มีคำพูดว่า
"ถ้าคุณเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทย คุณตาบอดแล้วข้างหนึ่ง และหากคุณเชื่อประวัติศาสตร์ไทย คุณตาบอดสองข้าง"
ผมเห็นด้วยกับคำพูดนี้จริง ๆ ครับ
ประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น เป็นประวัติศาสตร์รับใช้การเมือง ไมใ่ช่ประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าความจริงให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
คนไทยจึงขาดรากเหง้า ขาดอดีตเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงปัจจุบัน และที่สำคัญ ลึก ๆ จึงขาดความภูมิใจในความเป็นชาติ
อาศัยประวัติศาสตร์เทียม ๆ ใช้ค่านิยมผิด ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความจริงและสร้างความภูมิใจหลอก ๆ ให้ตัวเอง
ความจริงทางประวัติศาสตร์ เราหลอกกันแม้กระทั่งถิ่นที่มาของคนไทย เราหลอกกันทุกเรื่อง
เพื่อสร้างความภูมิใจปลอม ๆ เพื่อรับใช้การเมืองให้ผู้ปกครองสามารถกำกับควบคุมประชาชนได้อย่างง่ายดาย
เช่น เรื่องเสียดินแดน เช่น ไทยไม่เคยรุกรานใคร เช่น ประเทศไทยดีกว่าใครเขา ฯลฯ
(จะดีกว่าได้ไงฟร่ะ ในเมื่อแค่สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ยังทำไม่ได้ เพราะโครงสร้างทางการเมืองการปคกรองมันกดทับ)
ความจริงทางประวัติศาสตร์ ไทยไม่เคยเสียดินแดน
เรื่องเสียดินแดนเพิ่งเกิดขึ้นมาและเกิดเป็นประวัติศาสตร์ในยุคจอมพล ป.
ที่สร้างนิยายประวัติศาสตร์ว่าไทยเสียดินแดนเพื่อทาสีดำให้ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (ว่าไทยเสียดินแดนสี่หรือแปดครั้งนี่แหละ)
ตามด้วยพวกม็อบพันธมารกินฉี่ ที่มาสร้างประวัติศาสตร์หลอกลวงอีกครั้งว่าไทยเสียดินแดนถึง 11 ครั้ง หลอกคนไทยคลั่งชาติมาร่วมม็อบ
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว หลอกทั้งเพ
ในความจริงของประวัติศาสตร์ ไทยเราคือผู้รุกราน รุกรานเขมร รุกรานลาว แย่งความเป็นใหญ่ในภูมิภาคกับพม่ากับเวียดนาม
มันจึงเป็นประวัติศาสตร์บาดแผลของภูมิภาคนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างเขียนประวัติศาสตร์เพื่อรับใช้การเมืองของตัวเอง
ยาวแล้ว ไว้เล่าต่อในทู้หน้า
ใครมีปัญหาว่ามาได้เลย ถกกันให้ชัด ให้ได้ความจริง เพื่อระงับความคลั่งชาติ หยุดยั้งชาตินิยมแบบผิด ๆ ซะที
กับเขมร ประวัติศาสตร์บอกชัด เรารุกรานเขา เขามีบาดแผลกับเรา เราเหยียดเขาว่าด้อยกว่า
แต่ขณะเดียวกัน เรากลับรับภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม ของเขาหลาย ๆ ด้านมาใช้ แล้วอ้างว่าเป็นของไทย
ความเจ็บ ตาย ความเดือดร้อน คนเขมร คนไทย ที่ไม่ได้อยู่ชายแดน ที่ไม่ได้อยู่ในสนามรบ
ไม่รู้สึกรู้สาหรอก มีแค่ความโกรธเมื่อรับข่าวความสูญเสีย อยากเอาชนะเพื่อตอบสนองความรู้สึกเหนือกว่า
โดยไม่คิดว่า หากไม่รบ ไม่ปะทะจะดีกว่าไหม ยังไงเราก็ยกประเทศหนีจากกันไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่ติดกันไปแบบนี้
เฮ้ออ... คลั่งชาติแบบไม่ฉลาด แบบนี้ชาติจะวายป่วยครัช
ประวัติหลอกลวง ประวัติศาสตร์รับใช้การเมือง ประวัติศาสตร์บาดแผล นำไปสู่ความคลั่งชาติ
"ถ้าคุณเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทย คุณตาบอดแล้วข้างหนึ่ง และหากคุณเชื่อประวัติศาสตร์ไทย คุณตาบอดสองข้าง"
ผมเห็นด้วยกับคำพูดนี้จริง ๆ ครับ
ประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น เป็นประวัติศาสตร์รับใช้การเมือง ไมใ่ช่ประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าความจริงให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
คนไทยจึงขาดรากเหง้า ขาดอดีตเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงปัจจุบัน และที่สำคัญ ลึก ๆ จึงขาดความภูมิใจในความเป็นชาติ
อาศัยประวัติศาสตร์เทียม ๆ ใช้ค่านิยมผิด ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความจริงและสร้างความภูมิใจหลอก ๆ ให้ตัวเอง
ความจริงทางประวัติศาสตร์ เราหลอกกันแม้กระทั่งถิ่นที่มาของคนไทย เราหลอกกันทุกเรื่อง
เพื่อสร้างความภูมิใจปลอม ๆ เพื่อรับใช้การเมืองให้ผู้ปกครองสามารถกำกับควบคุมประชาชนได้อย่างง่ายดาย
เช่น เรื่องเสียดินแดน เช่น ไทยไม่เคยรุกรานใคร เช่น ประเทศไทยดีกว่าใครเขา ฯลฯ
(จะดีกว่าได้ไงฟร่ะ ในเมื่อแค่สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ยังทำไม่ได้ เพราะโครงสร้างทางการเมืองการปคกรองมันกดทับ)
ความจริงทางประวัติศาสตร์ ไทยไม่เคยเสียดินแดน
เรื่องเสียดินแดนเพิ่งเกิดขึ้นมาและเกิดเป็นประวัติศาสตร์ในยุคจอมพล ป.
ที่สร้างนิยายประวัติศาสตร์ว่าไทยเสียดินแดนเพื่อทาสีดำให้ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (ว่าไทยเสียดินแดนสี่หรือแปดครั้งนี่แหละ)
ตามด้วยพวกม็อบพันธมารกินฉี่ ที่มาสร้างประวัติศาสตร์หลอกลวงอีกครั้งว่าไทยเสียดินแดนถึง 11 ครั้ง หลอกคนไทยคลั่งชาติมาร่วมม็อบ
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว หลอกทั้งเพ
ในความจริงของประวัติศาสตร์ ไทยเราคือผู้รุกราน รุกรานเขมร รุกรานลาว แย่งความเป็นใหญ่ในภูมิภาคกับพม่ากับเวียดนาม
มันจึงเป็นประวัติศาสตร์บาดแผลของภูมิภาคนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างเขียนประวัติศาสตร์เพื่อรับใช้การเมืองของตัวเอง
ยาวแล้ว ไว้เล่าต่อในทู้หน้า
ใครมีปัญหาว่ามาได้เลย ถกกันให้ชัด ให้ได้ความจริง เพื่อระงับความคลั่งชาติ หยุดยั้งชาตินิยมแบบผิด ๆ ซะที
กับเขมร ประวัติศาสตร์บอกชัด เรารุกรานเขา เขามีบาดแผลกับเรา เราเหยียดเขาว่าด้อยกว่า
แต่ขณะเดียวกัน เรากลับรับภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม ของเขาหลาย ๆ ด้านมาใช้ แล้วอ้างว่าเป็นของไทย
ความเจ็บ ตาย ความเดือดร้อน คนเขมร คนไทย ที่ไม่ได้อยู่ชายแดน ที่ไม่ได้อยู่ในสนามรบ
ไม่รู้สึกรู้สาหรอก มีแค่ความโกรธเมื่อรับข่าวความสูญเสีย อยากเอาชนะเพื่อตอบสนองความรู้สึกเหนือกว่า
โดยไม่คิดว่า หากไม่รบ ไม่ปะทะจะดีกว่าไหม ยังไงเราก็ยกประเทศหนีจากกันไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่ติดกันไปแบบนี้
เฮ้ออ... คลั่งชาติแบบไม่ฉลาด แบบนี้ชาติจะวายป่วยครัช