ปากีสถานประจำการ Z-10ME/P ของจีน แทนที่เฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ผลิตในสหรัฐฯ

ปากีสถานเริ่มใช้งานเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME/P ที่ผลิตในจีน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านจากเฮลิคอปเตอร์ AH-1F Cobra ที่ใช้งานมานานกว่า 40 ปี
การจัดซื้อที่ล่าช้าและข้อจำกัดในอดีต
ปากีสถานเคยให้ความสนใจเฮลิคอปเตอร์ Z-10 มาตั้งแต่ปี 2015 แต่ได้ส่งเครื่องกลับคืนไปเนื่องจากเครื่องยนต์ WZ-9 ในขณะนั้นมีกำลังไม่เพียงพอสำหรับการปฏิบัติการในพื้นที่สูง จากนั้น ปากีสถานได้ทำสัญญาซื้อเฮลิคอปเตอร์ T129 ATAK จำนวน 30 ลำจากตุรกีในปี 2018 แต่ก็ต้องล้มเลิกไปในปี 2022 เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ส่งออกเครื่องยนต์
เมื่อข้อตกลงกับตุรกีถูกยกเลิก Z-10ME รุ่นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จึงกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ WZ-9G ที่มีกำลังเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบินในสภาพอากาศร้อนและพื้นที่สูงได้อย่างมาก
คุณสมบัติและศักยภาพของ Z-10ME/P
เฮลิคอปเตอร์ Z-10ME/P ที่ปากีสถานได้รับมานี้มีการอัปเกรดที่สำคัญหลายอย่าง:
เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ใหม่ให้กำลังเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถติดตั้งอาวุธได้เต็มพิกัดในสภาพการบินที่หลากหลาย
ระบบอาวุธ: ติดตั้งอาวุธได้มากขึ้น สามารถติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่พื้น CM-502KG ได้สูงสุดถึง 16 ลูก รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ TY-90 และจรวดนำวิถี GR5
การอยู่รอด: ได้รับการป้องกันด้วยเกราะเซรามิกและกราฟีน พร้อมระบบป้องกันที่ครอบคลุม เช่น ระบบเตือนภัยและระบบตอบโต้อินฟราเรดแบบกำหนดทิศทาง (DIRCM)
การบูรณาการทางทหาร: เฮลิคอปเตอร์เหล่านี้จะทำงานร่วมกับระบบอาวุธอื่นๆ ที่ซื้อจากจีน เช่น รถถังหลัก VT-4 และเครื่องบินขับไล่ J-10CE เพื่อสร้างเครือข่ายการบังคับบัญชาและการควบคุมที่แข็งแกร่ง
ผลกระทบต่อภูมิภาค
การนำ Z-10ME/P มาใช้งานทำให้ปากีสถานมีขีดความสามารถทางทหารที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งอาจท้าทายปฏิบัติการทางทหารของอินเดียในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ Z-10ME ให้ปากีสถานยังถือเป็นการส่งออกเฮลิคอปเตอร์โจมตีโดยเฉพาะของจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยส่งเสริมบทบาทของจีนในฐานะผู้ส่งออกอาวุธรายสำคัญในตลาดโลก

ปากีสถานประจำการ Z-10ME/P ของจีน แทนที่เฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ผลิตในสหรัฐฯ
การจัดซื้อที่ล่าช้าและข้อจำกัดในอดีต
ปากีสถานเคยให้ความสนใจเฮลิคอปเตอร์ Z-10 มาตั้งแต่ปี 2015 แต่ได้ส่งเครื่องกลับคืนไปเนื่องจากเครื่องยนต์ WZ-9 ในขณะนั้นมีกำลังไม่เพียงพอสำหรับการปฏิบัติการในพื้นที่สูง จากนั้น ปากีสถานได้ทำสัญญาซื้อเฮลิคอปเตอร์ T129 ATAK จำนวน 30 ลำจากตุรกีในปี 2018 แต่ก็ต้องล้มเลิกไปในปี 2022 เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ส่งออกเครื่องยนต์
เมื่อข้อตกลงกับตุรกีถูกยกเลิก Z-10ME รุ่นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จึงกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ WZ-9G ที่มีกำลังเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบินในสภาพอากาศร้อนและพื้นที่สูงได้อย่างมาก
คุณสมบัติและศักยภาพของ Z-10ME/P
เฮลิคอปเตอร์ Z-10ME/P ที่ปากีสถานได้รับมานี้มีการอัปเกรดที่สำคัญหลายอย่าง:
เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ใหม่ให้กำลังเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถติดตั้งอาวุธได้เต็มพิกัดในสภาพการบินที่หลากหลาย
ระบบอาวุธ: ติดตั้งอาวุธได้มากขึ้น สามารถติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่พื้น CM-502KG ได้สูงสุดถึง 16 ลูก รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ TY-90 และจรวดนำวิถี GR5
การอยู่รอด: ได้รับการป้องกันด้วยเกราะเซรามิกและกราฟีน พร้อมระบบป้องกันที่ครอบคลุม เช่น ระบบเตือนภัยและระบบตอบโต้อินฟราเรดแบบกำหนดทิศทาง (DIRCM)
การบูรณาการทางทหาร: เฮลิคอปเตอร์เหล่านี้จะทำงานร่วมกับระบบอาวุธอื่นๆ ที่ซื้อจากจีน เช่น รถถังหลัก VT-4 และเครื่องบินขับไล่ J-10CE เพื่อสร้างเครือข่ายการบังคับบัญชาและการควบคุมที่แข็งแกร่ง
ผลกระทบต่อภูมิภาค
การนำ Z-10ME/P มาใช้งานทำให้ปากีสถานมีขีดความสามารถทางทหารที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งอาจท้าทายปฏิบัติการทางทหารของอินเดียในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ Z-10ME ให้ปากีสถานยังถือเป็นการส่งออกเฮลิคอปเตอร์โจมตีโดยเฉพาะของจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยส่งเสริมบทบาทของจีนในฐานะผู้ส่งออกอาวุธรายสำคัญในตลาดโลก