ครอบครัวที่ต้องเลือก จะต้องทำยังไง

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า ตั้งแต่ผมอายุ 16 แม่ผมไม่สบาย ผมก็เลยไม่ได้เรียนต่อและทำงานหาเงินเลย ก็ทั้งให้แม่ และก็ใช้ชีวิตตัวเองมาให้รอดจนวันนี้วันนี้ จนมาตอนผมอายุ 28 ลุงผมติดยา ผมก็เป็นคนไปแก้ปัญหา ให้เขาไม่ต้องติดคุก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เลิก และบ้านก็แตก ผมพาแม่ออกมาอยู่ข้างนอก ซึ่งตอนนั้นผมเช่า อพาตร์เมนต์อยู่กับแฟนเก่า ผมก็คุยกับแฟน ขอเอา แม่ เอา น้า มาอยู่ด้วย ( น้าผมสติไม่ค่อยดี รักษากับ ศรีธัญญา อยู่ ก็อยู่กันไป 4 คนให้ห้องเช่าเล็กๆ จนสุดท้ายผมตัดสินใจหที่อยู่ใหม่ เพราะมันแคบเกินไป ผมตัดสินใจซื้อ คอนโด เพราะจะหาบ้านเช่า ให้มันใกล้กับที่ทำงานผมและแฟน มันใช้เงินเยอะ ผมมีไม่พอ หลังจากซื้อคอนโดได้ 2-3 เดือน ก็มาทราบข่าว ว่าลุงผมติดคุก หลังจากนั้นก็มีแค่ผมที่คอยไปเยี่ยม ฝากเงินให้เขาใช้ ตามเรื่องจนเขาพ้นโทษออกมา แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ผมกับแฟนเก่า ก็ได้เลิกกันไป เพราะเขาบอกว่า เขาทนแม่ผมไม่ได้ เขาบอกว่า ชีวิตผม มีแค่ ครอบครัวตัวเองอย่างเดียว ไม่วางแผนอนาคตอะไรให้เขาเห็น แต่ก่อนที่จะเลิกกัน ผมก็จับได้ว่าเจา นอกใจผม 2-3 ครั้ง แตผมก็เข้าใจน่ะ เพราะที่เขาบอกว่าผมเอาแต่ครอบครัวตัวเอง ผมยอมรับ ผมคิดแค่ว่า ถ้าไม่มีผม แม่ น้า จะอยู่กันยังไง  จนมาวันนึงผมก็มีแฟนใหม่ คนนึง ซึ่งก่อนที่จะคุยกันผมเองบอก ผู้หญิงหมดเลย ว่าชีวิตผมเป็นไง รับผิดชอบอะไรบ้าง เขาก็เข้าใจ และก็เริ่มคุยกัน คบกัน เขาก็ซัพพอต ผมทุกอย่างน่ะ ไม่ได้หมายถึงเงินน่ะ ผมไม่เคยขอเงินผู้หญิง แต่เป็นเรื่องความรู้สึกสภาพจิตใจ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเจอผู้หญิงคนนี้ ผมกินยานอนหลับ และ ยาระงับประสาทเพราะะตอนนั้นผมรู้สึกท้อ และ เหนื่อยกับชีวิตตัวเองมากๆ แบบไม่อยากจะอยู่แล้ว แต่มันก็ห่วงว่าที่เหลือจะอยู่ยังไงถ้าเรา้เห็นแก่ตัวแล้วหนีไปก่อน จนมาเมื่อปีก่อน ก่อนที่ลุงปมจะออกจากคุก แม่แฟนผมเขาป่วยหนัก เกี่ยวกับโรคหัวใจ นอน icu เป็นเดือนๆ พอแม่เขาเริ่มจะสื่อสารได้ เขาก็อยากให้แฟนผมแต่งงาน มีครอบครัว ผมก็มาคุยกับ ผู้ใหญ่ฝั่งผม แม่ ผมถามว่า สินสอนที่วาง หลังจากแต่งเสร็จจะคืนไหม ผมก็สะอึกน่ะ เพราะเงินค่าสินสอด แม่ผมบอกว่าให้รอ ลุงผมออกมาจากคุก แล้วจะเอาบ้านไป รีไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินมาวางให้ แต่จะขอคืน แต่แฟนผมบอกว่าก็อยู่ที่แม่แฟเขาตัดสินใจยังไง ผมก็เข้าใจน่ะ เพราะค่าสินสอด คือ เงินที่เราต้องให้ฝ่ายหญิง จนสุดท้ายเขาก็ทะเลาะกัน แต่พอสุดท้ายปัญหาในบ้านผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวันที่ไปรับลุงออกมาจากคุก หรือ พาน้าผมไปหาหมอ แฟนผมก็ยังช่วยทำให้ โดยที่ไม่บ่นอะไรให้ผมฟังเลยสักคำ จนมาถึงตอนนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อแฟนผมเสียกระทันหัน แฟนผมเลยต้องแยกจากผมกลับไปอยู่กัแมี่เขาที่ต่างจังหวัด เพรยูแม่แฟนผมอยู่คนเดีและเปะเป็นโรคหัวใจ และช่วงงาน ศพพ่อแฟน ผมก็ไปอยู่ช่วยแฟนผมจนเสร็จงาน และผมก็กลับมาทำงาน ก่อนแยกกัน แฟนผมตรวจครรภ์ ก็รู้ว่าท้องได้ 2 เดือนแล้ว แฟนผมก็คุยกับแม่เขา แม่เขาให้หมั้น และ แต่งงานกันภายในปีนี้ จากสินสอดที่เขาเคยเรียก แม่เขาก็ไม่เรียกร้องอะไรจากผมเลย แค่ผมหาเงินค่าจัดงาน แค่นั้นเลย เป็นงานเล็กๆทำให้มันถูกต้องตามประเภณี ใครที่เป็นต่างจังหวัด เหนือ , อีสานน่าจะเข้าใจกันดี กับเรื่องการแต่งงาน ซึ่งหลังจากที่ผมกลับมาทำงานที่ กทม ผมบอก แม่ บอก ลุง แต่สุดท้ายทุกคนได้แต่เงียบ แม่ผมบอกผมว่า เลี้ยงแม่ยังไม่รอดยังอยากจะมีลูก ไปกันการชีวิตตัวเองเอาเองล่ะกัน ผมเจ็บอก จุกอยู่ในใจ จน ไม่รู้จะอธิบายยังไง ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างในครอบครัว แม่ น้า ลุง เดือนนึง 12000-13000 เฉพาะค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ทุกอย่างแยกต่างหากผมรับผิดชอบคนเดียว หรือบางเดือนก็มากกว่านั้น กับเงินเดือนที่ได้ 30000-40000 บางเดือนผมให้ที่บ้าน จนตัวผมเอง เหลือเงินติดตัวต่อเดือนแค่ 2-3 พัน ผมคิดแค่ว่าถึงผมจะมีลูกมีครอบครัว ผมก็ไม่ได้คิดที่จะไม่รับผิดชอบชีวิตพวกเขา เลยน่ะแต่ผมแค่ถามว่า อันพอจะประหยัดได้ก็ช่วยๆผมหน่อย เพราะตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะเข้าสู่ชีวิตที่เป็นหัวหน้าครอบครัวตัวเองแล้ว แค่ถามแม่ว่า ต่อเดืผมต้องใช้เท่าไหร่ เป็นค่าใช้จ่ายที่มันตายตัว แค่คำตอบที่ผมได้มา คือ ก็อย่างที่บอกชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอดคิดอยากจะมีลูก  ผมเจ็บมากๆ ระบายกับใครก็ไม่ได้ พูดกับแฟนก็ไม่ได้ ยิ่งกับแฟนช่วงนี้ยิ่งพูดไม่ได้ เพรตอนทั่ี่แม่ผมกับเขา ทะเลาะกัน แม่ผมไปพูดว่า บ้านแฟนผมขายลูกกิน ผมก็บอกแม่ผมน่ะ ไว่าดเจาแบบนั้น บ้านเราไม่มีอะไรเลยน่ะ บ้านแฟนผมเจามีทุกอย่าง อาจจะไม่ได้รวย แต่เจามีบ้าน มีที่นา มีรถ เขาดูแลลูกสาวเขาได้สบาย เงินค่างานแต่ง แค่ 100000 เดียว แม่เขาไม่ได้อยากไแต่แค่แค่มันคือเรื่อง ยืนยันว่า ผมจะรับผิดชอบชีวิต ลูก กับ หลาน เขาได้ไหม แค่นั้นเอง ที่ผมคิดน่แค่ตอยนนนี้ผมมาย้อนมอง ชีวิตตัวเอง ผมเจ็บ ผมท้อ และ ผมเหนื่อยมากเลย ตอนนี้ผมอายุ 31 ผมอยากรู้ว่า ผมจะผ่านอะไรแบบนี้ไปได้ยังไง โดยที่สภาพจิตใจผมยับเยินไปหมดเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่