ย้อนกลับไปในปี 2003 อารอน ราลสตัน ชายหนุ่มวัย 27 ปี ผู้รักการผจญภัย ออกเดินทางลุยเดี่ยวสู่หุบเขา Blue John Canyon ในรัฐยูทาห์ ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ทว่า เขาทำพลาดเพียงเรื่องเดียว เขาไม่ได้บอกใครเลยว่าจะไปที่ไหน
ไม่นานหลังจากเริ่มสำรวจหุบเขา ก้อนหินหนักกว่า 360 กิโลกรัมเกิดตกลงมาทับแขนขวาของเขาอย่างจัง แขนทั้งแขนถูกอัดแน่นเข้ากับผนังหิน
เขาติดอยู่ในซอกแคบกลางทะเลทราย ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีใครรู้ตำแหน่ง และไม่มีหนทางให้หลุดรอด
ในช่วงเวลา 5 วันอันโหดร้าย อารอนต่อสู้กับทั้งความหิว ความกระหาย และความโดดเดี่ยว เขาดื่มน้ำหมดไปตั้งแต่วันที่สาม แล้วหันมาดื่มปัสสาวะตัวเองเพื่อประทังชีวิต
เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะหลุดจากก้อนหิน ทั้งขุด เจาะ และเลื่อยแขนตัวเองด้วยมีดพับทื่อ ๆ แต่กระดูกแข็งแกร่งเกินกว่าจะตัดผ่าน
เมื่อร่างกายเริ่มอ่อนแรงและจิตใจใกล้พังทลาย เขาเริ่มยอมรับความจริงว่าอาจไม่มีวันรอดกลับไป
เขาใช้มีดแกะสลัก ชื่อ วันเกิด และวันที่เขาคิดว่าจะเป็นวันลาจากโลกนี้ลงบนผนังหิน พร้อมตัวอักษร "RIP"
จากนั้น เขาหยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาอัดข้อความอำลาครั้งสุดท้ายถึงครอบครัว เป็นคำบอกลาที่เงียบงันซึ่งเขาไม่คิดว่าจะมีใครได้เห็น จนกระทั่งเขาผล็อยหลับไป
ในคืนนั้นเอง เขาฝันเห็นภาพตัวเองมีเพียงแขนขวาครึ่งเดียวกำลังเล่นกับเด็กคนหนึ่ง
เมื่อตื่นขึ้นมา เขาเชื่อว่านั่นคือ สัญญาณแห่งโชคชะตา เขาต้องรอด เขาจะมีครอบครัว มีลูก และมีชีวิตที่รออยู่หลังจากนี้
อารอนตัดสินใจฮึดสู้ด้วยพลังทั้งหมดที่ยังมี และความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา ถ้าอยากรอด ก็มีแต่ต้อง "หักกระดูกแขน" ตัวเอง
อารอนใช้แรงบิดจากร่างกายดันแขนตัวเอง จนกระดูกสองท่อนในแขนหัก แล้วใช้มีดพับค่อย ๆ เฉือนกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาท ความเจ็บที่สุดคือช่วงที่เขาต้องตัดผ่านเส้นประสาทกลางแขน ความทรมานที่เขาเปรียบว่าเหมือนถูกฟ้าผ่าลงบนร่าง
และในที่สุด หลังจาก 127 ชั่วโมงที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาก็เป็นอิสระ
แม้จะเสียเลือดมากและเหลือแขนเพียงข้างเดียว เขายังไต่ลงจากหน้าผาสูง 20 เมตรด้วยเชือกที่นำมาด้วย และเดินเท้าต่ออีกกว่า 8 กิโลเมตร จนเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือได้ทันเวลา
เรื่องราวของ อารอน ราลสตัน ไม่เพียงแต่กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก แต่ยังถูกบันทึกไว้ในหนังสือ Between a Rock and a Hard Place และในปี 2010 ก็ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ชื่อ 127 Hours ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์หลายสาขา
อ้างอิงจาก - All's That Interesting, Wikipedia
Cr. FB เรื่องแปลกประหลาดจากทั่วโลก
127 ชั่วโมง ของอารอน ราลสตัน กับแขนขวาของเขาที่ถูกทับด้วยก้อนหินหนัก 360 กก.
ไม่นานหลังจากเริ่มสำรวจหุบเขา ก้อนหินหนักกว่า 360 กิโลกรัมเกิดตกลงมาทับแขนขวาของเขาอย่างจัง แขนทั้งแขนถูกอัดแน่นเข้ากับผนังหิน
เขาติดอยู่ในซอกแคบกลางทะเลทราย ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีใครรู้ตำแหน่ง และไม่มีหนทางให้หลุดรอด
ในช่วงเวลา 5 วันอันโหดร้าย อารอนต่อสู้กับทั้งความหิว ความกระหาย และความโดดเดี่ยว เขาดื่มน้ำหมดไปตั้งแต่วันที่สาม แล้วหันมาดื่มปัสสาวะตัวเองเพื่อประทังชีวิต
เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะหลุดจากก้อนหิน ทั้งขุด เจาะ และเลื่อยแขนตัวเองด้วยมีดพับทื่อ ๆ แต่กระดูกแข็งแกร่งเกินกว่าจะตัดผ่าน
เมื่อร่างกายเริ่มอ่อนแรงและจิตใจใกล้พังทลาย เขาเริ่มยอมรับความจริงว่าอาจไม่มีวันรอดกลับไป
เขาใช้มีดแกะสลัก ชื่อ วันเกิด และวันที่เขาคิดว่าจะเป็นวันลาจากโลกนี้ลงบนผนังหิน พร้อมตัวอักษร "RIP"
จากนั้น เขาหยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาอัดข้อความอำลาครั้งสุดท้ายถึงครอบครัว เป็นคำบอกลาที่เงียบงันซึ่งเขาไม่คิดว่าจะมีใครได้เห็น จนกระทั่งเขาผล็อยหลับไป
ในคืนนั้นเอง เขาฝันเห็นภาพตัวเองมีเพียงแขนขวาครึ่งเดียวกำลังเล่นกับเด็กคนหนึ่ง
เมื่อตื่นขึ้นมา เขาเชื่อว่านั่นคือ สัญญาณแห่งโชคชะตา เขาต้องรอด เขาจะมีครอบครัว มีลูก และมีชีวิตที่รออยู่หลังจากนี้
อารอนตัดสินใจฮึดสู้ด้วยพลังทั้งหมดที่ยังมี และความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา ถ้าอยากรอด ก็มีแต่ต้อง "หักกระดูกแขน" ตัวเอง
อารอนใช้แรงบิดจากร่างกายดันแขนตัวเอง จนกระดูกสองท่อนในแขนหัก แล้วใช้มีดพับค่อย ๆ เฉือนกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาท ความเจ็บที่สุดคือช่วงที่เขาต้องตัดผ่านเส้นประสาทกลางแขน ความทรมานที่เขาเปรียบว่าเหมือนถูกฟ้าผ่าลงบนร่าง
และในที่สุด หลังจาก 127 ชั่วโมงที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาก็เป็นอิสระ
แม้จะเสียเลือดมากและเหลือแขนเพียงข้างเดียว เขายังไต่ลงจากหน้าผาสูง 20 เมตรด้วยเชือกที่นำมาด้วย และเดินเท้าต่ออีกกว่า 8 กิโลเมตร จนเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือได้ทันเวลา
เรื่องราวของ อารอน ราลสตัน ไม่เพียงแต่กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก แต่ยังถูกบันทึกไว้ในหนังสือ Between a Rock and a Hard Place และในปี 2010 ก็ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ชื่อ 127 Hours ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์หลายสาขา
อ้างอิงจาก - All's That Interesting, Wikipedia
Cr. FB เรื่องแปลกประหลาดจากทั่วโลก