ผมย้ายออกจากหอพัก ไปอยู่คอนโดกับแฟนช่วงปีที่แล้ว
ห้องใหม่ตกแต่งดีมาก ทุกอย่างดูดี ยกเว้นอย่างเดียว —
“กระจกห้องน้ำ” มันแปลก ๆ
ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไร มันเป็นกระจกแบบเต็มบาน สูงถึงอก มีไฟตรงขอบ ดูทันสมัยดี
แต่เวลายืนแปรงฟันตอนดึก ๆ
ผมชอบรู้สึกเหมือน…เงาในกระจกมัน “ช้ากว่า” ตัวผมนิดเดียว
ไม่มากพอให้แน่ใจ แต่พอให้รู้สึกว่ามัน “ไม่เป๊ะ”
มีคืนหนึ่ง ผมลุกไปเข้าห้องน้ำตอนตีสาม
แสงในห้องมืด ๆ ผมไม่เปิดไฟ แค่ใช้แสงจากไฟในห้องครัวที่ลอดเข้ามา
ขณะที่ผมยืนล้างมือ…
ผมเห็นว่าเงาในกระจกมัน ไม่ขยับมือพร้อมกับผม
ผมหยุด — แต่มันยังค้างอยู่นิดหน่อย
แล้วเหมือนมัน “รีบตามให้ทัน” ในอีกวินาทีถัดมา
ผมรีบเปิดไฟทันที…
กลับกลายเป็นเงามัน “กลับมาปกติ” เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้น ผมเริ่มสังเกตทุกคืน
และมันก็เริ่ม “ชัดขึ้นเรื่อย ๆ”
เงาในกระจกมักจะ “กระพริบตาช้ากว่า” ผมครึ่งจังหวะ
คืนหนึ่ง ผมยิ้มให้กระจก...แล้วเห็นว่า “มันไม่ยิ้มตอบ”
จนผมคิดว่า ผมน่าจะ ทำงานหนักไป เพราะช่วงตอนนั้นผมมีปัญหากับทางบ้านเเล้วก็เพื่อนรวมงานพอดี จนถึงคืนที่ผมเริ่ม กลัวจะสบตากับตัวเอง ในกระจก
ผมเลี่ยงไม่มองหน้าตัวเองเวลาแปรงฟัน หรือล้างหน้า
กระทั่งวันหนึ่ง...แฟนผมตื่นขึ้นมาตีสอง ร้องเรียกผมเสียงหลง
> “เธอ...เมื่อกี้เธอเดินไปเข้าห้องน้ำใช่มั้ย?”
ผมตอบว่า “เปล่า…เมื่อกี้ยังนอนอยู่เลย”
เธอเงียบ แล้วพูดว่า...
“แต่ฉันเห็นเธอ ยืนอยู่หน้ากระจก แล้วหันมายิ้มใส่ฉัน...แบบยิ้มแปลก ๆ มาก”
“แต่มันไม่ใช่หน้าเธออ่ะ…”
หลังจากคืนนั้น เราสองคนเริ่มไม่ไว้ใจ “กระจก” ในห้องน้ำอีก
เราพยายามติดสติ๊กเกอร์ ติดกระดาษ A4 ปิดไว้
แต่ทุกเช้า...มันถูกลอกออก
ทั้งที่เราสองคน “ไม่ได้แตะมันเลย”
เราตัดสินใจถอดกระจกบานนั้นออก แล้วเอาไปวางไว้ข้างตู้
และคืนนั้นเอง...
เราสองคนได้นั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น
แสงจากทีวีสะท้อนกระจกที่วางอยู่ข้างตู้พอดี
ผมเห็นในภาพสะท้อน — มีคนยืนอยู่ในห้องน้ำ
ยืนอยู่ตรงที่กระจกเคยติดอยู่
หันหน้ามาทางเรา
แต่ในห้องจริง...ไม่มีใคร
ผมเคยจะเอากระจกนั้นไปทิ้ง เเต่เจ้าของหอ เค้าไม่ให้ทิ้ง เปลี่ยนก็ไม่ได้ ผมก็หงุดหงิด จะทุบทิ้ง ทำลายข้าวของเค้าก็ไม่ใช่ ผมก็เลย เอากระจกมัน ไปไว้ที่เดิม ข้างตู้ เเล้วเอาเทปกับกระดาษ A4มาติด เเต่ทุกเช้ามันก็จะมีช่องว่างๆให้เห็น หรือ หลุดออกตลอด
ผมโทรถามเจ้าของห้องว่า เคยเปลี่ยนกระจกบ้างไหม
เขาตอบว่า...
> “กระจกบานนั้นมันมากับห้องตั้งแต่สร้างครับ...ไม่มีใครกล้าเปลี่ยน”
“เพราะเคยมีคนเช่าห้องนี้เมื่อสามปีก่อน แล้วจู่ ๆ ก็หายไปเลย”
“วันสุดท้ายที่เขาอยู่ เพื่อนบ้านบอกว่า เห็นเขานั่งอยู่หน้ากระจก...ไม่ขยับทั้งวัน”
“นั่งอยู่...แต่มองเงาตัวเอง...แล้วก็หายไปเลย ไม่มีใครเจออีก”
---
ตอนนั้นผมไม่เคยสบตากับกระจกบานนั้นอีกเลย
แต่บางคืน…
ผมเห็น “ในเงากระจก” มีคนกำลังยิ้มให้ผมอยู่
ถึงแม้ผมจะ “ไม่ได้ยิ้มเลยก็ตาม”
หลังจากที่ผมเริ่มเห็นเงาในกระจก “ไม่ตรง” กับตัวเอง
แฟนเริ่มบังคับให้ผมไปหาหมอจิตเวช
ผมยอม เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแน่
หมอฟังผมเล่า แล้วก็ถามแค่คำเดียวว่า:
> “คุณแน่ใจใช่ไหม…ว่าคุณเห็น ‘เงาของตัวเอง’?”
ผมพยักหน้า แล้วหมอก็เปิดแฟ้มบางอย่างให้ดู
เป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดในห้องน้ำคอนโด
หมอบอกว่าเคยมีเคสคล้ายกันเมื่อ 6 ปีก่อน
คนไข้รายนั้น…ก็เล่าว่าตัวเองเห็นเงาในกระจกไม่ตรง
เห็นเงายิ้ม ทั้งที่ตัวเองไม่ยิ้ม
สุดท้ายก็เริ่ม “พูดคุยกับกระจก” ทุกวัน
หมอถามคำสุดท้าย:
> “คุณเคยคุยกับเงาในกระจกมั้ย?”
ผมอึ้ง...เพราะผมเคย
ผมเคยพูดว่า “อย่ามองกู” ใส่มันหลายครั้ง
หมอนิ่ง แล้วพูดว่า...
> “งั้นผมขอดูหน้าคุณในกระจกหน่อย”
เขาหยิบกระจกพกเล็ก ๆ ขึ้นมาให้ผมมอง
ผมลังเล…แต่ก็ยอมดู
แล้วผมก็พูดว่า...
เอ๊ะ…คนในกระจกนี่ไม่ใช่ผมนี้ครับ
หมอเค้าก็บอกผมว่า นั้นเเหละครับ
Capgras Delusion (อาการแคปกราส)
> ผู้ป่วยเชื่อว่า "คนใกล้ตัว" หรือแม้แต่ "ตัวเองในกระจก"
ถูกแทนที่ด้วย “คนหน้าเหมือน” หรือ “ตัวปลอม”
เป็นความหลงผิดอย่างหนึ่ง พบในผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้มีปัญหาสมองบางส่วน
หลังจากนั้นเค้าก็ให้ยาอะไรไม่รัผมจำไมได้เหมือนกันมากิน เเล้วบำบัด ให้ผมมองตัวเองในกระจก ครั้งเเรกๆ ผมก็ไม่เอาๆ ผมหลอน เค้าก็บอก ถ้าอยากกลับมาเป็นปกติก็ต้องทำ เค้าให้ผม ถ่ายรูปตัวเองเยอะๆ ส่งให้คนรอบตัวเยอะๆบ้าง อะไรของเค้าต่างๆหนาๆ จนผมหายดี ตอนนั้น ผมก็ย้ายออกมาจากคอนโด เพราะ ปัญหากับ ใคร ผมขอไม่บอกจะกันน่ะครับ เรื่องส่วนตัว หลังจากนั้นผมก็ไม่มีปัญหาเเบบนั้นอีกเลย
เงาในกระจก
ห้องใหม่ตกแต่งดีมาก ทุกอย่างดูดี ยกเว้นอย่างเดียว —
“กระจกห้องน้ำ” มันแปลก ๆ
ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไร มันเป็นกระจกแบบเต็มบาน สูงถึงอก มีไฟตรงขอบ ดูทันสมัยดี
แต่เวลายืนแปรงฟันตอนดึก ๆ
ผมชอบรู้สึกเหมือน…เงาในกระจกมัน “ช้ากว่า” ตัวผมนิดเดียว
ไม่มากพอให้แน่ใจ แต่พอให้รู้สึกว่ามัน “ไม่เป๊ะ”
มีคืนหนึ่ง ผมลุกไปเข้าห้องน้ำตอนตีสาม
แสงในห้องมืด ๆ ผมไม่เปิดไฟ แค่ใช้แสงจากไฟในห้องครัวที่ลอดเข้ามา
ขณะที่ผมยืนล้างมือ…
ผมเห็นว่าเงาในกระจกมัน ไม่ขยับมือพร้อมกับผม
ผมหยุด — แต่มันยังค้างอยู่นิดหน่อย
แล้วเหมือนมัน “รีบตามให้ทัน” ในอีกวินาทีถัดมา
ผมรีบเปิดไฟทันที…
กลับกลายเป็นเงามัน “กลับมาปกติ” เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้น ผมเริ่มสังเกตทุกคืน
และมันก็เริ่ม “ชัดขึ้นเรื่อย ๆ”
เงาในกระจกมักจะ “กระพริบตาช้ากว่า” ผมครึ่งจังหวะ
คืนหนึ่ง ผมยิ้มให้กระจก...แล้วเห็นว่า “มันไม่ยิ้มตอบ”
จนผมคิดว่า ผมน่าจะ ทำงานหนักไป เพราะช่วงตอนนั้นผมมีปัญหากับทางบ้านเเล้วก็เพื่อนรวมงานพอดี จนถึงคืนที่ผมเริ่ม กลัวจะสบตากับตัวเอง ในกระจก
ผมเลี่ยงไม่มองหน้าตัวเองเวลาแปรงฟัน หรือล้างหน้า
กระทั่งวันหนึ่ง...แฟนผมตื่นขึ้นมาตีสอง ร้องเรียกผมเสียงหลง
> “เธอ...เมื่อกี้เธอเดินไปเข้าห้องน้ำใช่มั้ย?”
ผมตอบว่า “เปล่า…เมื่อกี้ยังนอนอยู่เลย”
เธอเงียบ แล้วพูดว่า...
“แต่ฉันเห็นเธอ ยืนอยู่หน้ากระจก แล้วหันมายิ้มใส่ฉัน...แบบยิ้มแปลก ๆ มาก”
“แต่มันไม่ใช่หน้าเธออ่ะ…”
หลังจากคืนนั้น เราสองคนเริ่มไม่ไว้ใจ “กระจก” ในห้องน้ำอีก
เราพยายามติดสติ๊กเกอร์ ติดกระดาษ A4 ปิดไว้
แต่ทุกเช้า...มันถูกลอกออก
ทั้งที่เราสองคน “ไม่ได้แตะมันเลย”
เราตัดสินใจถอดกระจกบานนั้นออก แล้วเอาไปวางไว้ข้างตู้
และคืนนั้นเอง...
เราสองคนได้นั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น
แสงจากทีวีสะท้อนกระจกที่วางอยู่ข้างตู้พอดี
ผมเห็นในภาพสะท้อน — มีคนยืนอยู่ในห้องน้ำ
ยืนอยู่ตรงที่กระจกเคยติดอยู่
หันหน้ามาทางเรา
แต่ในห้องจริง...ไม่มีใคร
ผมเคยจะเอากระจกนั้นไปทิ้ง เเต่เจ้าของหอ เค้าไม่ให้ทิ้ง เปลี่ยนก็ไม่ได้ ผมก็หงุดหงิด จะทุบทิ้ง ทำลายข้าวของเค้าก็ไม่ใช่ ผมก็เลย เอากระจกมัน ไปไว้ที่เดิม ข้างตู้ เเล้วเอาเทปกับกระดาษ A4มาติด เเต่ทุกเช้ามันก็จะมีช่องว่างๆให้เห็น หรือ หลุดออกตลอด
ผมโทรถามเจ้าของห้องว่า เคยเปลี่ยนกระจกบ้างไหม
เขาตอบว่า...
> “กระจกบานนั้นมันมากับห้องตั้งแต่สร้างครับ...ไม่มีใครกล้าเปลี่ยน”
“เพราะเคยมีคนเช่าห้องนี้เมื่อสามปีก่อน แล้วจู่ ๆ ก็หายไปเลย”
“วันสุดท้ายที่เขาอยู่ เพื่อนบ้านบอกว่า เห็นเขานั่งอยู่หน้ากระจก...ไม่ขยับทั้งวัน”
“นั่งอยู่...แต่มองเงาตัวเอง...แล้วก็หายไปเลย ไม่มีใครเจออีก”
---
ตอนนั้นผมไม่เคยสบตากับกระจกบานนั้นอีกเลย
แต่บางคืน…
ผมเห็น “ในเงากระจก” มีคนกำลังยิ้มให้ผมอยู่
ถึงแม้ผมจะ “ไม่ได้ยิ้มเลยก็ตาม”
หลังจากที่ผมเริ่มเห็นเงาในกระจก “ไม่ตรง” กับตัวเอง
แฟนเริ่มบังคับให้ผมไปหาหมอจิตเวช
ผมยอม เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแน่
หมอฟังผมเล่า แล้วก็ถามแค่คำเดียวว่า:
> “คุณแน่ใจใช่ไหม…ว่าคุณเห็น ‘เงาของตัวเอง’?”
ผมพยักหน้า แล้วหมอก็เปิดแฟ้มบางอย่างให้ดู
เป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดในห้องน้ำคอนโด
หมอบอกว่าเคยมีเคสคล้ายกันเมื่อ 6 ปีก่อน
คนไข้รายนั้น…ก็เล่าว่าตัวเองเห็นเงาในกระจกไม่ตรง
เห็นเงายิ้ม ทั้งที่ตัวเองไม่ยิ้ม
สุดท้ายก็เริ่ม “พูดคุยกับกระจก” ทุกวัน
หมอถามคำสุดท้าย:
> “คุณเคยคุยกับเงาในกระจกมั้ย?”
ผมอึ้ง...เพราะผมเคย
ผมเคยพูดว่า “อย่ามองกู” ใส่มันหลายครั้ง
หมอนิ่ง แล้วพูดว่า...
> “งั้นผมขอดูหน้าคุณในกระจกหน่อย”
เขาหยิบกระจกพกเล็ก ๆ ขึ้นมาให้ผมมอง
ผมลังเล…แต่ก็ยอมดู
แล้วผมก็พูดว่า...
เอ๊ะ…คนในกระจกนี่ไม่ใช่ผมนี้ครับ
หมอเค้าก็บอกผมว่า นั้นเเหละครับ
Capgras Delusion (อาการแคปกราส)
> ผู้ป่วยเชื่อว่า "คนใกล้ตัว" หรือแม้แต่ "ตัวเองในกระจก"
ถูกแทนที่ด้วย “คนหน้าเหมือน” หรือ “ตัวปลอม”
เป็นความหลงผิดอย่างหนึ่ง พบในผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้มีปัญหาสมองบางส่วน
หลังจากนั้นเค้าก็ให้ยาอะไรไม่รัผมจำไมได้เหมือนกันมากิน เเล้วบำบัด ให้ผมมองตัวเองในกระจก ครั้งเเรกๆ ผมก็ไม่เอาๆ ผมหลอน เค้าก็บอก ถ้าอยากกลับมาเป็นปกติก็ต้องทำ เค้าให้ผม ถ่ายรูปตัวเองเยอะๆ ส่งให้คนรอบตัวเยอะๆบ้าง อะไรของเค้าต่างๆหนาๆ จนผมหายดี ตอนนั้น ผมก็ย้ายออกมาจากคอนโด เพราะ ปัญหากับ ใคร ผมขอไม่บอกจะกันน่ะครับ เรื่องส่วนตัว หลังจากนั้นผมก็ไม่มีปัญหาเเบบนั้นอีกเลย