โตโยต้าขยายการจัดซื้อชิ้นส่วนจีนในไทย ครั้งแรกในภูมิภาค ตั้งเป้าลดต้นทุน 30% เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นประหยัดปี 2028 แข่งขันได้ดีขึ้น ในสถานการณ์ที่คู่แข่งจากจีนรุกตลาด
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) กำลังขยายการจัดซื้อชิ้นส่วนซัพพลายเออร์จีนในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโตโยต้าในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมองหาชิ้นส่วนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2028
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายนี้ได้เริ่มการจัดซื้อชิ้นส่วนที่ผลิตโดยบริษัทจีนในไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยซัมมิท กรุ๊ป ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของไทย กับอู่หู เยว่เฟย (Wuhu Yuefei Sound-absorbing New Materials) ซึ่งผลิตวัสดุดูดซับเสียง สัญชาติจีน ทั้งสองบริษัทได้ร่วมทุนกันในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และวางแผนที่จะสร้างโรงงานในไทยเพื่อผลิตชิ้นส่วนให้กับโตโยต้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
โตโยต้าครองตลาดไทยมาอย่างยาวนาน คิดเป็นประมาณ 90% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ แต่ BYD และผู้เล่นจีนรายอื่น ๆ ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) ที่ราคาถูกลง
ตามสถิติในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมในปี 2025 รถยนต์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดถึง 71% ขณะที่คู่แข่งจากจีนเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 16% ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระตุ้นให้บริษัทญี่ปุ่นทบทวนห่วงโซ่อุปทานใหม่เพื่อการแข่งขันได้ดีขึ้น โดยการเคลื่อนไหวล่าสุดของโตโยต้า ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุด อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับกลยุทธ์ในภูมิภาคนี้
โตโยต้ายังสนับสนุนให้ซัพพลายเออร์ในญี่ปุ่นใช้ผลิตภัณฑ์จากบริษัทจีน เช่น Zhejiang Kaihua Moulds และผู้ผลิตพลาสติก Kingfa Sci. & Tech. ซึ่งน่าจะช่วยลดต้นทุนได้ด้วย...
ชิ้นส่วนของโตโยต้าหลายชิ้นดูเหมือนจะถูกใช้ในการผลิตรถยนต์ในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน ในรุ่นต่าง ๆ เช่น bZ3X EV รุ่นประหยัด ซึ่งขายดีนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“พวกเขากำลังพยายามใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตจีนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับที่ทำกับ bZ3X เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าด้วยต้นทุนที่ลดลง” ผู้บริหารของผู้ผลิตชิ้นส่วนในเครือโตโยต้ากล่าว
โตโยต้าวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณปี 2571 ภายใต้ แพลตฟอร์มแบบหลายเส้นทางซึ่งเป็นโครงรถยนต์ที่สามารถนำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภท รวมถึงแบบไฮบริด ซึ่งแหล่งข่าววงในของโตโยต้ากล่าวว่า โตโยต้าตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนลงประมาณ 30% ด้วยการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตจีน
ตัวแทนของโตโยต้ายังไม่แสดงความเห็นต่อนิกเคอิ
เนื่องจาก BYD และผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ๆ เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนจึงได้ก้าวหน้าไปด้วย
ตามข้อมูลของ MarkLines ไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนประมาณ 3,100 ราย ซึ่งประมาณ 1,400 รายเป็นของญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีเพียงประมาณ 190 รายจากจีน แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นสี่เท่านับตั้งแต่สิ้นปี 2017
“เมื่อเทียบกับบริษัทญี่ปุ่นแล้ว ต้นทุนของผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนต่ำกว่า 20% ถึง 30%” หัวหน้าผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศรายหนึ่งกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้เล่นญี่ปุ่นบางรายกำลังถูกบังคับให้ถอนตัวหรือลดขนาดลง... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/world-news/news-1858426
โตโยต้า จัดซื้อชิ้นส่วนจีนในไทย ครั้งแรก ตั้งเป้าลดต้นทุน 30% สู้ศึก EV
โตโยต้าขยายการจัดซื้อชิ้นส่วนจีนในไทย ครั้งแรกในภูมิภาค ตั้งเป้าลดต้นทุน 30% เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นประหยัดปี 2028 แข่งขันได้ดีขึ้น ในสถานการณ์ที่คู่แข่งจากจีนรุกตลาด
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) กำลังขยายการจัดซื้อชิ้นส่วนซัพพลายเออร์จีนในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโตโยต้าในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมองหาชิ้นส่วนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2028
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายนี้ได้เริ่มการจัดซื้อชิ้นส่วนที่ผลิตโดยบริษัทจีนในไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยซัมมิท กรุ๊ป ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของไทย กับอู่หู เยว่เฟย (Wuhu Yuefei Sound-absorbing New Materials) ซึ่งผลิตวัสดุดูดซับเสียง สัญชาติจีน ทั้งสองบริษัทได้ร่วมทุนกันในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และวางแผนที่จะสร้างโรงงานในไทยเพื่อผลิตชิ้นส่วนให้กับโตโยต้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
โตโยต้าครองตลาดไทยมาอย่างยาวนาน คิดเป็นประมาณ 90% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ แต่ BYD และผู้เล่นจีนรายอื่น ๆ ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) ที่ราคาถูกลง
ตามสถิติในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมในปี 2025 รถยนต์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดถึง 71% ขณะที่คู่แข่งจากจีนเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 16% ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระตุ้นให้บริษัทญี่ปุ่นทบทวนห่วงโซ่อุปทานใหม่เพื่อการแข่งขันได้ดีขึ้น โดยการเคลื่อนไหวล่าสุดของโตโยต้า ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุด อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับกลยุทธ์ในภูมิภาคนี้
โตโยต้ายังสนับสนุนให้ซัพพลายเออร์ในญี่ปุ่นใช้ผลิตภัณฑ์จากบริษัทจีน เช่น Zhejiang Kaihua Moulds และผู้ผลิตพลาสติก Kingfa Sci. & Tech. ซึ่งน่าจะช่วยลดต้นทุนได้ด้วย...
ชิ้นส่วนของโตโยต้าหลายชิ้นดูเหมือนจะถูกใช้ในการผลิตรถยนต์ในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน ในรุ่นต่าง ๆ เช่น bZ3X EV รุ่นประหยัด ซึ่งขายดีนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“พวกเขากำลังพยายามใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตจีนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับที่ทำกับ bZ3X เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าด้วยต้นทุนที่ลดลง” ผู้บริหารของผู้ผลิตชิ้นส่วนในเครือโตโยต้ากล่าว
โตโยต้าวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณปี 2571 ภายใต้ แพลตฟอร์มแบบหลายเส้นทางซึ่งเป็นโครงรถยนต์ที่สามารถนำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภท รวมถึงแบบไฮบริด ซึ่งแหล่งข่าววงในของโตโยต้ากล่าวว่า โตโยต้าตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนลงประมาณ 30% ด้วยการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตจีน
ตัวแทนของโตโยต้ายังไม่แสดงความเห็นต่อนิกเคอิ
เนื่องจาก BYD และผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ๆ เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนจึงได้ก้าวหน้าไปด้วย
ตามข้อมูลของ MarkLines ไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนประมาณ 3,100 ราย ซึ่งประมาณ 1,400 รายเป็นของญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีเพียงประมาณ 190 รายจากจีน แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นสี่เท่านับตั้งแต่สิ้นปี 2017
“เมื่อเทียบกับบริษัทญี่ปุ่นแล้ว ต้นทุนของผู้ผลิตชิ้นส่วนจีนต่ำกว่า 20% ถึง 30%” หัวหน้าผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศรายหนึ่งกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้เล่นญี่ปุ่นบางรายกำลังถูกบังคับให้ถอนตัวหรือลดขนาดลง... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1858426