[สรุปข่าว] ทำไม “สี จิ้นผิง” กล้าทุ่ม 167,000 ล้านดอลลาร์ สร้างเขื่อนยักษ์กลางทิเบต? แล้วเศรษฐกิจจีนจะได้อะไร?

ช่วงนี้ข่าวใหญ่จากจีนที่น่าสนใจสุด ๆ คือการประกาศเริ่มสร้าง “เขื่อนพลังน้ำขนาดมหึมา” กลางภูเขาในเขตทิเบต ซึ่งอาจกลายเป็น “เขื่อนผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

💰 คาดว่าใช้เงินลงทุนมากถึง 167,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 ล้านล้านบาท) และกินเวลาสร้างไม่ต่ำกว่า 10 ปี
แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ...
จีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจฝืด ทำไมถึงกล้าทุ่มขนาดนี้? แล้วมันช่วยเศรษฐกิจได้แค่ไหนกันแน่?

เดิมพันใหญ่ของ “สี จิ้นผิง”
การสร้างเขื่อนครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องพลังงาน แต่เป็นเดิมพันทางเศรษฐกิจ + การเมืองระดับประเทศ
💹 จีนกำลังเจอปัญหาเศรษฐกิจหลายด้าน: เงินฝืด, วิกฤติอสังหา, ความเชื่อมั่นตกต่ำ
🧱 สี จิ้นผิงจึงใช้ “ยุทธศาสตร์เดิม” แบบยุค 90: กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเมกะโปรเจกต์
🏞 ทิเบตเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนในทางการเมือง โครงการนี้จึงมีนัย “รวมศูนย์” ไปในตัว
🤫 แต่เปิดโครงการแบบเงียบ ๆ ไม่มีแถลงการณ์สาธารณะ ไม่มีการถกผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเปิดเผย

เขื่อน = เครื่องจักรกระตุ้นเศรษฐกิจ
การก่อสร้างขนาดใหญ่แบบนี้จะดูดซับวัตถุดิบ-แรงงานมหาศาล เช่น
-  ปูนซีเมนต์ 50 ล้านตัน
-  เหล็กกล้า 6 ล้านตัน
-  หิน + ทราย 250 ล้านตัน
-  ทองแดง 500,000 ตัน
-  ระเบิดอีกหลายแสนตัน (!)
= กระตุ้นการผลิต กระตุ้นราคา กระตุ้นการจ้างงาน
📈 คาดว่าโครงการจะดันการลงทุนรวมสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน (มากกว่า 2% ของ GDP จีน)
🏗 และจะสร้างงานกว่า 200,000 ตำแหน่ง/ปี = เกือบ 2% ของเป้าหมายการจ้างงานทั้งประเทศ

หุ้น-สินค้าโภคภัณฑ์ พุ่งทันที
หลังประกาศโครงการ:
-  หุ้น Power Construction ของจีน พุ่ง +42%
-  หุ้น Huaxin Cement ในฮ่องกง พุ่ง +34%
-  ราคาทองแดงและแร่เหล็กในตลาดโลก พุ่งขึ้นเช่นกัน
= แปลว่าตลาดตอบรับว่า โครงการนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจจริง

กลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐาน... ได้ผลหรือเปล่า?
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของ “แผนฟื้นเศรษฐกิจใหญ่” ในแผน 5 ปีฉบับใหม่ของจีน
แต่ก็มีเสียงเตือนว่า:
🛑 "อาจกลายเป็นโครงการฟุ่มเฟือย"
🛑 “สร้างทางหลวงไม่มีรถวิ่ง” หรือ “สนามบินผี” ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในจีน
🛑 หนี้สาธารณะจีนก็สูงขึ้นทุกปี

ที่มา bangkokbiznews


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่