เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี 1980 ยุคสมัยที่การยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโซเชียลมีเดีย..
ณ หมู่บ้านเล็กๆในชนบทที่ชื่อว่า กุรุกกรรณมูล...
เจสัน ช่างตัดเสื้อหนุ่มมีความใฝ่ฝันที่จะได้ไปสร้างอนาคตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา
แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด เจสันมีปัญหาเรื่องเอกสารการเดินทาง..
มิหนำซ้ำแฟนสาวที่คบหาก็ไปหมั้นหมายกับชายอื่นเนื่องจากครอบครัวฝ่ายหญิงไม่อยากให้เขาไปคบหากับลูกสาวอีกด้วย
เจสัน กลุ้มใจกับชีวิตอย่างยิ่ง...
ขณะเดียวกัน ศิปุ ลูกจ้างร้านน้ำชาประจำหมู่บ้านที่มักโดนคนรอบข้างกลั่นแกล้งดูถูกเป็นประจำ
ก็กำลังกลัดกลุ้มใจเนื่องจาก อุษา หญิงที่เขาเฝ้าแอบรักมาเป็นเวลากว่า 28 ปี (แอบชอบตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ)
ได้กลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้งหลังจากหนีตามคนรักไปนานหลายปี ศิปุดีใจที่เห็นเธอกลับมาก็จริง
แต่ที่เป็นปัญหาก็คือลูกสาวของอุษาที่เกิดกับชายคนรักของเธอนั้นป่วยเป็นโรคร้ายซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน...
แน่นอนว่าอุษาไม่มีเงินมากขนาดนั้น.. การที่เห็นหญิงผู้เป็นที่รักมีปัญหา ศิปุจึงคิดว่าเขาต้องพยายามหาทางช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้ให้ได้
ในช่วงเวลานั้นทางโทรทัศน์ได้เสนอข่าวว่ากำลังจะมีปรากฎการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยม
โดยจะเกิดขึ้นทุกๆ 700 ปี และจะทำให้บนโลกเกิดสนามแม่เหล็ก และมีฟ้าแลบฟ้าผ่าได้ง่าย..
และในคืนวันคริสต์มาสอีฟนั้นเอง ทั้งเจสัน และ ศิปุ ชายทั้ง 2 ของหมู่บ้านกุรุกกรรณมูล ต่างก็ถูกฟ้าผ่าใส่เข้าอย่างจัง...
และหลังจากนั้นเขาทั้งคู่ก็ได้รับพลังพิเศษที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล.....
Minnal Murali หนังอินเดียภาษามลยาฬัม (อินเดียตอนใต้) เป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
เรื่องราว 2 ด้านระหว่างพระเอกเจสัน และตัวร้ายอย่างศิปุ ทั้งคู่ได้รับพลังเหนือธรรมชาติมาเหมือนกัน
แต่เป้าหมายในการใช้พลังนั้นเส้นทางของคนทั้งสองเป็นเส้นขนานอย่างสิ้นเชิง
เราคุ้นเคยกันดีครับกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ แน่นอนว่าล้วนมาจากอเมริกาแทบทั้งสิ้น
พอมาเป็นหนังอินเดียปุ๊บก็เลยทำให้เราได้สัมผัสถึงความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนที่เราเคยดูมาก่อน
Minnal Murali ได้เปลี่ยนให้ซูเปอร์ฮีโร่ ที่ปกป้องชาวโลกจากเหล่าร้ายที่จะมายึดครอง
กลายเป็นฮีโร่ตัวเล็กๆที่มาดูแลคนในหมู่บ้านแทน
การเดินเรื่องระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายทำออกมาได้ดี ประกอบกับตัวหนังที่ถึงแม้จะยาว
แต่การดำเนินเรื่องนั้นชวนให้น่าติดตามตลอดไม่น่าเบื่อเลยสักนิด มีมุกตลกสอดแทรกที่ทำให้เรายิ้มตามได้
(โดยเฉพาะหลานชายตัวป่วนของพระเอกที่คอยแนะนำว่าการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต้องทำอะไรบ้าง)
ที่สำคัญคือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนในชนบทของอินเดียอย่างเป็นธรรมชาติ
และนั่นทำให้เราได้เข้าใจบริบทการกระทำของตัวแสดงแต่ละตัวได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
ขณะที่เอฟเฟ็คต์ต่างๆนั้น น่าประทับใจอย่างยิ่งครับ สู้พวกค่ายหนังยักษ์ใหญ่ได้อย่างสบาย
ขอย้ำเลยว่าฉากสู้กันในช่วงท้ายคือน่าปรบมือจริงๆ บู๊กันได้อย่างดุเดือดสมกับที่มีพลังพิเศษด้วยกันทั้งคู่ ไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่ที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือเส้นเรื่องของตัวร้ายศิปุครับ.. หนังทำให้เราเข้าใจว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงเป็นแบบนี้
สิ่งที่เขาได้โดนกระทำมาตลอด (ลึกๆ ผมนึกไปถึงนนทก ในรามเกียรติ์เลยนะครับ)
และภายหลังที่หญิงคนรักกลับมาพร้อมลูกสาว..การเฝ้ารอคอยตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมากำลังจะจบลง
ทว่าสิ่งที่เขากลับต้องพบเจอนั้นมันทำให้ความฝันทั้งหมดพังพินาศในชั่วพริบตา...
เอาจริงๆ ศิปุ เขาเป็นคนดีนะครับ แต่เพราะสิ่งรอบตัวนั่นล่ะที่ผลักให้เขาไปสู่ด้านมืดในใจจนไม่อาจจะกลับมาได้อีก
(พิมพ์ไปมันก็โจ๊กเกอร์ชัดๆเลยนี่หว่า) นำแสดงโดย Guru Somasundaram (เล่นดีมาก จนผมต้องไปตาม ig เลยครับ 55 )
แม้ว่าตัวหนังที่กว่าจะถ่ายทำเสร็จต้องเลื่อนไปถึง 2 ครั้งใน 2 ปี สาเหตุก็มาจากเรื่องของโควิด-19
รวมถึงการเข้าโรงก็ติดขัดด้วยเรื่องของภาวะโรคติดต่อในช่วงเวลานั้น แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ได้
โดยหลังจากเข้าไปใน Netflix กระแสตอบรับนั้นออกมาดีมากจนทำให้มีความคิดว่าอาจจะมีภาค 2 เลยด้วยซ้ำ ...
หากมีโอกาสอยากให้ลองชมกันดูนะครับ ว่าซูเปอร์ฮีโร่ที่คอยปกป้องหมู่บ้านเล็กๆคนนี้จะเท่ห์ได้ขนาดไหน
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Minnal Murali (2021) ..เทพสายฟ้า.. ซูเปอร์ฮีโร่ประจำหมู่บ้าน... ==
เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี 1980 ยุคสมัยที่การยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโซเชียลมีเดีย..
ณ หมู่บ้านเล็กๆในชนบทที่ชื่อว่า กุรุกกรรณมูล...
เจสัน ช่างตัดเสื้อหนุ่มมีความใฝ่ฝันที่จะได้ไปสร้างอนาคตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา
แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด เจสันมีปัญหาเรื่องเอกสารการเดินทาง..
มิหนำซ้ำแฟนสาวที่คบหาก็ไปหมั้นหมายกับชายอื่นเนื่องจากครอบครัวฝ่ายหญิงไม่อยากให้เขาไปคบหากับลูกสาวอีกด้วย
เจสัน กลุ้มใจกับชีวิตอย่างยิ่ง...
ขณะเดียวกัน ศิปุ ลูกจ้างร้านน้ำชาประจำหมู่บ้านที่มักโดนคนรอบข้างกลั่นแกล้งดูถูกเป็นประจำ
ก็กำลังกลัดกลุ้มใจเนื่องจาก อุษา หญิงที่เขาเฝ้าแอบรักมาเป็นเวลากว่า 28 ปี (แอบชอบตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ)
ได้กลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้งหลังจากหนีตามคนรักไปนานหลายปี ศิปุดีใจที่เห็นเธอกลับมาก็จริง
แต่ที่เป็นปัญหาก็คือลูกสาวของอุษาที่เกิดกับชายคนรักของเธอนั้นป่วยเป็นโรคร้ายซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน...
แน่นอนว่าอุษาไม่มีเงินมากขนาดนั้น.. การที่เห็นหญิงผู้เป็นที่รักมีปัญหา ศิปุจึงคิดว่าเขาต้องพยายามหาทางช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้ให้ได้
ในช่วงเวลานั้นทางโทรทัศน์ได้เสนอข่าวว่ากำลังจะมีปรากฎการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยม
โดยจะเกิดขึ้นทุกๆ 700 ปี และจะทำให้บนโลกเกิดสนามแม่เหล็ก และมีฟ้าแลบฟ้าผ่าได้ง่าย..
และในคืนวันคริสต์มาสอีฟนั้นเอง ทั้งเจสัน และ ศิปุ ชายทั้ง 2 ของหมู่บ้านกุรุกกรรณมูล ต่างก็ถูกฟ้าผ่าใส่เข้าอย่างจัง...
และหลังจากนั้นเขาทั้งคู่ก็ได้รับพลังพิเศษที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล.....
Minnal Murali หนังอินเดียภาษามลยาฬัม (อินเดียตอนใต้) เป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
เรื่องราว 2 ด้านระหว่างพระเอกเจสัน และตัวร้ายอย่างศิปุ ทั้งคู่ได้รับพลังเหนือธรรมชาติมาเหมือนกัน
แต่เป้าหมายในการใช้พลังนั้นเส้นทางของคนทั้งสองเป็นเส้นขนานอย่างสิ้นเชิง
เราคุ้นเคยกันดีครับกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ แน่นอนว่าล้วนมาจากอเมริกาแทบทั้งสิ้น
พอมาเป็นหนังอินเดียปุ๊บก็เลยทำให้เราได้สัมผัสถึงความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนที่เราเคยดูมาก่อน
Minnal Murali ได้เปลี่ยนให้ซูเปอร์ฮีโร่ ที่ปกป้องชาวโลกจากเหล่าร้ายที่จะมายึดครอง
กลายเป็นฮีโร่ตัวเล็กๆที่มาดูแลคนในหมู่บ้านแทน
การเดินเรื่องระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายทำออกมาได้ดี ประกอบกับตัวหนังที่ถึงแม้จะยาว
แต่การดำเนินเรื่องนั้นชวนให้น่าติดตามตลอดไม่น่าเบื่อเลยสักนิด มีมุกตลกสอดแทรกที่ทำให้เรายิ้มตามได้
(โดยเฉพาะหลานชายตัวป่วนของพระเอกที่คอยแนะนำว่าการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต้องทำอะไรบ้าง)
ที่สำคัญคือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนในชนบทของอินเดียอย่างเป็นธรรมชาติ
และนั่นทำให้เราได้เข้าใจบริบทการกระทำของตัวแสดงแต่ละตัวได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
ขณะที่เอฟเฟ็คต์ต่างๆนั้น น่าประทับใจอย่างยิ่งครับ สู้พวกค่ายหนังยักษ์ใหญ่ได้อย่างสบาย
ขอย้ำเลยว่าฉากสู้กันในช่วงท้ายคือน่าปรบมือจริงๆ บู๊กันได้อย่างดุเดือดสมกับที่มีพลังพิเศษด้วยกันทั้งคู่ ไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่ที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือเส้นเรื่องของตัวร้ายศิปุครับ.. หนังทำให้เราเข้าใจว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงเป็นแบบนี้
สิ่งที่เขาได้โดนกระทำมาตลอด (ลึกๆ ผมนึกไปถึงนนทก ในรามเกียรติ์เลยนะครับ)
และภายหลังที่หญิงคนรักกลับมาพร้อมลูกสาว..การเฝ้ารอคอยตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมากำลังจะจบลง
ทว่าสิ่งที่เขากลับต้องพบเจอนั้นมันทำให้ความฝันทั้งหมดพังพินาศในชั่วพริบตา...
เอาจริงๆ ศิปุ เขาเป็นคนดีนะครับ แต่เพราะสิ่งรอบตัวนั่นล่ะที่ผลักให้เขาไปสู่ด้านมืดในใจจนไม่อาจจะกลับมาได้อีก
(พิมพ์ไปมันก็โจ๊กเกอร์ชัดๆเลยนี่หว่า) นำแสดงโดย Guru Somasundaram (เล่นดีมาก จนผมต้องไปตาม ig เลยครับ 55 )
แม้ว่าตัวหนังที่กว่าจะถ่ายทำเสร็จต้องเลื่อนไปถึง 2 ครั้งใน 2 ปี สาเหตุก็มาจากเรื่องของโควิด-19
รวมถึงการเข้าโรงก็ติดขัดด้วยเรื่องของภาวะโรคติดต่อในช่วงเวลานั้น แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ได้
โดยหลังจากเข้าไปใน Netflix กระแสตอบรับนั้นออกมาดีมากจนทำให้มีความคิดว่าอาจจะมีภาค 2 เลยด้วยซ้ำ ...
หากมีโอกาสอยากให้ลองชมกันดูนะครับ ว่าซูเปอร์ฮีโร่ที่คอยปกป้องหมู่บ้านเล็กๆคนนี้จะเท่ห์ได้ขนาดไหน
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===