BTS vs. คำสาป K-Pop การกลับมาท้าทายกาลเวลาหลังหายไป 3 ปี กับบทพิสูจน์ครั้งใหญ่ในโลก K-Pop ที่เปลี่ยนไป และเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักพวกเขาอีกต่อไป
🌟🌟🌟🌟🌟
💠HIGHLIGHTS
🔶จากศิลปินวงเล็ก ๆ ในช่วงแรก จนเริ่มมีแฟนคลับในวงกว้าง BTS เริ่มมีชื่อเสียงในระดับโลกในปี 2018 หลังจากที่ปล่อยอัลบั้ม ‘Love Yourself: Tear’ ออกมา และได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟน ๆ ทั่วโลก
🔶ความสำเร็จของ BTS ในระดับโลกไม่ได้มาจากแค่เรื่องของการรังสรรค์บทเพลงที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแยบยลที่ทำให้สมาชิกทั้ง 7 ไม่ได้เป็นแค่ไอดอลหรือนักร้อง แต่พวกเขาคือส่วนหนึ่งของกันและกันกับเหล่า ARMY ทุกคน
🔶ไม่ว่า BTS จะมีฐานแฟนเพลงที่เหนียวแน่นแค่ไหน สิ่งที่พวกเขาต้องเตรียมเผชิญคือความจริงที่ว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเก่าอีกแล้ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม K-Pop
🔶กำหนดการนัดหมายที่จะกลับมารวมตัวกันเพื่อทำผลงานอีกครั้งอยู่ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยทุกคนจะกลับมาเริ่มต้นทำงานดนตรีกันอีกครั้ง และคาดหวังว่าอัลบั้มใหม่ที่ทุกคนรอคอยจะเสร็จสิ้นทันภายในปี 2026 และแน่นอนว่าพวกเขาจะจัดเวิลด์ทัวร์เล่นคอนเสิร์ตทั่วโลกด้วย
💜คำสาปของกาลเวลา
18 เดือนคือระยะเวลาที่กฏหมายเกาหลีระบุว่าชายเกาหลีทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18-28 ปีต้องเข้ารับราชการทหารในกรม เป็นการรับใช้ชาติโดยหน้าที่ ไม่มีใครเลี่ยงได้
ดังนั้นแม้วงจะอยู่ในจุดสูงสุด แต่สมาชิกทุกคนของ BTS ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่นกัน แม้ว่าในเดือนธันวาคม 2020 รัฐสภาเกาหลีใต้จะมีการผ่านร่างกฎหมายในการพิจารณาการชะลอเพื่อเข้ากรมทหารสำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและวงการบันเทิงจนถึงอายุ 30 ปี ที่เรียกกันว่า ‘กฎหมาย BTS’ ก็ตาม
มิถุนายน 2022 BTS ประกาศว่าพวกเขาจะขอพักวงเป็นการชั่วคราวเพื่อให้สมาชิกในวงทยอยเข้ากรม เริ่มจาก Jin พี่ใหญ่ในช่วงเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆจะทยอยตามไป ซึ่งมีทั้งในส่วนของการเข้ากรม หรือการบริการสาธารณะ (เช่นรายของ SUGA) เป็นระยะเวลา 18 เดือน
สิ่งที่หลายคนจับตามองคือด้วยกฎหมายว่าด้วยการรับใช้ชาตินั้น มักจะส่งผลต่อศิลปินในวงการบันเทิง โดยเฉพาะในวงการ K-Pop ที่มักจะต้องพักงานในช่วงที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด
เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากคำสาปของกาลเวลา
เมื่อกลับมาจะยังมีคนจดจำและยังรักสนับสนุนพวกเขาเหมือนเดิมไหม?
💜กองทัพผู้ซื่อสัตย์
“ฉันคิดถึงพวกเขาเหลือเกิน” แฟนเพลงในระดับ Die-hard ของ BTS บอกถึงความรู้สึกหลังจากที่วงกำลังจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ARMY คนนี้ไม่ได้เป็นคนเกาหลี แต่เป็นหญิงสาวชาวบราซิล ที่เดินทางไกลข้ามโลกมาเพื่อร่วมงาน ‘BTS Festa’ งานปาร์ตี้ใหญ่ของคนรัก BTS ที่จะจัดขึ้นทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นที่เมืองโกยาง จังหวัดคยองกี ไม่ห่างจากกรุงโซล เมืองหลวงมากนัก
ในงานมีกิจกรรมมากมายให้ ARMY ได้เข้าร่วม หนึ่งในนั้นคือ ‘Voice zone’ ตู้โทรศัพท์เล็กๆที่ให้ทุกคนได้เข้าไปยกหูขึ้น และฟังข้อความเสียงที่เหล่าสมาชิกในวงฝากความคิดถึงผ่านคลื่นเสียงมาให้
รอบ ๆ ตู้โทรศัพท์นี้ดูคล้ายมีฝนตกตลอดเวลา เพราะมีน้ำตาของแฟน ๆ ที่สะกดไว้ไม่ไหวเมื่อได้ยินข้อความที่ฝากมา
“มันเป็น 18 เดือนที่เหมือนตลอดไป” แฟนเพลงจากแดนไกลอีกคนบอก เธอคนนี้มาจากแอฟริกาใต้เลยทีเดียว ซึ่งแม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากแค่ไหน ต้องใช้เงินมากเท่าไรแต่สำหรับ ARMY ผู้ภักดีแล้วมันเป็นสิ่งที่พวกเธอและพวกเขาทั้งหลายเต็มใจทำ
เพื่อบอกให้รู้ว่าต่อให้โลกจะเปลี่ยนแปลง แต่พวกเขายังไม่เคยเปลี่ยนไป
ความรู้สึกเหล่านี้คือกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความรักและความภักดีของเหล่า ARMY ที่ยังคงเฝ้ารอคอยการกลับมาของวงอยู่เสมอ และไม่ใช่แค่แฟนเพลงในเกาหลี แต่เป็นแฟนๆทั่วโลกที่ยืนรอคอยอยู่ตรงนี้ตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา
ถ้าจะมีสักวงที่ทำลายคำสาปของกาลเวลาได้ BTS ก็น่าจะเป็นวงนั้น
💜Masterplan ความสำเร็จของ BTS
ความสำเร็จของ BTS ในระดับโลกไม่ได้มาจากแค่เรื่องของการรังสรรค์บทเพลงที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแยบยลที่ทำให้สมาชิกทั้ง 7 ไม่ได้เป็นแค่ไอดอลหรือนักร้อง
แต่พวกเขาคือส่วนหนึ่งของกันและกันกับเหล่า ARMY ทุกคน
บนเวที BTS คือวงบอยแบนด์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถในการแสดง ทั้งการร้องด้วยเสียงอันทรงพลังและมีเสน่ห์ การเต้นบนเวทีที่ผ่านการซ้อม Choreography มาอย่างเข้มข้นทำให้ไลน์การเต้นของแต่ละคนสวยงาม และเมื่อรวมกัน 7 คนก็ยิ่งเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
นอกเวที BTS คือวงที่ใกล้ชิดกับแฟน ๆ อย่างมาก พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างชาญฉลาดโดยมีทั้งแพลตฟอร์มของตัวเองอย่าง Weverse ที่แฟน ๆ ต้องยอมควักเงินหากต้องการที่จะติดตามชีวิตเรื่องราวคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่สมาชิกแต่ละคนจะเข้ามาโต้ตอบกับแฟนๆอย่างเป็นกันเอง
ในเวลาเดียวกันพวกเขายังใช้ Free media อย่าง Instagram, X, YouTube เพื่อนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้ได้นำมาสู่การเป็นชุมชนออนไลน์ (Community) ที่แข็งแกร่ง กลายเป็นกองกำลังที่เข้มแข็งที่พร้อมจะสนับสนุน BTS ไปตลอดทาง ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ตาม
💜โลกของ K-Pop ที่เปลี่ยนไป
แต่ไม่ว่า BTS จะมีฐานแฟนเพลงที่เหนียวแน่นแค่ไหน สิ่งที่พวกเขาต้องเตรียมเผชิญคือความจริงที่ว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเก่าอีกแล้ว
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม K-Pop
ถึงแม้ว่า Black Pink จะยังคงเป็น ‘หัวแถว’ ของวงการอีกวงในระหว่างที่ BTS หายหน้าไป แต่มีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในเรื่องของพฤติกรรมของแฟน ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในหมู่ของกลุ่มคนรุ่นใหม่
เพราะเมื่อไม่มีวงที่เป็นเสาหลักอย่าง BTS ซึ่งถือเป็นวง ‘รุ่นที่ 3’ เด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งเติบโตขึ้นมาจึงเลือกที่จะกระจายไปฟังเพลงจากศิลปินวงอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นใหม่แทบทุกสัปดาห์ ในตลาดการแข่งขันที่รุนแรง
“คนรุ่นหนูจะตามวงในรุ่นที่ 4 มากกว่า” สาวน้อยวัย 13 ปีที่เป็นแฟนของวง IVE บอก “จะมีบางคนที่ยังชอบวงจากรุ่นที่ 3 อยู่ แต่สำหรับวัยรุ่นแล้ว BTS กลายเป็นวงของคนรุ่นก่อนมากกว่า มีศิลปินวงใหม่เดบิวต์ (เปิดตัว) มากมายในช่วงที่ BTS ไม่อยู่ และพวกเขาก็ได้รับความนิยมมากด้วย”
ฟังแบบนี้ดูเหมือนช่องว่างระหว่างกาลเวลาที่หายไปจะมีผลต่อพวกเขาอยู่บ้าง โดยเฉพาะในการตามหาแฟนเพลงกลุ่มใหม่
เพียงแต่สำหรับคนในวงการ K-Pop การกลับมาของ BTS คือความหวังครั้งสำคัญเลยทีเดียว
💜ความหวังทั้ง 7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อวงการอุตสาหกรรม K-Pop หลังการพักวงของ BTS คือการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมดนตรีของเกาหลีประกอบไปด้วยหลายอย่าง ซึ่งแม้บางอย่างจะยังคงทำรายได้อย่างเข้มแข็งโดยเฉพาะการจัดงานคอนเสิร์ตที่แฟน ๆ ยังคงให้การสนับสนุนวงที่รักอย่างเต็มที่ แต่ในด้านของยอดการจำหน่ายอัลบั้มกลับลดลงอย่างน่าตกใจ เมื่อมองย้อนกลับไปถึงช่วงพีคในปี 2023
มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วงระดับเสาหลักอย่าง BTS และ Blackpink ไม่มีอัลบั้มใหม่ออกวางจำหน่ายพอดี ซึ่งคนในวงการดนตรีเกาหลีก็ยอมรับว่าการพักวงของ BTS ทำให้คนในวงการได้รับผลกระทบตามไปด้วยโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เรื่องนี้บวกกับกระแสข่าวอื้อฉาว ความขัดแย้งระหว่าง NewJeans วงเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงสุด ๆ แต่กลับมีปัญหากับต้นสังกัดถึงขั้นแตกหักมีการฟ้องร้องกันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
ถึงช่วงที่ผ่านมาสมาชิกในวง BTS จะมีการทำผลงานโซโลกันบ้าง แต่ไม่มีอะไรดีไปกว่าการประกาศการกลับมาของ BTS ในครั้งนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในวงการ K-Pop รอคอยมาตลอด
“การกลับมาของพวกเขาจะทำให้คนกลับมาสนใจกับดนตรีของเกาหลีอีกครั้ง”
💜 Life goes on…
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาสมาชิก BTS ได้ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมา หลังจากที่สมาชิกทุกคนได้เสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติแล้ว
กำหนดการนัดหมายที่จะกลับมารวมตัวกันเพื่อทำผลงานอีกครั้งอยู่ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยทุกคนจะกลับมาเริ่มต้นทำงานดนตรีกันอีกครั้ง และคาดหวังว่าอัลบั้มใหม่ที่ทุกคนรอคอยจะเสร็จสิ้นทันภายในปี 2026 ซึ่งจะเป็นอัลบั้มแรกนับตั้งแต่ปี 2020
และแน่นอนว่าพวกเขาจะจัดเวิลด์ทัวร์เล่นคอนเสิร์ตทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกนับตั้งแต่ ‘Permission to Dance on Stage tour’ ในปี 2022
สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือระหว่างทางของการกลับมาจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ จะมีปัญหาและอุปสรรคใดต้องฝ่าฟันไปด้วยกันอีกไหม โดยไม่นับเรื่องของความท้าทายอื่น ๆ ที่รอคอยอยู่ สิ่งที่เคยทำให้พวกเขาไปสู่ความสำเร็จได้ในวันวาน อาจจะพาไปไม่ถึงในวันนี้แล้วก็เป็นไปได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การกลับมาของ BTS ในเวอร์ชั่น 2.0 ก็เป็นข่าวดีที่ทุกคนรอคอย
ที่เหลือจะเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นเรื่องความเป็นไปของชีวิตแล้วกัน
BTS vs. คำสาป K-Pop การกลับมาท้าทายกาลเวลาหลังหายไป 3 ปี กับบทพิสูจน์ครั้งใหญ่ในโลก K-Pop ที่เปลี่ยนไป