สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การทำเลสิกครั้งแรกในชีวิต!บอกเลยไม่ธรรมดาเพราะบินไปทำไกลถึงเกาหลี ซึ่งเราทำที่ SEOUL SHINSEGAE EYE CENTER …..ใครที่อยากหาข้อมูลหรือกำลังจะตัดสินใจทำอยู่ลองมาอ่านเรื่องราวของเราก่อนได้ (บอกทั้งราคาและการเดินทางให้ครบ) แอบกระซิบว่าทำแล้วใช้ชีวิตดีขึ้น 1000%
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่าเราเป็นคนนึงที่สายตาสั้นมาตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็ใส่แว่นมาตั้งแต่ประถมแล้ว เริ่มจากสั้นแค่ 100 และก็เพิ่มขึ้นมาตามอายุ ทุกคนที่สายตาสั้นต่างเข้าใจกันดีว่าคนที่ใส่แว่นต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง เช่น การทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาบางอย่างมีข้อจำกัด รวมไปถึงเรื่องรอยกดทับที่จมูกเพราะใส่แว่นตลอดเวลา จริงอยู่ว่าการใส่คอนเทคเลนส์ก็เป็นอีกทางเลือก แต่การใส่คอนเทคเลนส์นานๆ ก็เคืองตา ตาแห้งและในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อกระจกตาได้….จนวันนึงเราก็คิดว่าเอาล่ะ! ทำเลสิกไปเลยดีกว่า
เลยเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิกมากขึ้น ยอมรับเลยว่าถึงใจจะอยากทำมากแต่ก็กังวลเรื่องความปลอดภัยและปัญหาต่างๆ จนเรามาเจอว่าตอนนี้การทำเลสิกเค้ามีหลายแบบมาก อันนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจและวินิฉัยของแพทย์นะว่าตาเราเหมาะกับการทำแบบไหน
และระหว่างที่เราหาข้อมูลอยู่เกี่ยวกับการทำเลสิก เราก็มีโอกาสจะได้ไปเกาหลีพอดีและนี่แหละคือจุดเปลี่ยน เราได้รู้จักกับคนที่จะเดินทางไปด้วยกันและคุยกันจนเค้าแนะนำที่นี่มา ก็คือ คลีนิก SEOUL SHINSEGAE EYE CENTER เค้าบอกว่าที่นี่มีทีมจักษุแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยโซล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์อันดับ 1 ของเกาหลีและยังมีแพทย์ที่ถือใบประกาศนียบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยนะ
…เราเลยรีบหาข้อมูลเพิ่มเติมเลย เพราะว่าส่วนตัวเราคิดว่าที่เกาหลีเค้าเด่นเรื่องการทำศัลยกรรมอยู่แล้ว เรื่องการรักษาอื่นๆ ก็ต้องดีไม่แพ้กันแหละ พอหาข้อมูลปุ๊ปเราตัดสินใจได้เลยว่าที่นี่แหละ!! เพราะเค้ามีล่ามไทยด้วยยิ่งทำให้ไม่ลังเลเลย(ใครที่ติดเรื่องภาษาหมดห่วงเลยจ้า) ติดต่อกับทางคลินิกนัดวันเลยจ้า ก็ได้คิวเลยซึ่งเราขอเป็นช่วงให้ตรงกับที่เราไปเกาหลีพอดี
ขอเล่าถึงตอนที่ไปพบแพทย์และตอนทำเลสิกเลยละกันนะเดี่ยวจะยาวเกินไป ^^ …..พอได้วันก็ไปตั้งแต่ 9 โมง ลงทะเบียนถามประวิติเบื้องต้นและเข้าพบคุณหมอ เราได้ตรวจกับหมอพัค จองฮยอน [ ศ.ดร.พัค จองฮยอน Prof. Park Jung Hyun ] ซึ่งเรามารู้ตอนหลังว่าคุณหมอคือดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงผู้อำนวยการคลินิกจักษุ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล สาขาบุนดัง และผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดต้อกระจกและโรคตา มีใบรับรองและใบประกาศนียบัตรผ่าตัดด้วยเทคนิค SMILE LASIK และอื่นๆเพียบเลย
คุณหมอก็จะเริ่มทำการตรวจวัดสายตาและตรวจตามขั้นตามต่างๆ พร้อมพูดคุยไปตามปกติ เราสงสัยตรงไหนสามารถถามหรือพูดคุยผ่านล่ามได้เลยนะ สะดวกมากทำให้เราหายกังวลและมั่นใจมากขึ้นเยอะ จากนั้นหมอจะประเมินว่าเราเหมาะกับการทำเลสิกแบบไหน ของเราสายตาสั้น 300-400 ทำเป็นแบบเทคนิค SMILE LASIK
(เป็นภาพที่ทางเจ้าหน้าที่ถ่ายไว้ให้นะ ต้องขออนุญาติก่อนนะจ้ะ)
พอเราตรวจเสร็จก็สามารถทำได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการตรวจ และทำการผ่าตัดช่วงบ่าย คือเคสแบบเราเป็นต่างชาติไปทำ ทางคลินิกเค้าจะจัดคิวแบบปรึกษาและสามารถทำได้ในวันเลย เพราะเค้าเข้าใจว่าเราไปแบบมีเวลาจำกัดฉะนั้นเลยอำนวยความสะดวกให้เรา แต่เอาจริงๆ ใช้เวลาทำไม่นานเลย 15 นาทีเอง (ไม่รวมการเตรียมตัวก่อนทำ)
ในห้องมีเครื่องมือทันสมัยและสะอาดมาก บรรยากาศไม่น่ากลัวเลย คุณหมอลอกว่าที่นี่ใช้เครื่องตรวจวินิจฉัยและเครื่องมือผ่าตัดทันสมัยที่สุดเทียบเท่าหรือดีกว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และระบบ AI ช่วยในการผ่าตัด รวมไปถึงทีมเฉพาะทางในแต่ละด้านด้วยฉะนั้นมั่นใจเรื่องความปลอดถัยได้เลย….จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการทำ บอกเลยว่าไวมากๆ ยังไม่ทันหายตื่นเต้นก็เสร็จแล้ว พอทำเสร็จเค้าก็จะให้ออกมาพักสังเกตอาการก่อน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังจากทำ แล้วก็กลับได้เลยจ้า
ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังทำก็ไม่มีอะไรมาก เช่น
- ต้องหยอด ยาหยอดตาและน้ำตาเทียม ตามคำแนะนำแพทย์ ใส่แว่นกันแดดกันยูวีเมื่อออกนอกบ้าน
- แต่งหน้าเบาได้หลังทำ 3 วัน / แต่งตาได้หลัง 1 สัปดาห์
- งดไปทะเลไปทะเลหรือว่ายน้ำ หลัง 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์, งดดัดหรือทำสีผม, งดใส่คอนแทคเลนส์สี, ซาวน่า, งดออกกำลังกายหนัก…หลังทำ 1 เดือน
ภาพดวงตาก่อนทำและหลังทำ และภาพของการมองเห็นก่อนทำและหลังทำ (เราพยายามหามาเทียบให้ดูเห็นเป็นแนวทางว่าการมองเห็นจะได้ประมาณไหนนะ)
ความรู้สึกหลังทำ : บอกเลยว่าเหมือนเป็นคนใหม่ มองอะไรก็สดใสไปหมด จากที่เคยพล่ามัว ใช้ชีวิตแบบมีข้อจำกัด ตอนนี้คือทำกิจกรรมได้ทุกอย่างที่อย่างทำ มั่นใจมากขึ้นไม่เป็นสาวแว่นโดนเรียกว่าป้าแล้ว คือตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ทำเลสิกกับคลีนิกนี้ ประทับใจตั้งแต่ตอนที่ติดต่อไปจนจนทีมแพทย์และบรรยากาศของคลีนิกทุกอย่างตอบโจทย์และคุ้มค่ามากๆ หากเพื่อนๆ กำลังกลัวหรือลังเลเรื่องการทำเลสิกบอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
อ่ะมาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้คือราคาการทำเท่าไหร่? ….รายละเอียดตามนี้เลยนะแต่แนะนำว่าให้ลองทักไปปรึกษากับทางคลีนิกก่อนได้อาจจะมีโปรโมชั่นหรืออะไรต่างๆ เพิ่มเติมในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย
- SMILE LASIK ราคา 3,000,000 วอน (KRW) รวมค่าตรวจวัดสายตา + ค่าปรึกษาแพทย์ + ค่าผ่าตัด
- LASEK ราคา 2,000,000 วอน (KRW) รวมค่าตรวจวัดสายตา + ค่าปรึกษาแพทย์ + ค่าผ่าตัด
- ตรวจวัดสายตาประเมินการแก้ไขสายตาแบบไม่ผ่าตัด ค่าตรวจประมาณ 2 ชั่วโมงอยู่ที่ 200,000 วอน
และจะบอกว่านอกจากการทำเลสิกแล้วที่นี่ยังมีบริการรักษาที่เกี่ยวกับดวงตาครอบคลุมทั้ง SMILE LASIK, LASIK, LASEK, ICL, ต้อกระจก, ต้อหิน, จอประสาทตา, สายตายาว
แอบบอกวิธีการเดินทางมาไว้ให้ด้วยเผื่อใครสนใจอยากไปทำที่นี่จะได้วางแพลนการเดินทางได้ล่วงหน้า…….เดินทางสะดวกด้วย รถไฟใต้ดินสาย 4 (LINE 4) ลงที่ สถานี Miasageori (มียาซาเกอรี) ทางออก 1คลินิกเชื่อมต่อโดยตรงกับทางออก 1 เดินแป๊ปเดียวก็ถึง
…. ใครที่กำลังสนใจหรือตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำดีเอาจริงๆ อยากบอกว่าทำแล้วดีจริงๆ ใช้ชีวิตสะดวกขึ้นมากๆ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่เจ็บเลย นอนพักสักคืนก็โอเคแล้ว ใครที่กำลังทรัพย์ไหวและร่างกายพร้อมทำเลย! ลองเอาข้อมูลเราไปประกอบการจัดสินใจได้ ส่วนจะทำที่ไหนอย่างไรก็ศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนเท่านั้นเอง สำหรับวันนี้เราขอตัวก่อน คราวหน้าจะมีอะไรมาแชร์กันอีกรอติดตามได้เลยจ้า บ้ายย บายย
[SR] แชร์ประสบการณ์ทำเลสิกแบบ SMILE ที่ SEOUL เกาหลีใต้
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่าเราเป็นคนนึงที่สายตาสั้นมาตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็ใส่แว่นมาตั้งแต่ประถมแล้ว เริ่มจากสั้นแค่ 100 และก็เพิ่มขึ้นมาตามอายุ ทุกคนที่สายตาสั้นต่างเข้าใจกันดีว่าคนที่ใส่แว่นต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง เช่น การทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาบางอย่างมีข้อจำกัด รวมไปถึงเรื่องรอยกดทับที่จมูกเพราะใส่แว่นตลอดเวลา จริงอยู่ว่าการใส่คอนเทคเลนส์ก็เป็นอีกทางเลือก แต่การใส่คอนเทคเลนส์นานๆ ก็เคืองตา ตาแห้งและในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อกระจกตาได้….จนวันนึงเราก็คิดว่าเอาล่ะ! ทำเลสิกไปเลยดีกว่า
เลยเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิกมากขึ้น ยอมรับเลยว่าถึงใจจะอยากทำมากแต่ก็กังวลเรื่องความปลอดภัยและปัญหาต่างๆ จนเรามาเจอว่าตอนนี้การทำเลสิกเค้ามีหลายแบบมาก อันนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจและวินิฉัยของแพทย์นะว่าตาเราเหมาะกับการทำแบบไหน
และระหว่างที่เราหาข้อมูลอยู่เกี่ยวกับการทำเลสิก เราก็มีโอกาสจะได้ไปเกาหลีพอดีและนี่แหละคือจุดเปลี่ยน เราได้รู้จักกับคนที่จะเดินทางไปด้วยกันและคุยกันจนเค้าแนะนำที่นี่มา ก็คือ คลีนิก SEOUL SHINSEGAE EYE CENTER เค้าบอกว่าที่นี่มีทีมจักษุแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยโซล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์อันดับ 1 ของเกาหลีและยังมีแพทย์ที่ถือใบประกาศนียบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยนะ
…เราเลยรีบหาข้อมูลเพิ่มเติมเลย เพราะว่าส่วนตัวเราคิดว่าที่เกาหลีเค้าเด่นเรื่องการทำศัลยกรรมอยู่แล้ว เรื่องการรักษาอื่นๆ ก็ต้องดีไม่แพ้กันแหละ พอหาข้อมูลปุ๊ปเราตัดสินใจได้เลยว่าที่นี่แหละ!! เพราะเค้ามีล่ามไทยด้วยยิ่งทำให้ไม่ลังเลเลย(ใครที่ติดเรื่องภาษาหมดห่วงเลยจ้า) ติดต่อกับทางคลินิกนัดวันเลยจ้า ก็ได้คิวเลยซึ่งเราขอเป็นช่วงให้ตรงกับที่เราไปเกาหลีพอดี
ขอเล่าถึงตอนที่ไปพบแพทย์และตอนทำเลสิกเลยละกันนะเดี่ยวจะยาวเกินไป ^^ …..พอได้วันก็ไปตั้งแต่ 9 โมง ลงทะเบียนถามประวิติเบื้องต้นและเข้าพบคุณหมอ เราได้ตรวจกับหมอพัค จองฮยอน [ ศ.ดร.พัค จองฮยอน Prof. Park Jung Hyun ] ซึ่งเรามารู้ตอนหลังว่าคุณหมอคือดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงผู้อำนวยการคลินิกจักษุ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล สาขาบุนดัง และผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดต้อกระจกและโรคตา มีใบรับรองและใบประกาศนียบัตรผ่าตัดด้วยเทคนิค SMILE LASIK และอื่นๆเพียบเลย
พอเราตรวจเสร็จก็สามารถทำได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการตรวจ และทำการผ่าตัดช่วงบ่าย คือเคสแบบเราเป็นต่างชาติไปทำ ทางคลินิกเค้าจะจัดคิวแบบปรึกษาและสามารถทำได้ในวันเลย เพราะเค้าเข้าใจว่าเราไปแบบมีเวลาจำกัดฉะนั้นเลยอำนวยความสะดวกให้เรา แต่เอาจริงๆ ใช้เวลาทำไม่นานเลย 15 นาทีเอง (ไม่รวมการเตรียมตัวก่อนทำ)
ในห้องมีเครื่องมือทันสมัยและสะอาดมาก บรรยากาศไม่น่ากลัวเลย คุณหมอลอกว่าที่นี่ใช้เครื่องตรวจวินิจฉัยและเครื่องมือผ่าตัดทันสมัยที่สุดเทียบเท่าหรือดีกว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และระบบ AI ช่วยในการผ่าตัด รวมไปถึงทีมเฉพาะทางในแต่ละด้านด้วยฉะนั้นมั่นใจเรื่องความปลอดถัยได้เลย….จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการทำ บอกเลยว่าไวมากๆ ยังไม่ทันหายตื่นเต้นก็เสร็จแล้ว พอทำเสร็จเค้าก็จะให้ออกมาพักสังเกตอาการก่อน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังจากทำ แล้วก็กลับได้เลยจ้า
ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังทำก็ไม่มีอะไรมาก เช่น
- ต้องหยอด ยาหยอดตาและน้ำตาเทียม ตามคำแนะนำแพทย์ ใส่แว่นกันแดดกันยูวีเมื่อออกนอกบ้าน
- แต่งหน้าเบาได้หลังทำ 3 วัน / แต่งตาได้หลัง 1 สัปดาห์
- งดไปทะเลไปทะเลหรือว่ายน้ำ หลัง 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์, งดดัดหรือทำสีผม, งดใส่คอนแทคเลนส์สี, ซาวน่า, งดออกกำลังกายหนัก…หลังทำ 1 เดือน
ความรู้สึกหลังทำ : บอกเลยว่าเหมือนเป็นคนใหม่ มองอะไรก็สดใสไปหมด จากที่เคยพล่ามัว ใช้ชีวิตแบบมีข้อจำกัด ตอนนี้คือทำกิจกรรมได้ทุกอย่างที่อย่างทำ มั่นใจมากขึ้นไม่เป็นสาวแว่นโดนเรียกว่าป้าแล้ว คือตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ทำเลสิกกับคลีนิกนี้ ประทับใจตั้งแต่ตอนที่ติดต่อไปจนจนทีมแพทย์และบรรยากาศของคลีนิกทุกอย่างตอบโจทย์และคุ้มค่ามากๆ หากเพื่อนๆ กำลังกลัวหรือลังเลเรื่องการทำเลสิกบอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
อ่ะมาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้คือราคาการทำเท่าไหร่? ….รายละเอียดตามนี้เลยนะแต่แนะนำว่าให้ลองทักไปปรึกษากับทางคลีนิกก่อนได้อาจจะมีโปรโมชั่นหรืออะไรต่างๆ เพิ่มเติมในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย
- SMILE LASIK ราคา 3,000,000 วอน (KRW) รวมค่าตรวจวัดสายตา + ค่าปรึกษาแพทย์ + ค่าผ่าตัด
- LASEK ราคา 2,000,000 วอน (KRW) รวมค่าตรวจวัดสายตา + ค่าปรึกษาแพทย์ + ค่าผ่าตัด
- ตรวจวัดสายตาประเมินการแก้ไขสายตาแบบไม่ผ่าตัด ค่าตรวจประมาณ 2 ชั่วโมงอยู่ที่ 200,000 วอน
และจะบอกว่านอกจากการทำเลสิกแล้วที่นี่ยังมีบริการรักษาที่เกี่ยวกับดวงตาครอบคลุมทั้ง SMILE LASIK, LASIK, LASEK, ICL, ต้อกระจก, ต้อหิน, จอประสาทตา, สายตายาว
แอบบอกวิธีการเดินทางมาไว้ให้ด้วยเผื่อใครสนใจอยากไปทำที่นี่จะได้วางแพลนการเดินทางได้ล่วงหน้า…….เดินทางสะดวกด้วย รถไฟใต้ดินสาย 4 (LINE 4) ลงที่ สถานี Miasageori (มียาซาเกอรี) ทางออก 1คลินิกเชื่อมต่อโดยตรงกับทางออก 1 เดินแป๊ปเดียวก็ถึง
…. ใครที่กำลังสนใจหรือตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำดีเอาจริงๆ อยากบอกว่าทำแล้วดีจริงๆ ใช้ชีวิตสะดวกขึ้นมากๆ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่เจ็บเลย นอนพักสักคืนก็โอเคแล้ว ใครที่กำลังทรัพย์ไหวและร่างกายพร้อมทำเลย! ลองเอาข้อมูลเราไปประกอบการจัดสินใจได้ ส่วนจะทำที่ไหนอย่างไรก็ศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนเท่านั้นเอง สำหรับวันนี้เราขอตัวก่อน คราวหน้าจะมีอะไรมาแชร์กันอีกรอติดตามได้เลยจ้า บ้ายย บายย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น