เรื่องนี้มีแจ้งเตือนกันมานานแล้ว แต่ออกแจ้งดังๆ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
TSA (Transportation Security Administration) ของสหรัฐอเมริกาได้ออกคำเตือนถึงผู้เดินทางให้หลีกเลี่ยงการใช้ พอร์ตชาร์จ USB สาธารณะ ในสถานที่ต่างๆ เช่น สนามบิน. เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิด "Juice Jacking" ซึ่งเป็นวิธีการที่ แฮกเกอร์ สามารถติดตั้งมัลแวร์เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือล็อกเครื่องได้. นอกจากนี้ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ ฟรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำธุรกรรมออนไลน์.
รายละเอียดเพิ่มเติม:
"Juice Jacking":
เป็นวิธีการที่แฮกเกอร์จะปรับเปลี่ยนพอร์ตชาร์จ USB สาธารณะ เพื่อให้สามารถติดตั้ง มัลแวร์ ลงในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ.
ความเสี่ยง:
มัลแวร์ที่ติดตั้งผ่านพอร์ต USB สาธารณะ อาจขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต, รายชื่อติดต่อ, และข้อมูลอื่นๆ.
คำแนะนำ:
พกพา แบตเตอรี่สำรอง (power bank) หรือสายชาร์จของคุณเอง.
ใช้ อุปกรณ์ป้องกันข้อมูล (USB data blocker) ที่ตัดการเชื่อมต่อข้อมูล.
หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่ปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์.
หากจำเป็นต้องใช้พอร์ต USB สาธารณะ ให้พิจารณาใช้เฉพาะการชาร์จไฟเท่านั้น โดยไม่เชื่อมต่อข้อมูล.
มือถือระบบ android มีความเสี่ยงมากที่สุด หากเอามือถือไปเสียบชาร์จด้วย usb แล้ว หน้าจอขึ้นมาให้กด อนุญาติ ห้ามไปกดอนุญาติเด็ดขาด ให้ถอดสายออกทันที เพราะหากไปกด จะเป็นการอนุญาติให้แฮกเกอร์ที่แฝงอยู่ในระบบชาร์จไฟผ่าน port usb สามารถเข้าคุมเครื่อง หรือดู ดึง ข้อมูลในเครื่องได้ทันที
ข้อแนะนำของทาง TSA ถ้าจะไปชาร์จแบต ให้เอาปลั๊กไฟของเราไปเสียบที่เต้าเท่านั้น ห้ามเสียบ usb โดยตรงโดยไม่ผ่านปลั๊กชาร์จ
อยู่บนเครื่องบิน หากมีช่อง usb ให้เสียบชาร์จ ก็ห้ามเสียบเด็ดขาด ถ้าจะเสียบชาร์จ ให้ชาร์จกับ powerbank เท่านั้น
สนามบินบ้านเราก็มีนะ ที่เป็นช่องชาร์จให้เอาสาย usb เสียบตรงๆ
TSA เตือน ห้ามชาร์จมือถือด้วยสาย usb โดยตรงกับปลั๊กชาร์จ usb ในที่สาธารณะ โอกาศโดนแฮ๊กขโมยข้อมูลมีสูง