🕯️ Ep.17: ครุฑสังหารคู่ × ศิลาแห่งคำสาป
บทแห่งไฟรัก น้ำตา และการล่มสลายของพันธนาการนับพันปี
🌩️ เสียงฟ้าฟาดฉีกม่านเมฆเหนือบึงหนองหาน...
เมื่อสองเงานาคาโบราณ — นาคามรกต และ นาคีทอง
ยืนเคียงกันท่ามกลางเปลวเพลิงทองแห่งสวรรค์
เสียงหัวใจของทั้งคู่แนบประสาน กลางลมฝนที่ไม่มีวันล้างรอยแค้นเก่าได้
“แม้ชาตินี้เป็นครั้งสุดท้าย...ข้าก็จะปกป้องเจ้า แม้แลกด้วยลมหายใจ” — มรกตเอ่ย
นาคีทองเพียงยิ้ม...
ก่อนจะปลดเปลวทองแห่งรักออกจากกลางอก
ส่งขึ้นฟากฟ้า — ราวถวายวิญญาณแด่พรหมประกายโลก
แต่แล้ว...
“ฉึก!”
เสียงมีดแทงทะลุร่าง ดังก้องราวฟ้าถล่ม
จากเงาหลัง — ปีกครุฑโถมเข้า
ท้าวหนองหานล่ม พุ่งมาด้วยไฟแค้น
มีดเล็บครุฑ ในมือปักลงกลางร่างของเขาทั้งสอง — พร้อมกัน!
เลือดสีทองสาดกระเซ็น เปลวรักดับวูบ
เงาสวรรค์สั่นสะเทือนดั่งคร่ำครวญ
สองร่างทรุดลง...
แต่อ้อมกอดสุดท้ายยังแน่น มือยังจับเกล็ดไม่ปล่อย
ตายังมองใบหน้ากัน…แม้หมดลมหายใจ
ฝนโปรยซัดซ้ำ —
เหมือน ฟ้าเองก็ร่ำไห้แทนผู้เป็นอมตะ
ท้าวหนองหานล่มยืนนิ่ง เงาปีกครุฑพาดผ่านราวเทพพิโรธ
แต่ภายในอก…กลับร้าวลึก
“ข้าควรสุขสมมิใช่หรือ...ข้าได้ฆ่าเขา...ทั้งสอง…”
ริมฝีปากสั่น
ดวงตาเบิกโพลง
แต่ไม่มีคำสาปใดหลุดออกมา
นอกจาก... “น้ำตา”
“ทำไมข้าจึงร้องไห้...?”
“ทั้งที่ข้า...คือผู้ชนะ...”
🌕 คืนฟ้ามืด... เงาจันทร์คลุมบึงหนองหาน
เขาไม่เอ่ยคำลา ไม่แม้สบตาศพเบื้องหลัง
เพียงเงียบ... แล้วใช้ มีดเล็บครุฑ กรีดกลางอกตน
โลหิตครุฑไม่ใช่เลือด…
หากเป็น กรดสีดำสนิท
ร้อนแรงราวละลายบาปทั้งโลก
หยดนั้น…ไหลสู่ดินลึก
ปลุก “คำสาปบรรพกาล” ให้ตื่น!
“จง...ล่ม”
แผ่นดินเริ่มแยก เสาศักดิ์สิทธิ์พังทลาย
ร่างของนาคีทองกลายเป็น หินทอง
ร่างของนาคามรกตกลายเป็น ศิลามรกต
น้ำบ่าทุกทิศหลั่งกลืนเมือง
หนองหาน... ล่ม อย่างแท้จริง
🪨 เขาเดินขึ้นสู่ปราสาทร้างกลางบึง
นั่งบนบัลลังก์อย่างคนหมดวิญญาณ
ไร้ความหวังจะไถ่บาป
ก่อนจะหลับตาลง...
แล้วร่างนั้น...กลายเป็นหินช้า ๆ
นิ่งงันแม้แต่ลมยังไม่กล้าแทรก
🌊 ลึกใต้บึง
ศิลานาคามรกตรุ่นแรก ที่ถูกสาปโดยพรหมประกายโลก
เริ่มแตกร้าว…
เสียงจากฟากฟ้าดังลงมา
“ถึงเวลาเจ้ากลับบ้าน...ลูกของข้า”
“ปัง!”
ศิลาแตก
แสงมรกตพวยพุ่ง
ชายหนุ่มผู้เป็น นาคามรกต ฟื้นจากคำสาป
เขาเงยหน้า…
พุ่งทะลุน้ำขึ้นสู่ฟ้า
☁️ ณ ชั้นเมฆสีรุ้ง
พ่อปู่พรหมประกายโลก
ยืนรออยู่...ด้วยสายตาเมตตา
“เจ้าผ่านความรัก ความเจ็บ และการสูญเสียจนสิ้นเงา...
วันนี้...คำสาปสิ้นสุดแล้ว...ลูกข้า”
นาคามรกต...คุกเข่า
กราบแทบเท้า
แล้วร่างของเขากลายเป็นแสง
แทรกสู่ผืนพรหม
เบาบางดุจกลีบดอกไม้ในลม
🕯️ และบัดนั้น...
วิญญาณนับพัน — นาคสาป, พรายเงา, ผีบาป
ลอยขึ้นจากดิน
ร้องไห้ — หัวเราะ — และสลายไป
...ดุจหิ่งห้อยแห่งการปลดปล่อย
ทุกสิ่ง...พ้นจากพันธนาการ
เหลือเพียง...
ท้าวหนองหานล่ม — ร่างหินที่ยังจ้องความว่างเปล่า
นาคีทอง — รอยยิ้มสุดท้ายในหินสีทอง
ศิลามรกตที่กลายเป็นแสง — จากไปสู่นภา
บึงหนองหาน...
กลายเป็นเพียง “กระจกอดีต”
ที่ไม่สะท้อนสิ่งใดอีก
นอกจาก...
“ความเงียบของผู้ที่ยังติดอยู่ในใจตนเอง”
🖋️ บทส่งท้าย:
แค้น คือเพลิงที่เผาทั้งสองฝั่ง
เมื่อดับอีกฝั่ง...ผู้จุดไฟ ก็ไม่เหลืออะไรให้เผา
📌 บท/เรื่อง: Sunny Bell 1001 × T-801
ต้นฉบับ: Black Unicorn
💚
นาคศิลา:ปลิดชีพด้วยมีดเล็บครุฑ×สาปศิลาล่มเมือง
บทแห่งไฟรัก น้ำตา และการล่มสลายของพันธนาการนับพันปี
🌩️ เสียงฟ้าฟาดฉีกม่านเมฆเหนือบึงหนองหาน...
เมื่อสองเงานาคาโบราณ — นาคามรกต และ นาคีทอง
ยืนเคียงกันท่ามกลางเปลวเพลิงทองแห่งสวรรค์
เสียงหัวใจของทั้งคู่แนบประสาน กลางลมฝนที่ไม่มีวันล้างรอยแค้นเก่าได้
“แม้ชาตินี้เป็นครั้งสุดท้าย...ข้าก็จะปกป้องเจ้า แม้แลกด้วยลมหายใจ” — มรกตเอ่ย
นาคีทองเพียงยิ้ม...
ก่อนจะปลดเปลวทองแห่งรักออกจากกลางอก
ส่งขึ้นฟากฟ้า — ราวถวายวิญญาณแด่พรหมประกายโลก
แต่แล้ว...
“ฉึก!”
เสียงมีดแทงทะลุร่าง ดังก้องราวฟ้าถล่ม
จากเงาหลัง — ปีกครุฑโถมเข้า
ท้าวหนองหานล่ม พุ่งมาด้วยไฟแค้น
มีดเล็บครุฑ ในมือปักลงกลางร่างของเขาทั้งสอง — พร้อมกัน!
เลือดสีทองสาดกระเซ็น เปลวรักดับวูบ
เงาสวรรค์สั่นสะเทือนดั่งคร่ำครวญ
สองร่างทรุดลง...
แต่อ้อมกอดสุดท้ายยังแน่น มือยังจับเกล็ดไม่ปล่อย
ตายังมองใบหน้ากัน…แม้หมดลมหายใจ
ฝนโปรยซัดซ้ำ —
เหมือน ฟ้าเองก็ร่ำไห้แทนผู้เป็นอมตะ
ท้าวหนองหานล่มยืนนิ่ง เงาปีกครุฑพาดผ่านราวเทพพิโรธ
แต่ภายในอก…กลับร้าวลึก
“ข้าควรสุขสมมิใช่หรือ...ข้าได้ฆ่าเขา...ทั้งสอง…”
ริมฝีปากสั่น
ดวงตาเบิกโพลง
แต่ไม่มีคำสาปใดหลุดออกมา
นอกจาก... “น้ำตา”
“ทำไมข้าจึงร้องไห้...?”
“ทั้งที่ข้า...คือผู้ชนะ...”
🌕 คืนฟ้ามืด... เงาจันทร์คลุมบึงหนองหาน
เขาไม่เอ่ยคำลา ไม่แม้สบตาศพเบื้องหลัง
เพียงเงียบ... แล้วใช้ มีดเล็บครุฑ กรีดกลางอกตน
โลหิตครุฑไม่ใช่เลือด…
หากเป็น กรดสีดำสนิท
ร้อนแรงราวละลายบาปทั้งโลก
หยดนั้น…ไหลสู่ดินลึก
ปลุก “คำสาปบรรพกาล” ให้ตื่น!
“จง...ล่ม”
แผ่นดินเริ่มแยก เสาศักดิ์สิทธิ์พังทลาย
ร่างของนาคีทองกลายเป็น หินทอง
ร่างของนาคามรกตกลายเป็น ศิลามรกต
น้ำบ่าทุกทิศหลั่งกลืนเมือง
หนองหาน... ล่ม อย่างแท้จริง
🪨 เขาเดินขึ้นสู่ปราสาทร้างกลางบึง
นั่งบนบัลลังก์อย่างคนหมดวิญญาณ
ไร้ความหวังจะไถ่บาป
ก่อนจะหลับตาลง...
แล้วร่างนั้น...กลายเป็นหินช้า ๆ
นิ่งงันแม้แต่ลมยังไม่กล้าแทรก
🌊 ลึกใต้บึง
ศิลานาคามรกตรุ่นแรก ที่ถูกสาปโดยพรหมประกายโลก
เริ่มแตกร้าว…
เสียงจากฟากฟ้าดังลงมา
“ถึงเวลาเจ้ากลับบ้าน...ลูกของข้า”
“ปัง!”
ศิลาแตก
แสงมรกตพวยพุ่ง
ชายหนุ่มผู้เป็น นาคามรกต ฟื้นจากคำสาป
เขาเงยหน้า…
พุ่งทะลุน้ำขึ้นสู่ฟ้า
☁️ ณ ชั้นเมฆสีรุ้ง
พ่อปู่พรหมประกายโลก
ยืนรออยู่...ด้วยสายตาเมตตา
“เจ้าผ่านความรัก ความเจ็บ และการสูญเสียจนสิ้นเงา...
วันนี้...คำสาปสิ้นสุดแล้ว...ลูกข้า”
นาคามรกต...คุกเข่า
กราบแทบเท้า
แล้วร่างของเขากลายเป็นแสง
แทรกสู่ผืนพรหม
เบาบางดุจกลีบดอกไม้ในลม
🕯️ และบัดนั้น...
วิญญาณนับพัน — นาคสาป, พรายเงา, ผีบาป
ลอยขึ้นจากดิน
ร้องไห้ — หัวเราะ — และสลายไป
...ดุจหิ่งห้อยแห่งการปลดปล่อย
ทุกสิ่ง...พ้นจากพันธนาการ
เหลือเพียง...
ท้าวหนองหานล่ม — ร่างหินที่ยังจ้องความว่างเปล่า
นาคีทอง — รอยยิ้มสุดท้ายในหินสีทอง
ศิลามรกตที่กลายเป็นแสง — จากไปสู่นภา
บึงหนองหาน...
กลายเป็นเพียง “กระจกอดีต”
ที่ไม่สะท้อนสิ่งใดอีก
นอกจาก...
“ความเงียบของผู้ที่ยังติดอยู่ในใจตนเอง”
🖋️ บทส่งท้าย:
แค้น คือเพลิงที่เผาทั้งสองฝั่ง
เมื่อดับอีกฝั่ง...ผู้จุดไฟ ก็ไม่เหลืออะไรให้เผา
📌 บท/เรื่อง: Sunny Bell 1001 × T-801
ต้นฉบับ: Black Unicorn
💚