รู้จัก 6 แบรนด์แฟชันไทย โตจากศูนย์ไปเป็นล้านได้ยังไง ขายไปเกินแสนตัว อยู่ได้เกิน 10 ปี
ไม่ใช่แค่สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางเท่านั้นที่ ‘แบรนด์ไทย’ กำลังผงาดขึ้นมาท่ามกลางการแข่งขัน แต่ ‘แบรนด์แฟชันไทย’ ก็กลับมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระแสขายหมดในไม่กี่วินาที หรือสะพายกันทั่วบ้านทั่วเมือง
.
ท่ามกลางความนิยมนี้หลายคนอาจจินตนาการไม่ออกว่ากว่าจะเดินทางมาถึงความสำเร็จ แบรนด์ไทยเหล่านี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้ Brand Inside เลยอยากพาทุกคนไปดูจุดเริ่มต้นและเส้นทางของ 6 แบรนด์ไทย ที่บางแบรนด์แม้จะมีอายุเกิน 10 ปีแล้ว แต่ยังคงยืนหยัดอยู่ในวงการแฟชันได้จนวันนี้
.
[Nipperisthebest กางเกงยีนส์ที่ best seller ตลอดกาลยอดทะลุเกินแสนตัว]
.
ใครที่เป็น ‘สายกางเกงยีนส์’ ก็ต้องเคยเห็น nipperisdabest แบรนด์กางเกงยีนส์ไทยที่มีอายุกว่า 9 ปีผ่านตาสักครั้ง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าก่อนที่ ‘ฝ้าย-ณัฐณิชา รจนาสม’ เจ้าของแบรนด์ nipperisdabest จะมาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้ายอดขายเกือบ 8 หลักต่อปีนั้น เธอเคยทำมาแล้วทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เด็กเสิร์ฟ พนักงานโรงแรม หรือติวเตอร์
.
แต่ชีวิตแม่ค้าของเธอมาเริ่มต้นก็ตอนปี 3 ที่มาเห็นเพื่อนขายเสื้อผ้าทางออนไลน์
.
โดย ‘ฝ้าย’ ตัดสินใจเปิดร้านพรีออเดอร์ขายหลายอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า เพราะไม่ต้องอาศัยเงินลงทุน แต่อาศัยแรงสนับสนุนจากเพื่อนเป็นอินฟลูเอนเซอร์ช่วยรีวิวสินค้าให้ ตอนนั้นฝ้ายจึงขายได้และมีกำไร จนตัดสินใจว่าจะทำสิ่งนี้อย่างจริงจัง
.
ในบรรดาสินค้าที่ ‘ฝ้าย’ เปิดพรีออเดอร์ทั้งหมด สิ่งที่ลูกค้าถามหามากที่สุดคือ ‘กางเกงยีนส์’ ตอนนั้นจึงหารูปกางเกงยีนส์หลายๆ แบบมาลงขายมากขึ้นและได้รับการตอบรับดีมาก แต่ถึงพรีออเดอร์จะขายดีก็มีลูกค้าเริ่มถามหาสินค้าแบบพร้อมส่งเข้ามา ‘ฝ้าย’ เลยตัดสินใจเอากำไรที่มีอยู่ไปเดินประตูน้ำดูสักตั้ง
.
หลังจากเรียนจบ ‘ฝ้าย’ ที่ตอนนั้นขายกางเกงยีนส์มาเกิน 600 รูปแบบแล้วก็เริ่มอยากจะจริงจังกับ nipperisdabest มากขึ้น ตัดสินใจคุยกับโรงงาน หันมาผลิตและออกแบบเอง โดยอาศัยความเชี่ยวชาญจากการขายกางเกงยีนส์มาหลายแบบ เลือกดีไซน์ที่ลูกค้าชอบและเรียกร้องมาบ่อยๆ มาผสมกันจนออกมาเป็นกางเกงยีนส์รุ่น signature ของแบรนด์
.
จุดเด่นของ nipperisdabest คือ “กางเกงยีนส์ที่ใส่ได้ทุกวัน” เพราะใส่ใจในดีเทล พลางเอว พลางสะโพก พลางหุ่น มาพร้อมกับซิปยาวรับสรีระ แบบที่ลูกค้าใส่แล้วต้องชอบแน่นอน
.
นอกจากนี้ แบรนด์ยังนำเสนอไซส์ที่หลากหลาย โดยใช้ ‘ขนาดเอว’ เป็นตัวกำหนด แทนการใช้ไซส์ S-XL ทั่วไป ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์กางเกงยีนส์ส่วนใหญ่ในยุคนั้น
.
กางเกงยีนส์รุ่นเก่งของ nipperisdabest จึงเป็นสินค้าขายดีที่สุดต่อเนื่องมานานเกิน 5 ปีแล้ว โดยขายได้เฉลี่ยเดือนละเกินพันตัว เรียกว่าจนถึงตอนนี้แบรนด์ขายกางเกงยีนส์ไปเกินแสนตัวแล้ว
.
ส่วนจุดเริ่มต้นของการมาขายสินค้าบน Shopee เกิดขึ้นเพราะลูกค้าของ nipperisdabest เรียกร้องมาตลอดและเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นประโยค “มีแอปส้มไหมคะ” หรือ “มาขายบน Shopee ได้ไหม” ก็หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ฝ้ายตัดสินใจเริ่มต้นเปิดร้านบน Shopee ในเดือนมีนาคม 2567
.
‘ฝ้าย’ เล่าว่า หลังเปิดร้านบน Shopee ด้วยกระแสที่ลูกค้าเรียกร้องมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นประโยค “มีแอปส้มไหมคะ” หรือ “มาขายบน Shopee ได้ไหม” จึงทำให้ยอดออเดอร์เข้าเยอะมาก โดยมีทั้งลูกค้าที่เก่ารออยู่นานแล้ว และลูกค้าใหม่ที่ได้เพิ่มมาจากแพลตฟอร์มด้วย
.
การไลฟ์ขายสินค้าขายพร้อมกันในหลายแพลตฟอร์มเองก็ทำให้แบรนด์เห็นว่าลูกค้าอยู่บน Shopee มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น จึงเลือกไลฟ์กระตุ้นยอดขายและเปิดการมองเห็นเป็นประจำ โดยในช่วงแคมเปญ nipperisdabest เคยสร้างยอดขายบน Shopee อย่างเดียวมากถึง 8 แสนบาทต่อเดือน
.
ตอนนี้แบรนด์เริ่มหันมาจับสินค้ากลุ่ม Top หรือช่วงบนอย่าง ‘เสื้อ’ มากขึ้น เพราะลูกค้าอยากให้ทำ ‘ฝ้าย’ จึงเลือกทำเสื้อที่ตรงกับจุดยืนเดิมของแบรนด์อย่าง “ใส่ได้ทุกวัน ไม่ต้องคิดมาก เบสิค แต่เก๋” ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ได้มากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
.
ทำให้ปีที่แล้วยอดขายของ nipperisdabest แตะ 9 ล้านบาท โดยยอดขายกว่า 60% ของแบรนด์ก็มาจากลูกค้าบน Shopee
.
ฝ้ายผู้เป็นเจ้าของ nipperisdabest บอกว่าไม่ว่าอย่างไร “จะต้องจริงใจกับลูกค้า” ถ้ามั่นใจว่าลูกค้าใส่ไซส์นี้ไม่ได้ ใส่ไม่สบายก็จะยืนยันตามตรง เหมือนแบรนด์เป็นเพื่อนเป็นพี่ที่มีความจริงใจ
.
ที่มา : Brand Inside
6 แบรนด์แฟชันไทย โตจากศูนย์ไปเป็นล้าน ขายไปเกินแสนตัว อยู่ได้เกิน 10 ปี