เปิดโรงงานผลิตยา 'อิมครานิบ 100' รักษา 3 โรคมะเร็ง แพทย์สั่งเบิกได้ทุกสิทธิ
ในอดีตประเทศไทยยังไม่มีศักยภาพในการผลิตยา Imatinib (อิมาทินิบ) ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งชนิดหนึ่ง ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ การที่โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ผลิตยา Imatinib ทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ถึง 100 % มีความมั่นคงทางยาของประเทศ สามารถทำให้ราคายาลดลง แพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา ที่รักษาผู้ป่วยมะเร็งสามารถสั่งจ่ายยาให้กับประชาชนทุกสิทธิได้
“อิมครานิบ 100” (IMCRANIB 100) เป็นยารักษามะเร็งชนิดมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ในรูปแบบเม็ดตำรับแรกที่ผลิตในประเทศไทย โดยโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ภายใต้พระปณิธานและพระวิริยะอุตสาหะของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ยานี้ประกอบด้วยตัวยาสำคัญอิมาทินิบ (Imatinib) 100 มิลลิกรัม ซึ่งยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส (Tyrosine Kinase Inhibitors) ช่วยควบคุมการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อย่างจำเพาะเจาะจง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 และตามแผนจะเริ่มใช้รักษาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ตั้งแต่เดือน สิงหาคมนี้เป็นต้นไป และกระจายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆตามความต้องการของแพทย์ภายในปีนี้
ลดนำเข้า-ประชาชนเข้าถึงทุกสิทธิ
ดร.ภก. วัชระ กาญจนกวินกุล ผอ.โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดําริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และในฐานะพนักงานคนแรก ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 50 คน กล่าวว่าการผลิตยา Imatinib ในประเทศจะช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ รักษาสมดุลตลาดเพื่อความยั่งยืน เป้าหมายคือจะผลิตเพื่อสนับสนุนภาคสาธารณสุขไม่เกิน 50 % ของปริมาณความต้องการใช้ยาทั้งหมด เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นยังคงอยู่รอดในตลาด และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่การทำลายธุรกิจของผู้อื่นไม่ได้มีเป้าหมายที่จะผูกขาดหรือทดแทนตลาดทั้งหมด
.
" ความมั่นคงทางยาที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงการผลิตโดยคนไทยเพียงคนเดียว แต่หมายถึงการมีหลายช่องทางให้ผู้ป่วยสามารถเลือกได้และมีการสำรองทุกช่องทางไว้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตภายในประเทศ หรือจากภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งผลิตยาในต่างประเทศได้ การมีทางเลือกที่หลากหลายนี้เป็นการสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนกว่า"
https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1192236?fbclid=IwQ0xDSwL4amJjbGNrAvhqX2V4dG4DYWVtAjExAAEeEvlZRUotL1cnUf2gjzUZH9vC4HFk3zwXYUeKI5gNAN6oSdoSN26nW1IBRzc_aem_gOBuBj10RxFljs_r83K2_A
เปิดโรงงานผลิตยา 'อิมครานิบ 100' รักษา 3 โรคมะเร็ง แพทย์สั่งเบิกได้ทุกสิทธิ
ในอดีตประเทศไทยยังไม่มีศักยภาพในการผลิตยา Imatinib (อิมาทินิบ) ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งชนิดหนึ่ง ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ การที่โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ผลิตยา Imatinib ทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ถึง 100 % มีความมั่นคงทางยาของประเทศ สามารถทำให้ราคายาลดลง แพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา ที่รักษาผู้ป่วยมะเร็งสามารถสั่งจ่ายยาให้กับประชาชนทุกสิทธิได้
“อิมครานิบ 100” (IMCRANIB 100) เป็นยารักษามะเร็งชนิดมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ในรูปแบบเม็ดตำรับแรกที่ผลิตในประเทศไทย โดยโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ภายใต้พระปณิธานและพระวิริยะอุตสาหะของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ยานี้ประกอบด้วยตัวยาสำคัญอิมาทินิบ (Imatinib) 100 มิลลิกรัม ซึ่งยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส (Tyrosine Kinase Inhibitors) ช่วยควบคุมการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อย่างจำเพาะเจาะจง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 และตามแผนจะเริ่มใช้รักษาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ตั้งแต่เดือน สิงหาคมนี้เป็นต้นไป และกระจายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆตามความต้องการของแพทย์ภายในปีนี้
ลดนำเข้า-ประชาชนเข้าถึงทุกสิทธิ
ดร.ภก. วัชระ กาญจนกวินกุล ผอ.โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดําริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และในฐานะพนักงานคนแรก ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 50 คน กล่าวว่าการผลิตยา Imatinib ในประเทศจะช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ รักษาสมดุลตลาดเพื่อความยั่งยืน เป้าหมายคือจะผลิตเพื่อสนับสนุนภาคสาธารณสุขไม่เกิน 50 % ของปริมาณความต้องการใช้ยาทั้งหมด เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นยังคงอยู่รอดในตลาด และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่การทำลายธุรกิจของผู้อื่นไม่ได้มีเป้าหมายที่จะผูกขาดหรือทดแทนตลาดทั้งหมด
.
" ความมั่นคงทางยาที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงการผลิตโดยคนไทยเพียงคนเดียว แต่หมายถึงการมีหลายช่องทางให้ผู้ป่วยสามารถเลือกได้และมีการสำรองทุกช่องทางไว้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตภายในประเทศ หรือจากภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งผลิตยาในต่างประเทศได้ การมีทางเลือกที่หลากหลายนี้เป็นการสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนกว่า"
https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1192236?fbclid=IwQ0xDSwL4amJjbGNrAvhqX2V4dG4DYWVtAjExAAEeEvlZRUotL1cnUf2gjzUZH9vC4HFk3zwXYUeKI5gNAN6oSdoSN26nW1IBRzc_aem_gOBuBj10RxFljs_r83K2_A