🏆 10 อันดับแบรนด์รถขายดีสุด (เฉพาะ 5 อันดับแรกที่เปิดเผย)
1. Toyota (ยังคงแชมป์)
2. Isuzu
3. Honda
4. BYD (จีนมาแรง!)
5. Mitsubishi
📌 ตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรก 68
✅ ยอดขายรวม: 302,694 คัน (ลดลง 1.7%)
🚗 รถยนต์นั่ง: 117,482 คัน (ลดลง 1.5%)
🚚 รถเพื่อการพาณิชย์: 185,212 คัน (ลดลง 1.8%)
🛻 รถกระบะ 1 ตัน: 94,715 คัน (ลดลงถึง 12.7%)
⚡ ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV) โตแรง!
มียอดขายรวม 132,493 คัน (คิดเป็น 43.8% ของตลาดทั้งหมด)
🔋 HEV (ไฮบริด): 67,202 คัน (ใกล้เคียงปีก่อน)
🔌 BEV (รถไฟฟ้าล้วน): 56,529 คัน (โตพุ่ง 54.5%!)
🔮 แนวโน้มตลาดครึ่งปีหลัง 68
- ภาพรวม “ทรงตัวหรือลดลง” จากปีก่อน
- ปัจจัยลบ: เศรษฐกิจยังซึม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นเต็มที่
- ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศ เช่น ข้อตกลงการค้า, สงครามชายแดน, ภูมิรัฐศาสตร์
- 🚗 โตโยต้ายังตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 231,000 คัน (โตขึ้น 5%) พร้อมแผนเปิดตัวรุ่นใหม่หลายรุ่นในตลาดรถนั่ง-พาณิชย์-และ xEV
⚠️ ปรับลดเป้าการผลิตรถปีนี้ลง 50,000 คัน
จากข้อมูลของ ส.อ.ท.:
- เป้าผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้เหลือ 1,450,000 คัน
- โดยเฉพาะ “เพื่อการส่งออก” เหลือ 950,000 คัน
- สาเหตุหลักที่กระทบการผลิต:
- ภาษีศุลกากรสหรัฐฯ
- เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
- ข้อกำหนดคาร์บอนที่เข้มขึ้น
- ปรับไลน์การผลิตรุ่นใหม่
- คู่แข่งในตลาดส่งออกมากขึ้น
🔍 สรุปสั้น ๆ
- ตลาดรถยนต์ครึ่งปีแรก “ติดลบเล็กน้อย”
- รถกระบะดิ่งแรง
- xEV โดยเฉพาะ EV จากจีนมาแรงต่อเนื่อง
- ญี่ปุ่นเริ่มเสียพื้นที่
- ครึ่งปีหลังยังต้องจับตา ปัจจัยลบรุมเยอะ แต่ก็มีโอกาสพลิกได้หากสินค้าใหม่โดนใจ
ที่มา thansettakij
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช็ก 10 อันดับยี่ห้อรถขายดีสุดครึ่งปีแรก 68 ญี่ปุ่นยอดหด -EV จีนยอดพุ่ง เปิดตัวเลขยอดขายรถยนต์ครึ่งปีแรก 2568 เช็กเลยยี่ห้อใด แบรนด์ไหนขายดีสุด 10 อันดับแรก พร้อมส่องสถานการณ์ภาพรวมตลาดครึ่งปีหลัง รุ่งหรือร่วง บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย รายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์ครึ่งปีแรก 2568 (มกราคม -มิถุนายน) โดยตลาดรถยนต์รวมทำยอดขายได้ทั้งสิ้น 302,694 คัน ลดลง 1.7% กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 117,482 คัน ลดลง 1.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 185,212 คัน ลดลง 1.8% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 94,715 คัน ลดลง12.7% ขณะที่ตลาด xEV มียอดขาย 132,493 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.8% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 21.8% ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ HEVอยู่ที่ 67,202 คัน ซึ่งยอดขายรวมอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 56,529 คัน เติบโตขึ้น 54.5 % เมื่อมาดูแบรนด์รถยนต์ที่ยอดขายดี 5 อันดับแรก พบว่าอันดับ 1 ยังคงเป็นโตโยต้า ตามมาด้วย อีซูซุ และฮอนด้า ส่วนแบรนด์จากจีนอย่าง บีวายดี อยู่อันดับ 4 และมิตซูบิชิ อยู่อันดับ 5 ทั้งนี้ยอดขายจากแบรนด์ญี่ปุ่นนั้นลดลง แต่ในส่วนของแบรนด์จีน ยังคงมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยระบุว่า แนวโน้มทรงตัว หรือลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอาจลดหรือชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายออกไป เพื่อรอความชัดเจนด้านต่างๆ จากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนระหว่างสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีโตโยต้ายังคงคาดการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2568 ไว้ที่ระดับ 600,000 คัน โดยในส่วนของโตโยต้า ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 38.5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลัง โตโยต้ามีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงตลาด xEV ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ได้มีการปรับเป้าผลิตรถยนต์ของปี 2568 จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,500,000 คัน ก็ได้ปรับลดลงเป็น 1,450,000 คัน หรือ ลดลง 50,000 คัน โดยเป็นการปรับเป้าเฉพาะผลิตเพื่อส่งออก 5 % จาก 1,000,000 คันเป็น 950,000 คัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับลดเป้าหมายการผลิตเพื่อการส่งออก ประกอบไปด้วย มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อและยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลง การเพิ่มความเข้มงวดด้านข้อกำหนดการปล่อยคาร์บอน การยุติการผลิตรถยนต์บางรุ่นเพื่อปรับไลน์การผลิตสู่รุ่นใหม่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคของโลก การรุกตลาดของรถยนต์ในประเทศคู่ค้า ซึ่งเพิ่มการแข่งขันและกดดันยอดขาย
[สรุปข่าว] เช็ก 10 อันดับยี่ห้อรถขายดีสุดครึ่งปีแรก 2568 | รถญี่ปุ่นยอดหด - รถไฟฟ้าจีนแรงไม่หยุด!
1. Toyota (ยังคงแชมป์)
2. Isuzu
3. Honda
4. BYD (จีนมาแรง!)
5. Mitsubishi
📌 ตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรก 68
✅ ยอดขายรวม: 302,694 คัน (ลดลง 1.7%)
🚗 รถยนต์นั่ง: 117,482 คัน (ลดลง 1.5%)
🚚 รถเพื่อการพาณิชย์: 185,212 คัน (ลดลง 1.8%)
🛻 รถกระบะ 1 ตัน: 94,715 คัน (ลดลงถึง 12.7%)
⚡ ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV) โตแรง!
มียอดขายรวม 132,493 คัน (คิดเป็น 43.8% ของตลาดทั้งหมด)
🔋 HEV (ไฮบริด): 67,202 คัน (ใกล้เคียงปีก่อน)
🔌 BEV (รถไฟฟ้าล้วน): 56,529 คัน (โตพุ่ง 54.5%!)
🔮 แนวโน้มตลาดครึ่งปีหลัง 68
- ภาพรวม “ทรงตัวหรือลดลง” จากปีก่อน
- ปัจจัยลบ: เศรษฐกิจยังซึม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นเต็มที่
- ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศ เช่น ข้อตกลงการค้า, สงครามชายแดน, ภูมิรัฐศาสตร์
- 🚗 โตโยต้ายังตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 231,000 คัน (โตขึ้น 5%) พร้อมแผนเปิดตัวรุ่นใหม่หลายรุ่นในตลาดรถนั่ง-พาณิชย์-และ xEV
⚠️ ปรับลดเป้าการผลิตรถปีนี้ลง 50,000 คัน
จากข้อมูลของ ส.อ.ท.:
- เป้าผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้เหลือ 1,450,000 คัน
- โดยเฉพาะ “เพื่อการส่งออก” เหลือ 950,000 คัน
- สาเหตุหลักที่กระทบการผลิต:
- ภาษีศุลกากรสหรัฐฯ
- เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
- ข้อกำหนดคาร์บอนที่เข้มขึ้น
- ปรับไลน์การผลิตรุ่นใหม่
- คู่แข่งในตลาดส่งออกมากขึ้น
🔍 สรุปสั้น ๆ
- ตลาดรถยนต์ครึ่งปีแรก “ติดลบเล็กน้อย”
- รถกระบะดิ่งแรง
- xEV โดยเฉพาะ EV จากจีนมาแรงต่อเนื่อง
- ญี่ปุ่นเริ่มเสียพื้นที่
- ครึ่งปีหลังยังต้องจับตา ปัจจัยลบรุมเยอะ แต่ก็มีโอกาสพลิกได้หากสินค้าใหม่โดนใจ
ที่มา thansettakij
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้