สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องเล่าหลอน ๆ ที่ได้ฟังมาสด ๆ ร้อน ๆ จากวงเหล้าที่บ้าน เป็นเรื่องที่พ่อผมเล่าให้ฟังเองกับปาก ตอนที่ผมนั่งกินเหล้าอยู่ด้วยกัน
พ่อเห็นผมนั่งพิมพ์มือถือ ก็ถามว่าหาเรื่องผีไปเล่าอยู่รึเปล่า ผมเลยตอบว่า ใช่ครับ แกเลยหัวเราะแล้วบอกว่า
> "มีเรื่องนึง เล่าให้ฟังมั้ย? เรื่องนี้มันอยู่แถวบ้านเรานี่แหละ…ตาน้อย เพื่อนพ่อเอง"
ฟังชื่อก็ดูธรรมดา แต่พอฟังจนจบ ผมนี่ขนลุกไปหมด…
---
ตาน้อย...เพื่อนพ่อ
ตอนนี้ใครเดินผ่านท้ายหมู่บ้านผม ก็น่าจะเคยเห็นชายวัยกลางคน เดินถอดเสื้อ พูดคนเดียวบ้าง เก็บเศษอาหารตามถังขยะบ้าง คนส่วนใหญ่จะคิดว่าแก “บ้า” แต่พ่อผมบอกว่า แกชื่อ "น้อย" เป็นเพื่อนพ่อสมัยเรียน และเคยมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ มาก่อน
แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?
เรื่องมันเริ่มจากที่ตาน้อยทำงานรับเหมาสร้างบ้าน อยู่มาวันหนึ่งเก็บเงินได้ก้อนใหญ่ เลยซื้อที่ดินท้ายหมู่บ้านติดบึง เตรียมปลูกบ้านในฝัน
พอวันขึ้นบ้านใหม่ กำลังจัดงานกันอยู่ดี ๆ ก็มีชายแก่ แต่งตัวคล้ายฤษี เดินเข้ามาพูดกับตาน้อยว่า...
> “ที่ตรงนี้เคยเป็นป่าช้าเก่า มีคนเอาของไม่ดีมาทิ้งไว้บ่อย ๆ อยู่ไปไม่ดีหรอก ออกไปซะ”
ตาน้อยไม่อยากทิ้งที่ เพราะทุ่มทั้งชีวิตไว้กับตรงนี้ เลยถามว่าควรทำยังไงดี ฤษีก็เลยบอกว่า...
> “ทุกวันต้องเอาของกินไปวางไว้ตรงบึง ห้ามขาดเด็ดขาด และห้ามไปแถวนั้นตอนกลางคืนเด็ดขาด ไม่งั้น...บ้านจะไม่สงบ”
จากนั้น ฤษีก็เดินหายไปเฉย ๆ
ตอนแรกตาน้อยก็ทำตามเป๊ะทุกวัน แต่พอหลัง ๆ งานยุ่ง เลยให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คนผลัดกันไปแทน แต่ด้วยความที่เด็ก บางทีก็ลืม บางทีก็ไม่อยากทำ
แล้วเรื่องก็เริ่ม…
---
จุดเริ่มของคำสาป
วันหนึ่ง ลูกสาวคนเล็กของตาน้อย จมน้ำตายที่บึง ขณะไปตกปลากับเพื่อน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงจมน้ำ ทั้งที่ว่ายน้ำเป็น
ตาน้อยเสียใจมาก และอีกไม่กี่ปีถัดมา ลูกสาวคนกลางก็มาป่วยอย่างไร้สาเหตุ ไปหาหมอหลายที่ก็ไม่ดีขึ้น จนสุดท้ายเสียชีวิต
วันงานศพ มีพระรูปหนึ่งเดินมาทักว่า
> “ลืมอะไรไปรึเปล่าโยม รีบกลับไปทำก่อนจะเสียอะไรไปมากกว่านี้”
ตาน้อยรีบถามลูกอีก 3 คน ปรากฏว่าไม่มีใครได้ถวายของตรงบึงเลยในช่วงนั้น แกก็เลยรีบกลับไปทำตามอีกครั้ง
แต่เรื่องยังไม่จบ...
---
เมื่อ “ของ” ไม่พอใจ
อีกไม่กี่ปีถัดมา เมียของตาน้อยก็ “ไหลตาย” โดยไม่มีสาเหตุ แถมในบ้านเริ่มมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเป็นระยะ
ตาน้อยเลยเริ่มหาวิธีหยุดเรื่องทั้งหมด โดยหันไปเรียนสายไสยศาสตร์ ทั้งสายขาวสายดำ หมกมุ่นจนถึงขั้นเอาลูกตัวเองไปทำพิธีบางอย่าง...
จนญาติต้องแยกลูก ๆ ของตาน้อยไปอยู่ที่อื่น และคนในหมู่บ้านก็ตีตัวออกห่าง
ไม่นานนัก ตาน้อยก็เริ่ม "เสียสติ" เหมือนที่ใคร ๆ เห็นทุกวันนี้
---
“กูไม่ได้บ้า พวกมันทำให้กูบ้า...”
พ่อผมเล่าต่อว่า วันหนึ่งขับรถผ่านบ้านตาน้อย ช่วงเกือบ 6 โมงเย็น ขณะกลับจากหาปลา ผ่านหน้าบ้านพอดี
พ่อได้ยินเสียงคนคุยกันหลายคน เลยนึกว่าแกมีแขกมาหา แต่พอแอบมองเข้าไป...กลับเห็น “เงาดำ ๆ” เต็มไปหมดอยู่รอบตัวตาน้อย
ตาน้อยกำลังถือถาดข้าวปลา และพูดขึ้นเสียงดังว่า...
> “พวกยังไม่พออีกเหรอ! ต้องการอะไรจากกูอีก!”
พ่อกำลังจะเดินออกมา แต่ดันได้ยินเสียง "ตู้ม!" เหมือนอะไรใหญ่ ๆ ตกลงในบึง หันไปมอง เห็น เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนอยู่บนผิวน้ำ แล้วพูดว่า...
> “ทางนี้มีปลานะลุง...”
เท่านั้นแหละ พ่อรีบวิ่งกลับเลย ระหว่างวิ่งกลับ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ ตามมาตลอดทาง
พอวิ่งจนพ้นรัศมีบ้านตาน้อย ก็มีคนยืนขวางอยู่ข้างหน้า
นั่นคือตาน้อย แกยืนมองพ่อแล้วพูดว่า...
> “เห็นรึยัง...กูไม่ได้บ้า...พวกมันทำให้กูบ้า!!”
พูดจบ แกหัวเราะทั้งน้ำตา แล้วเดินผ่านพ่อไปเงียบ ๆ
---
สุดท้าย...
เรื่องนี้พ่อผมเล่าให้ฟังจนจบ พร้อมพูดเบา ๆ ว่า “มันยังมีอีกเยอะนะ เรื่องของไอ้น้อย…”
ใครที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับผมหรือเคยเจอตาน้อย ชายวัยกลางคนที่ชอบถอดเสื้อเดินเก็บเศษอาหาร ลองทบทวนดูดี ๆ
บางที...เขาอาจไม่ใช่ "บ้า" อย่างที่คิดก็ได้
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ถ้าใครสนใจเรื่องแนวนี้ เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อจากเรื่องที่เพื่อนพ่อเคยเจออีกนะครับ ✍️
🩸 [เรื่องเล่า] "ตาน้อย...ไม่ใช่คนบ้า แต่เขาโดนของ" 🩸 (ประสบการณ์จริงจากปากพ่อผม)
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องเล่าหลอน ๆ ที่ได้ฟังมาสด ๆ ร้อน ๆ จากวงเหล้าที่บ้าน เป็นเรื่องที่พ่อผมเล่าให้ฟังเองกับปาก ตอนที่ผมนั่งกินเหล้าอยู่ด้วยกัน
พ่อเห็นผมนั่งพิมพ์มือถือ ก็ถามว่าหาเรื่องผีไปเล่าอยู่รึเปล่า ผมเลยตอบว่า ใช่ครับ แกเลยหัวเราะแล้วบอกว่า
> "มีเรื่องนึง เล่าให้ฟังมั้ย? เรื่องนี้มันอยู่แถวบ้านเรานี่แหละ…ตาน้อย เพื่อนพ่อเอง"
ฟังชื่อก็ดูธรรมดา แต่พอฟังจนจบ ผมนี่ขนลุกไปหมด…
---
ตาน้อย...เพื่อนพ่อ
ตอนนี้ใครเดินผ่านท้ายหมู่บ้านผม ก็น่าจะเคยเห็นชายวัยกลางคน เดินถอดเสื้อ พูดคนเดียวบ้าง เก็บเศษอาหารตามถังขยะบ้าง คนส่วนใหญ่จะคิดว่าแก “บ้า” แต่พ่อผมบอกว่า แกชื่อ "น้อย" เป็นเพื่อนพ่อสมัยเรียน และเคยมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ มาก่อน
แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?
เรื่องมันเริ่มจากที่ตาน้อยทำงานรับเหมาสร้างบ้าน อยู่มาวันหนึ่งเก็บเงินได้ก้อนใหญ่ เลยซื้อที่ดินท้ายหมู่บ้านติดบึง เตรียมปลูกบ้านในฝัน
พอวันขึ้นบ้านใหม่ กำลังจัดงานกันอยู่ดี ๆ ก็มีชายแก่ แต่งตัวคล้ายฤษี เดินเข้ามาพูดกับตาน้อยว่า...
> “ที่ตรงนี้เคยเป็นป่าช้าเก่า มีคนเอาของไม่ดีมาทิ้งไว้บ่อย ๆ อยู่ไปไม่ดีหรอก ออกไปซะ”
ตาน้อยไม่อยากทิ้งที่ เพราะทุ่มทั้งชีวิตไว้กับตรงนี้ เลยถามว่าควรทำยังไงดี ฤษีก็เลยบอกว่า...
> “ทุกวันต้องเอาของกินไปวางไว้ตรงบึง ห้ามขาดเด็ดขาด และห้ามไปแถวนั้นตอนกลางคืนเด็ดขาด ไม่งั้น...บ้านจะไม่สงบ”
จากนั้น ฤษีก็เดินหายไปเฉย ๆ
ตอนแรกตาน้อยก็ทำตามเป๊ะทุกวัน แต่พอหลัง ๆ งานยุ่ง เลยให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คนผลัดกันไปแทน แต่ด้วยความที่เด็ก บางทีก็ลืม บางทีก็ไม่อยากทำ
แล้วเรื่องก็เริ่ม…
---
จุดเริ่มของคำสาป
วันหนึ่ง ลูกสาวคนเล็กของตาน้อย จมน้ำตายที่บึง ขณะไปตกปลากับเพื่อน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงจมน้ำ ทั้งที่ว่ายน้ำเป็น
ตาน้อยเสียใจมาก และอีกไม่กี่ปีถัดมา ลูกสาวคนกลางก็มาป่วยอย่างไร้สาเหตุ ไปหาหมอหลายที่ก็ไม่ดีขึ้น จนสุดท้ายเสียชีวิต
วันงานศพ มีพระรูปหนึ่งเดินมาทักว่า
> “ลืมอะไรไปรึเปล่าโยม รีบกลับไปทำก่อนจะเสียอะไรไปมากกว่านี้”
ตาน้อยรีบถามลูกอีก 3 คน ปรากฏว่าไม่มีใครได้ถวายของตรงบึงเลยในช่วงนั้น แกก็เลยรีบกลับไปทำตามอีกครั้ง
แต่เรื่องยังไม่จบ...
---
เมื่อ “ของ” ไม่พอใจ
อีกไม่กี่ปีถัดมา เมียของตาน้อยก็ “ไหลตาย” โดยไม่มีสาเหตุ แถมในบ้านเริ่มมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเป็นระยะ
ตาน้อยเลยเริ่มหาวิธีหยุดเรื่องทั้งหมด โดยหันไปเรียนสายไสยศาสตร์ ทั้งสายขาวสายดำ หมกมุ่นจนถึงขั้นเอาลูกตัวเองไปทำพิธีบางอย่าง...
จนญาติต้องแยกลูก ๆ ของตาน้อยไปอยู่ที่อื่น และคนในหมู่บ้านก็ตีตัวออกห่าง
ไม่นานนัก ตาน้อยก็เริ่ม "เสียสติ" เหมือนที่ใคร ๆ เห็นทุกวันนี้
---
“กูไม่ได้บ้า พวกมันทำให้กูบ้า...”
พ่อผมเล่าต่อว่า วันหนึ่งขับรถผ่านบ้านตาน้อย ช่วงเกือบ 6 โมงเย็น ขณะกลับจากหาปลา ผ่านหน้าบ้านพอดี
พ่อได้ยินเสียงคนคุยกันหลายคน เลยนึกว่าแกมีแขกมาหา แต่พอแอบมองเข้าไป...กลับเห็น “เงาดำ ๆ” เต็มไปหมดอยู่รอบตัวตาน้อย
ตาน้อยกำลังถือถาดข้าวปลา และพูดขึ้นเสียงดังว่า...
> “พวกยังไม่พออีกเหรอ! ต้องการอะไรจากกูอีก!”
พ่อกำลังจะเดินออกมา แต่ดันได้ยินเสียง "ตู้ม!" เหมือนอะไรใหญ่ ๆ ตกลงในบึง หันไปมอง เห็น เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนอยู่บนผิวน้ำ แล้วพูดว่า...
> “ทางนี้มีปลานะลุง...”
เท่านั้นแหละ พ่อรีบวิ่งกลับเลย ระหว่างวิ่งกลับ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ ตามมาตลอดทาง
พอวิ่งจนพ้นรัศมีบ้านตาน้อย ก็มีคนยืนขวางอยู่ข้างหน้า
นั่นคือตาน้อย แกยืนมองพ่อแล้วพูดว่า...
> “เห็นรึยัง...กูไม่ได้บ้า...พวกมันทำให้กูบ้า!!”
พูดจบ แกหัวเราะทั้งน้ำตา แล้วเดินผ่านพ่อไปเงียบ ๆ
---
สุดท้าย...
เรื่องนี้พ่อผมเล่าให้ฟังจนจบ พร้อมพูดเบา ๆ ว่า “มันยังมีอีกเยอะนะ เรื่องของไอ้น้อย…”
ใครที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับผมหรือเคยเจอตาน้อย ชายวัยกลางคนที่ชอบถอดเสื้อเดินเก็บเศษอาหาร ลองทบทวนดูดี ๆ
บางที...เขาอาจไม่ใช่ "บ้า" อย่างที่คิดก็ได้
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ถ้าใครสนใจเรื่องแนวนี้ เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อจากเรื่องที่เพื่อนพ่อเคยเจออีกนะครับ ✍️