ไทยฟ้อง ‘ยูเอ็น’ ชี้กัมพูชาเมินหยุดยิง เล็งพาคณะทูตทหารลงพื้นที่ชายแดน 1 ส.ค.
.
.
กต.เผยไทยส่งหนังสือแจ้ง 'สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น-มาเลเซีย' มีหลักฐานมัดกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไทยเล็งนำคณะทูตทหารลงพื้นที่ชายแดน 1 ส.ค. ซัดกัมพูชาบิดเบือนคำพูดว่าที่ทูตสหรัฐ ย้ำไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแม้แต่ครั้งเดียว ผิดหวังกลาโหมกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ ระบุรมต.ญี่ปุ่นต่อสายคุย 'มาริษ' หนุนท่าทีของไทย
.
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. เวลา 17.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า กรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค.2568 นั้น ฝ่ายไทยมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งและในหลายพื้นที่ อาทิ การยิงปืนเล็กหรือยิงระเบิดเข้ามาในเขตแดนไทย การเพิ่มกำลังพลเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งไทยได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการละเมิดดังกล่าวของกัมพูชา ไปยังประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงสหรัฐอเมริกา จีน และส่งถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายทาเคชิ อิวายะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (30 ก.ค.) เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา และฝ่ายญี่ปุ่นสนับสนุนท่าทีของไทยที่ใช้ช่องทางทวิภาคีในการหาข้อสรุปและแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
.
“ไทยขอย้ำว่ายังยึดมั่นว่าทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และมุ่งแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เรารักษาคำพูด ไม่เคยละเมิดข้อตกลงแม้แต่ครั้งเดียว แต่กัมพูชาละเมิดกฎบ่อยครั้ง ไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิงด้วยความจริงใจ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
.
นายนิกรเดช กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษากัมพูชาออกแถลงการณ์ห่วงใยและกังวลเกี่ยวกับการคุกคาม การทำร้ายแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย รวมทั้งเรียกร้องให้ผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้าและผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าจากไทยร่วมกดดัน ให้มีการประกันงานแบบมีคุณภาพและไม่เลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชานั้น กระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่าไทยเคารพในสิทธิของแรงงานต่างด้าวจากทุกประเทศ รวมถึงแรงงานต่างด้าวได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม สำหรับการที่กัมพูชาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารนั้น ไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อการที่กัมพูชายังเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารผ่านกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่มีเป้าหมายปกปิดความจริง ทำลายความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ อีกทั้งขอยืนยันว่าไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมี ส่วนรูปที่กัมพูชากล่าวอ้างก็เป็นเฟคนิวส์ โฆษกทหารของกัมพูชานำภาพการดับไฟป่าในประเทศอื่นมาบิดเบือนข้อมูล จึงขอให้สื่อมวลชนและสาธารณชนอย่าหลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูลจากกัมพูชา
.
นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า การที่กัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับสื่อสารกับนานาประเทศว่า ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำนั้น เป็นหลักฐานชัดเจนว่ากัมพูชาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร สะท้อนถึงความไม่จริงใจในการร่วมแก้ปัญหา ซึ่งการกระทำเช่นนี้บั่นทอนความไว้วางใจ ความพยายามทั้ง 2 ฝ่ายที่จะฟื้นฟูสันติภาพและการสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการเจรจา อีกทั้งเป็นอุปสรรคที่จะทำให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติอย่างยั่งยืน ขณะที่บทบาทของเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกได้ชี้แจงและเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับสถานการณ์ ท่าที และหลักการสากลที่ไทยยึดถือ ไปให้รัฐบาล องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน ท้องถิ่น ชุมชนไทยในต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และเข้าใจจุดยืนของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้ง และกลับเข้าสู่การเจรจากับกัมพูชาบนพื้นฐานของความจริงใจ นอกจากนี้ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ 4 สำนัก และคณะผู้แทนถาวรประจำอาเซียน กำลังชี้แจงจุดยืนข้อเท็จจริงของไทยในเวทีโลก ภายใต้อนุสัญญาต่าง ๆ เพื่อยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย
.
นายนิกรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอวิงวอนให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและทุกหน่วยงานได้บูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพดินแดน ศักดิ์ศรี สถานะของไทยระหว่างประเทศ และยึดถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของคนไทยไว้เหนือสิ่งอื่นใดเสมอมา
.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายฌอน เค. โอนีลล์ ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เตือนไทยว่าการทำสงครามกับเพื่อนบ้านจะเป็นอันตรายต่อความเป็นพันธมิตรระหว่างไทยและสหรัฐ นายนิกรเดช กล่าวว่า เป็นการพูดจริง โดยนายโอนีลล์ถูกถามในการประชุมวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อพิจารณารับรองของวุฒิสภาสหรัฐ ในการไปเป็นทูตประจำประเทศไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชานำไปปั่นกระแสเสมือนว่านายโอนีลล์โจมตีไทย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย
.
เมื่อถามว่ากัมพูชาเชิญผู้ช่วยทูตทหารจาก 13 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนบริเวณจุดผ่อนปรนช่องอานม้า นายนิกรเดช กล่าวว่า เราไม่กังวล และกัมพูชามีสิทธิเชิญผู้ช่วยทูตทหาร แต่คนที่กังวลควรจะเป็นกัมพูชามากว่า เพราะเขาเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เพราะฉะนั้น ถ้าคณะทูตสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดจริง ก็คงเห็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะนำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศและสื่อมวลชนลงพื้นที่เช่นกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อจะได้เห็นสถานที่และข้อเท็จจริงในการทำร้ายประชาชนที่ไม่ใช่ทหาร ซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานให้กับผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มประเทศอาเซียน มาเลเซีย สหรัฐ และจีน ทั้งนี้ การที่ไทยประสานนำคณะทูตลงพื้นที่ล่าช้า เพราะต้องมีความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของผู้ช่วยทูตทหาร เนื่องจากเราคาดการณ์ไม่ได้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะละเมิดการหยุดยิงอีกเมื่อไหร่
.
.
ซึมเศร้าเครียด 1 คน เสียชีวิตทางอ้อมจากเหตุปะทะชายแดน
https://news.ch7.com/detail/818135
.
บ่นอยากกลับบ้าน ซึมเศร้าเครียด 1 คน เสียชีวิตทางอ้อมจากเหตุปะทะชายแดน อพยพมาลงทะเบียนในศูนย์พักพิง แต่พักบ้านญาติ ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 16 คน
.
วันนี้ (30 ก.ค.68) กระทรวงสาธารณสุขสรุปข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา อัปเดตเมื่อเวลา 13.00 น. ล่าสุดได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน โดยเป็นผู้พักอาศัยในศูนย์อพยพแห่งหนึ่ง เพศชาย อายุ 65 ปี เป็นชาวอุบลราชธานี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มีประวัติมาเข้าพักในศูนย์อพยพเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 พร้อมลูก 4 คน แต่ผู้เสียชีวิตมักบ่นว่าอยากกลับบ้าน รู้สึกหงุดหงุดหงิด กระทั่งวานนี้ (29 ก.ค. 68) ญาติแจ้งว่า ไม่พบผู้ประสบเหตุ จึงออกตามหาเพื่อร่วมกิจกรรม MCATT และรับประทานอาหารกลางวัน แต่หาไม่พบจนถึงเวลา 22.00 น.
.
ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ค. 68) ทีมผู้นำ และชาวบ้านที่ออกตามหา พบร่างผู้เสียชีวิตผูกคอ ห่างจากศูนย์อพยพฯ 1 กม. ส่งชันสูตรพลิกศพ รพร.เดชอุดม ไม่พบประวัติการรักษายาเสพติดหรือโรคเรื้อรังในระบบ ญาติระบุเคยมีโรคเรื้อรัง รับยาที่ รจพ.พระศรีมหาโพธิ นานกว่า 10 ปี มีพฤติกรรมแยกตัว ชอบอยู่คนเดียว ไม่พบประวัติใช้สารเสพติด ก่อนเสียชีวิตมีอาการอยากกลับบ้านสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ผู้เสียชีวิต มาลงทะเบียนในศูนย์พักพิง แต่ไม่ได้อยู่ประจำที่ศูนย์ นอนพักที่บ้านญาติ
.
ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติป่วยซึมเศร้าและมีภาวะเครียด โดยเป็นผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากสถานการณ์การสู้รบเป็นคนที่ 2 ก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตทางอ้อม 1 คน จากอาการป่วย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน
.
.
ปวิน มองทูตสหรัฐ ท่าทีชัด มุ่งยุติขัดแย้ง แนะถ้าไม่อยากเสียพันธมิตร แบบเสียจีนให้เขมร ควรเลิกพูดเรื่องรบต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5300055
.
ปวิน มองทูตสหรัฐ ท่าทีชัด มุ่งยุติขัดแย้ง แนะถ้าไม่อยากเสียพันธมิตร แบบเสียจีนให้เขมร คนในรัฐบาล ควรเลิกพูด เรื่องรบต่อ
.
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ดร.
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น อดีตนักการทูต กระทรวงการต่างประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงท่าที่ของ นาย
ฌอน เค. โอนีลล์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อ โดย ประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่ว่า
.
จากข่าวที่ นายฌอน เค. โอนีลล์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยคนใหม่ ได้แสดงท่าทีชัดเจนต่อกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ มองว่า การปะทะกันที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนไทย หรือต่อความเป็นพันธมิตรที่สำคัญระหว่างสองประเทศเลย
.
จุดยืนนี้สะท้อนความต้องการของสหรัฐฯ ที่จะเห็นความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ใช้เรื่องการเจรจาการค้าเป็นเครื่องมือในการกดดันให้ไทย และกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ยิ่งตอกย้ำว่า สหรัฐฯ พร้อมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการยุติความขัดแย้ง โดยมองไทยเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางสนธิสัญญาไม่กี่ประเทศในเอเชียที่สหรัฐฯ ยังคงให้ความสำคัญ และคาดหวังให้ไทยดำเนินบทบาทที่นำไปสู่สันติภาพอย่างแท้จริง
.
ดังนั้น เพื่อให้สหรัฐฯ หันมาสนับสนุนประเทศไทยในบริบทของความขัดแย้งชายแดนนี้ได้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือไทยต้องแสดงออกถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ และจริงจังในการยุติความขัดแย้งและมุ่งสู่ข้อตกลงสันติภาพระยะยาวกับกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และสร้างกลไกในการแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่างสันติวิธี จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่ส่งไปถึงสหรัฐฯว่า ไทยมีความรับผิดชอบและพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค การแสดงออกถึงการยอมรับหลักการและกลไกสากลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงการเปิดกว้างต่อบทบาทของผู้สังเกตการณ์หรือคนกลางหากจำเป็น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ ว่าไทยกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่การสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทั้งในด้านการทูต การเมือง และอาจรวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพในระยะยาวด้วย
.
กัมพูชาได้จีนไปเป็นพันธมิตรแล้ว เราจะเดินออกจากสหรัฐฯหรอ ถ้าไม่อยากเสียพันธมิตรนี้ไป ก็ไม่ควรให้คนสื่อสารของรัฐบาลพูดเรื่องรบต่อ รบต่อ รบต่อ อีกต่อไป
.
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/pfbid02q2a6Y4Jpc2saTUh9JeqwhXAbwUXioYWueL7KYPzAJweigwgwij2KV7X5txWuyGHnl
JJNY : 5in1 ชี้กัมพูชาเมินหยุดยิง│ซึมเศร้าเสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดน│ปวินมองทูตสหรัฐ│ส.อ.ท.ห่วงเฟกนิวส์│วาฬ 4 ตัวเกยตื้น
.
.
วันนี้ (30 ก.ค.68) กระทรวงสาธารณสุขสรุปข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา อัปเดตเมื่อเวลา 13.00 น. ล่าสุดได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน โดยเป็นผู้พักอาศัยในศูนย์อพยพแห่งหนึ่ง เพศชาย อายุ 65 ปี เป็นชาวอุบลราชธานี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มีประวัติมาเข้าพักในศูนย์อพยพเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 พร้อมลูก 4 คน แต่ผู้เสียชีวิตมักบ่นว่าอยากกลับบ้าน รู้สึกหงุดหงุดหงิด กระทั่งวานนี้ (29 ก.ค. 68) ญาติแจ้งว่า ไม่พบผู้ประสบเหตุ จึงออกตามหาเพื่อร่วมกิจกรรม MCATT และรับประทานอาหารกลางวัน แต่หาไม่พบจนถึงเวลา 22.00 น.
.
ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ค. 68) ทีมผู้นำ และชาวบ้านที่ออกตามหา พบร่างผู้เสียชีวิตผูกคอ ห่างจากศูนย์อพยพฯ 1 กม. ส่งชันสูตรพลิกศพ รพร.เดชอุดม ไม่พบประวัติการรักษายาเสพติดหรือโรคเรื้อรังในระบบ ญาติระบุเคยมีโรคเรื้อรัง รับยาที่ รจพ.พระศรีมหาโพธิ นานกว่า 10 ปี มีพฤติกรรมแยกตัว ชอบอยู่คนเดียว ไม่พบประวัติใช้สารเสพติด ก่อนเสียชีวิตมีอาการอยากกลับบ้านสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ผู้เสียชีวิต มาลงทะเบียนในศูนย์พักพิง แต่ไม่ได้อยู่ประจำที่ศูนย์ นอนพักที่บ้านญาติ
.
ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติป่วยซึมเศร้าและมีภาวะเครียด โดยเป็นผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากสถานการณ์การสู้รบเป็นคนที่ 2 ก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตทางอ้อม 1 คน จากอาการป่วย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน
.
ปวิน มองทูตสหรัฐ ท่าทีชัด มุ่งยุติขัดแย้ง แนะถ้าไม่อยากเสียพันธมิตร แบบเสียจีนให้เขมร ควรเลิกพูดเรื่องรบต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5300055
.
ปวิน มองทูตสหรัฐ ท่าทีชัด มุ่งยุติขัดแย้ง แนะถ้าไม่อยากเสียพันธมิตร แบบเสียจีนให้เขมร คนในรัฐบาล ควรเลิกพูด เรื่องรบต่อ
.
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น อดีตนักการทูต กระทรวงการต่างประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงท่าที่ของ นายฌอน เค. โอนีลล์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อ โดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่ว่า
.
จากข่าวที่ นายฌอน เค. โอนีลล์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยคนใหม่ ได้แสดงท่าทีชัดเจนต่อกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ มองว่า การปะทะกันที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนไทย หรือต่อความเป็นพันธมิตรที่สำคัญระหว่างสองประเทศเลย
.
จุดยืนนี้สะท้อนความต้องการของสหรัฐฯ ที่จะเห็นความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ใช้เรื่องการเจรจาการค้าเป็นเครื่องมือในการกดดันให้ไทย และกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ยิ่งตอกย้ำว่า สหรัฐฯ พร้อมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการยุติความขัดแย้ง โดยมองไทยเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางสนธิสัญญาไม่กี่ประเทศในเอเชียที่สหรัฐฯ ยังคงให้ความสำคัญ และคาดหวังให้ไทยดำเนินบทบาทที่นำไปสู่สันติภาพอย่างแท้จริง
.
ดังนั้น เพื่อให้สหรัฐฯ หันมาสนับสนุนประเทศไทยในบริบทของความขัดแย้งชายแดนนี้ได้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือไทยต้องแสดงออกถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ และจริงจังในการยุติความขัดแย้งและมุ่งสู่ข้อตกลงสันติภาพระยะยาวกับกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และสร้างกลไกในการแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่างสันติวิธี จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่ส่งไปถึงสหรัฐฯว่า ไทยมีความรับผิดชอบและพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค การแสดงออกถึงการยอมรับหลักการและกลไกสากลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงการเปิดกว้างต่อบทบาทของผู้สังเกตการณ์หรือคนกลางหากจำเป็น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ ว่าไทยกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่การสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทั้งในด้านการทูต การเมือง และอาจรวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพในระยะยาวด้วย
.
กัมพูชาได้จีนไปเป็นพันธมิตรแล้ว เราจะเดินออกจากสหรัฐฯหรอ ถ้าไม่อยากเสียพันธมิตรนี้ไป ก็ไม่ควรให้คนสื่อสารของรัฐบาลพูดเรื่องรบต่อ รบต่อ รบต่อ อีกต่อไป
.
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/pfbid02q2a6Y4Jpc2saTUh9JeqwhXAbwUXioYWueL7KYPzAJweigwgwij2KV7X5txWuyGHnl