาย → แต่เกาหลีใต้, เอเชียกลาง, ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น
- โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ดึงด้วยการใช้ Influencer เจาะตรงเป้า!
🌧️ [ ไทยโลว์ซีซัน แต่ยังไม่วิกฤตเท่าช่วงโควิด ]
- ตั้งแต่ พ.ค. เป็นต้นมา ถือเป็นช่วงโลว์ซีซันของประเทศ ฝนตก-คนเงินหมด-เศรษฐกิจฝืด
- แต่ยังถือว่า “เบา” มาก ถ้าเทียบกับยุคโควิด
- เชื่อว่า “นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา” แต่อาจเปลี่ยนไปเที่ยวเมืองรองแทน
- “เวียดนาม” ตอนนี้คือคู่แข่งที่มาแรงจริง แต่ไทยยังมั่นใจว่าจะดึงคนกลับมาได้
ที่มา Brand Inside
🦖 Jurassic World: The Experience บุกกรุงเทพ 8 ส.ค. 2568!
- นิทรรศการสุดสมจริงจากภาพยนตร์ระดับโลก จะเปิดให้ชมครั้งแรกในประเทศไทยที่ เอเชียทีค วันที่ 8 สิงหาคม 2025
- พื้นที่ราว 6,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ขนาดจริง การจำลองฉากสำคัญจากภาพยนตร์ และโซน Interactive immersive
🎟️ เปิดขายบัตรแล้ว!
- เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 11 กรกฎาคม 2568 เพื่อรองรับความนิยมที่คาดว่าจะล้นหลาม
- บัตรจำหน่าย ณ เอเชียทีค บริเวณโกดัง 9–10 หรือผ่านช่องทางออนไลน์
💰 งบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โปรเจกต์ใหญ่ AWC
- พัฒนานิทรรศการนี้ด้วยงบลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านบาท ผ่าน Asset World Corp ซึ่งเป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ
- ออกแบบให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับภูมิภาค เหมาะสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว และแฟนหนังไดโนเสาร์
⏰ เวลาเปิดบริการ
- เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 – 22:00 น. (รอบสุดท้าย 21:00 น.)