จากกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา หลายคนได้เห็นสงครามยุคใหม่ครั้งแรกๆแบบใกล้ชิด ชื่อของเครืองขับไล่เจ็น 4.5 การใช้โดรน และ ขีปนาวุธต่างๆ ที่ดูไกลตัว
เช่น BM-21 ที่เห็นกัมพูชาใช้ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ราวกับหนังสงคราม ทั้งๆที่เป็นอาวุธอายุกว่า 50 ปี
มีกระแส อยากให้"อัพเกรด" อาวุธต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น เครื่องบินขับไล่กริพเพน อีกหลายๆฝูงบิน เพื่อใช้ความได้เปียบนี้ในการปกปอ้งอธิปไตย การหาเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่สามารถปกป้องน่านน้ำ รวมถึง เรือดำน้ำ ที่สามารถจัดการกับเรือรบที่เข้ามารุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึง การอัพเกรดปืนใหญ่อัตราจรรุ่นใหม่ๆที่มีระบบเล็งเป้าอัตโนมัติ ช่วยให้การยิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เหนือสิ่งอื่นใดคือ โดรนรุ่นใหม่ๆในตระกูล KB ที่พัฒนาให้จู่โจมได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ลดการสูญเสียกำลังพล
คำถามคือ จะคุ้มค่ามั้ย หากต้องใช้งบประมาณมหาศาล และ ภาระผูกพันหลายๆปี เพื่อให้มั่นใจว่า ไทย จะปกป้องอธิปไตยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อริราชศัตรูรอบบ้าน "เกรงใจ" ไม่กล้าสร้างปัญหาใดๆอีก
ปัญหาของกรณี กัมพูชา ไม่น่าใช่เรื่องความแข็งแกร่ง แต่เป็น กลเกมส์เวทีโลกที่กัมพูชาใช้ เราเห็นได้ชัดว่า กัมพูชาไม่ได้สนใจความสูญเสีย ซ้ำยังใช้ความสูญเสียในการเรียกร้องความเห็นใจจากเวทีดลก ไม่ได้เกี่ยวว่าพวกเขามีเครื่องบินขับไล่หรือไม่ แต่ พวกเขาพยายามทำให้ไทย ไม่สามารถใช้เครือ่งบินขับไล่ในกปฎิบัติการตอบโต้
ในทางกลับกัน กัมพูชา ก็ปกปิดจำนวนความสูญเสีย เหมือนรบไปทิ้งไป และ หลอกชนชั้นกลางกับชนชั้นนำของตนให้เชื่อว่า รัฐบาล กำลังเอาอยู่กับกรณีพิพาทชายแดนร่วมกับไทย และยังสามารถยึดพื้นที่คืนได้อย่างมากมาย ยังจะยึดได้ หลังจากนี้ด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเด็นที่กระทู้ถามคือ แล้ว การลงทุน อัพเกรดยุทธภัณฑ์ มันคือการตอบโจทย์ในกรีแบบนี้หรือไม่?
หรือจริงๆ เราควรต้องมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ สามารถยืนหยัดมบทบาททั้งด้านรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกได้อย่างภาคภูมิ จนมีความ"น่าเกรงใจ"
ปัญฆาที่กัมพูชา"กล้า" ทำอะไรแบบนี้ มาจาก กองทัพไทยไร้กำลังเขี้ยวเล็บน่ายำเกรง หรือเพราะ ไทย อยู่กับทศวรรษที่ไร้บารมีในเวทีโลก จาก ประเทศที่ถูกปฎิวัติปกครองโดยทหาร พอเลือกตั้ง ก็เป็นรัฐบาลที่ถูกชาติตะวันตกโลกเสรีตั้งคำถามถึงความเป็นประชาธิปไตย แม้แต่ เมื่อเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเต็มตัว ก็ยังโดนตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการจัดตั้งรัฐบาลที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่ดี
สิบกว่าปี ที่ไทย ต้องวิ่งหามิตรใกล้ตัว ต้องวิ่งหาพี่ใหญ่ค่ายตรงข้ามเพื่อการลงทุน และจุดยืนระหว่างประเทศ อันนี้หรือเปล่าที่เป็นปัญหาหลัก
หรือผมคิดผิดไป ต่อให้อนาคตเรามีประชาธิปไตยเข้มแข็ง มีรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ต่อให้เรากลับไปทำการค้าอย่างเต็มรูปแบบกับดลกเสรี ขับเคลื่อนตัวเองในเวทีดลกได้ แต่ ประเทศอย่างกัมพูชา ก็จะยังคอยตอแยไทย ว้าแดงก็ยังจะคอยรบกวน ดังนั้น เราต้องการอาวุธหนัก ที่ "เอาอยู่" ในเวลาที่รวดเร็ว รุนแรง และ ศักยภาพสูงกว่านี้
เพราะปัญหาความมั่นคงจากรอบบ้านเรา แม้จะไม่ใช่ประเทศที่ล้ำด้วยเทคโนโลยีทางการทหาร แต่ก็สร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างมาก ทั้งยัง ทนทรหดกว่าที่เราคิด ยังสามารถโจมตีไทยได้อย่างยืดเยื้อ และ เข้าตีในหลายพื้นที่สร้างความสูญเสียให้ทหารกล้าของไทยได้มากกว่าที่คิด
การกระทำเยี่ยงโจรป่าเช่นนี้ ต่อให้มีบารมีในเวทีโลกก็ไม่ช่วย นอกจากเราต้องมี ปืน มีระเบิด ที่เมื่อถึงเวลา สามารถหยุดยั้งโจรรุกรานแผ่นดินให้จบลงได้เร็วที่สุด เร็วกว่านี้ สูญเสียน้อยกว่านี้ ทั้งกำลังพลและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้อง
หรืออีกมิติหนึ่ง
เราสามารถ ยืนหยัดในเวทีโลกโดยไม่ต้องสนใจโลกเสรีได้หรือไม่ ไม่ต้องสนใจอำนาจบารมีของอเมริกาและสหภาพยุโรป เราเข้ากับฝ่ายจีนไปเลยอย่างเต็มตัว ถือหางรัสเซีย วางตัวเองชัดเจนแบบกรณี อิสราเอล-ปาเลสไตน์ เหมือนอิหร่าน
ค้าขายกับกลุ่มประเทศเหล่านี้จนมั่งคั่ง มีหน้ามีตาเป็นที่ยำเกรงแบบที่จีนก็มีบารมีไม่น้อยใน UN ไทย ก็ก้าวไปสู่เส้นทางนี้ให้สุดทางไปเลย
คุ้มมั้ย ถ้าเราจะอัพเกรดยุทธภัณฑ์ หลังกรณีศึกษา ไทย-กัมพูชา
เช่น BM-21 ที่เห็นกัมพูชาใช้ยิงเข้ามาในฝั่งไทย ราวกับหนังสงคราม ทั้งๆที่เป็นอาวุธอายุกว่า 50 ปี
มีกระแส อยากให้"อัพเกรด" อาวุธต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น เครื่องบินขับไล่กริพเพน อีกหลายๆฝูงบิน เพื่อใช้ความได้เปียบนี้ในการปกปอ้งอธิปไตย การหาเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่สามารถปกป้องน่านน้ำ รวมถึง เรือดำน้ำ ที่สามารถจัดการกับเรือรบที่เข้ามารุกรานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึง การอัพเกรดปืนใหญ่อัตราจรรุ่นใหม่ๆที่มีระบบเล็งเป้าอัตโนมัติ ช่วยให้การยิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เหนือสิ่งอื่นใดคือ โดรนรุ่นใหม่ๆในตระกูล KB ที่พัฒนาให้จู่โจมได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ลดการสูญเสียกำลังพล
คำถามคือ จะคุ้มค่ามั้ย หากต้องใช้งบประมาณมหาศาล และ ภาระผูกพันหลายๆปี เพื่อให้มั่นใจว่า ไทย จะปกป้องอธิปไตยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อริราชศัตรูรอบบ้าน "เกรงใจ" ไม่กล้าสร้างปัญหาใดๆอีก
ปัญหาของกรณี กัมพูชา ไม่น่าใช่เรื่องความแข็งแกร่ง แต่เป็น กลเกมส์เวทีโลกที่กัมพูชาใช้ เราเห็นได้ชัดว่า กัมพูชาไม่ได้สนใจความสูญเสีย ซ้ำยังใช้ความสูญเสียในการเรียกร้องความเห็นใจจากเวทีดลก ไม่ได้เกี่ยวว่าพวกเขามีเครื่องบินขับไล่หรือไม่ แต่ พวกเขาพยายามทำให้ไทย ไม่สามารถใช้เครือ่งบินขับไล่ในกปฎิบัติการตอบโต้
ในทางกลับกัน กัมพูชา ก็ปกปิดจำนวนความสูญเสีย เหมือนรบไปทิ้งไป และ หลอกชนชั้นกลางกับชนชั้นนำของตนให้เชื่อว่า รัฐบาล กำลังเอาอยู่กับกรณีพิพาทชายแดนร่วมกับไทย และยังสามารถยึดพื้นที่คืนได้อย่างมากมาย ยังจะยึดได้ หลังจากนี้ด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเด็นที่กระทู้ถามคือ แล้ว การลงทุน อัพเกรดยุทธภัณฑ์ มันคือการตอบโจทย์ในกรีแบบนี้หรือไม่?
หรือจริงๆ เราควรต้องมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ สามารถยืนหยัดมบทบาททั้งด้านรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกได้อย่างภาคภูมิ จนมีความ"น่าเกรงใจ"
ปัญฆาที่กัมพูชา"กล้า" ทำอะไรแบบนี้ มาจาก กองทัพไทยไร้กำลังเขี้ยวเล็บน่ายำเกรง หรือเพราะ ไทย อยู่กับทศวรรษที่ไร้บารมีในเวทีโลก จาก ประเทศที่ถูกปฎิวัติปกครองโดยทหาร พอเลือกตั้ง ก็เป็นรัฐบาลที่ถูกชาติตะวันตกโลกเสรีตั้งคำถามถึงความเป็นประชาธิปไตย แม้แต่ เมื่อเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเต็มตัว ก็ยังโดนตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการจัดตั้งรัฐบาลที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่ดี
สิบกว่าปี ที่ไทย ต้องวิ่งหามิตรใกล้ตัว ต้องวิ่งหาพี่ใหญ่ค่ายตรงข้ามเพื่อการลงทุน และจุดยืนระหว่างประเทศ อันนี้หรือเปล่าที่เป็นปัญหาหลัก
หรือผมคิดผิดไป ต่อให้อนาคตเรามีประชาธิปไตยเข้มแข็ง มีรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ต่อให้เรากลับไปทำการค้าอย่างเต็มรูปแบบกับดลกเสรี ขับเคลื่อนตัวเองในเวทีดลกได้ แต่ ประเทศอย่างกัมพูชา ก็จะยังคอยตอแยไทย ว้าแดงก็ยังจะคอยรบกวน ดังนั้น เราต้องการอาวุธหนัก ที่ "เอาอยู่" ในเวลาที่รวดเร็ว รุนแรง และ ศักยภาพสูงกว่านี้
เพราะปัญหาความมั่นคงจากรอบบ้านเรา แม้จะไม่ใช่ประเทศที่ล้ำด้วยเทคโนโลยีทางการทหาร แต่ก็สร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างมาก ทั้งยัง ทนทรหดกว่าที่เราคิด ยังสามารถโจมตีไทยได้อย่างยืดเยื้อ และ เข้าตีในหลายพื้นที่สร้างความสูญเสียให้ทหารกล้าของไทยได้มากกว่าที่คิด
การกระทำเยี่ยงโจรป่าเช่นนี้ ต่อให้มีบารมีในเวทีโลกก็ไม่ช่วย นอกจากเราต้องมี ปืน มีระเบิด ที่เมื่อถึงเวลา สามารถหยุดยั้งโจรรุกรานแผ่นดินให้จบลงได้เร็วที่สุด เร็วกว่านี้ สูญเสียน้อยกว่านี้ ทั้งกำลังพลและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้อง
หรืออีกมิติหนึ่ง
เราสามารถ ยืนหยัดในเวทีโลกโดยไม่ต้องสนใจโลกเสรีได้หรือไม่ ไม่ต้องสนใจอำนาจบารมีของอเมริกาและสหภาพยุโรป เราเข้ากับฝ่ายจีนไปเลยอย่างเต็มตัว ถือหางรัสเซีย วางตัวเองชัดเจนแบบกรณี อิสราเอล-ปาเลสไตน์ เหมือนอิหร่าน
ค้าขายกับกลุ่มประเทศเหล่านี้จนมั่งคั่ง มีหน้ามีตาเป็นที่ยำเกรงแบบที่จีนก็มีบารมีไม่น้อยใน UN ไทย ก็ก้าวไปสู่เส้นทางนี้ให้สุดทางไปเลย