JJNY : สื่อนอกรายงาน กัมพูชา ละเมิดหยุดยิง│ย้ำผลหารือ ทัพภาค2-กัมพูชา│คลังประเมินผลกระทบ│“ทรัมป์” จี้รัสเซียยุติสงคราม

ตีข่าวทั่วโลก สื่อนอกหลายสำนัก เสนอข่าวรายงาน กัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9870275
.
.
สื่อนอกหลายสำนัก เสนอข่าวรายงาน กัมพูชา ละเมิดข้อตกลงเจรจาหยุดยิง หลังมีผลบังคับใช้ตอนเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค. ด้านกองทัพไทยตอบโต้อย่างเหมาะสม ปกป้องอธิปไตย และปกป้องบูรณภาพแผ่นดินแดนไทยอย่างเต็มที่
.
วันที่ 29 ก.ค. จากสถานการณ์ชายแดนชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากการประชุมหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยผลการประชุม เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ทันทีเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค. โดยไม่มีเงื่อนไข
.
ล่าสุด สื่อต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ รอยเตอร์ เดอะการ์เดียน อัลจาซีรา และอื่นๆ ได้รายงานสถานการณ์คืบหน้าหลังได้มีข้อตกลงเจรจาหยุดยิงของทั้งสองประเทศว่า กองทัพไทยรายงานว่า กองทัพกัมพูชาละเมิดข้อตกลงยุติการสู้รบตามแนวชายแดนร่วมกันของทั้งสองประเทศ
.
โดยไม่กี่ชั่วโมงหลังจากลงนามข้อตกลง กองทัพไทย ระบุว่า กัมพูชาว่าโจมตีดินแดนไทย “ในหลายพื้นที่” เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การตอบโต้ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
.
ขณะที่ พลโทหญิง มาลี โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์โต้กลับว่า “ไม่มีการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกันในภูมิภาคใดๆ
.
ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงในมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ค. เพื่อยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อมา 5 วัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และทำให้มีผู้อพยพมากกว่า 300,000 รายในทั้งสองประเทศ โดยถือว่าเหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสองประเทศในรอบกว่า 10 ปี
.

.
กองทัพไทย ย้ำผลหารือ ทัพภาค2-กัมพูชา ได้ข้อยุติ 7 เรื่อง เตรียมชงที่ประชุมGBC รับรอง 4 ส.ค. 
https://www.matichon.co.th/politics/news_5297903
.
กองทัพไทย ย้ำผลหารือ ทัพภาค2ไทย-กัมพูชา ได้ข้อยุติ 7 เรื่อง เตรียมชงที่ประชุมGBC รับรอง 4 ส.ค. 
.
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดผลการหารือะหว่าง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ พล.อ.โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ได้ข้อสรุปสำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด โดยมีประเด็นหลักที่ตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ดังนี้
.
1.หยุดยิงเด็ดขาด: ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อยุติการปะทะและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งกำลังพลและประชาชน.
.
2.คุ้มครองประชาชน: มีการเน้นย้ำถึงมาตรการคุ้มครองพลเรือน โดยจะไม่มีการยิงโจมตีหรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน.
.
3.งดการเสริมกำลัง: ห้ามมิให้มีการนำกำลังทหารหรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์.
.
4.ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง: ตกลงว่าจะไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลภายในพื้นที่ชายแดนที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเพิ่มความตึงเครียด ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพพื้นที่ให้คงที่.
.
5.อำนวยความสะดวกการส่งกลับ: ทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงมนุษยธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน.
.
6.จัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ: เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงมีการจัดตั้งคณะทำงานประสานงาน ประกอบด้วยตัวแทนฝ่ายละ 4 คน ทำหน้าที่ในการสื่อสารและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า.
.
7.รอผลการประชุม GBC (General Border Committee): ข้อตกลงทั้งหมดที่ได้จากการหารือระดับแม่ทัพนี้จะถูกนำเสนอและพิจารณาอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กำหนดไว้ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการรับรองและมีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้งสองประเทศต่อไป... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/politics/news_5297903
.

.
คลังประเมินผลกระทบความขัดแย้งไทยกัมพูชาชายแดน เสียหายกว่าหมื่นล้านบาท 
.
คลังประเมินผลกระทบความขัดแย้งไทยกัมพูชาชายแดน เสียหายกว่าหมื่นล้านบาท 
.
วันที่ 29 ก.ค.68 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่จะมีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยหลักคือขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อยาวนานขนาดไหน แต่หากประเมินในเบื้องต้นตั้งแต่เริ่มอพยพประชาชนในพื้นที่ สถานการณ์น่าจะดำเนินมาหลักสัปดาห์ ถ้าประเมินแบบเร็ว ๆ ไม่นับรวมผลกระทบทางการค้าก็น่าจะอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท
.
ทั้งนี้ปัจจุบัน รัฐบาลยังมีงบในการกระตุ้นเศรษฐกิจเหลืออีก 4.2 หมื่นล้านบาท จากวงเงินในก้อน 1.57 แสนล้านบาท หลังจากจัดสรรให้โครงการต่าง ๆ ไปแล้ว 1.15 แสนล้านบาท วงเงินที่เหลือเบื้องต้นจัดสรรไปแล้ว 1 หมื่นกว่าล้านบาท เหลืออีกราว 2.5 หมื่นล้านบาทที่จะสามารถนำมารองรับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาได้ แต่อาจจะไม่เพียงพอก็คงต้องดึงงบประมาณในส่วนอื่นเข้ามาเสริมด้วย
.
"ผมต้องรวบรวมเอางบมาใช้ ซึ่งรวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย เพราะจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จะต้องมีการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนอีกเยอะมาก ดังนั้นงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 2.5 หมื่นล้านบาทอาจจะไม่พอ อาจต้องเอางบที่อื่นมาช่วยด้วย ส่วนถามว่าจะต้องมีการกู้เงินเพิ่มหรือไม่ เบื้องต้นยังไงก็ต้องใช้เงินตามกรอบงบประมาณ ส่วนการกู้เงิน ก็ต้องกู้ตามแผนของงบประมาณด้วยเช่นกัน" นายพิชัย กล่าว
.
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าอาจจะยังมีการยิงตอบโต้กันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน
.
นายพิชัย ล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ว่า ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ทางสหรัฐขอหยุดการเจรจาทันทีที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา แต่หลังจากเจรจาหยุดยิงแล้ว ทางสหรัฐกลับมาเดินหน้าเจรจากับไทยต่อทันที ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ทำงานกันต่อไป ส่วนการยื่นข้อเสนอต่างๆของไทยนั้นดำเนินการไปแล้วกว่า 99.99% จากนี้ขึ้นอยู่กับสหรัฐฯว่าจะพิจารณาอย่างไร ก่อนหน้านี้ ไทยได้ปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ และยื่นให้กับสหรัฐฯไปเกือบหมดแล้ว อาจจะเหลือในส่วนของร่างสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องรีบดำเนินการให้เสร็จ และเมื่อพิจารณาท่าทีของสหรัฐฯ หลังจากได้รับข้อเสนอของไทยแล้วก็น่าจะออกมาในทิศทางที่ดี
.
ถามว่าหากสหรัฐฯ พิจารณาลดภาษีนำเข้าให้ไทยในระดับ 25% นั้น รับได้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากเห็น 25% อย่างไรก็ดี ไทยไม่ทราบข้อเสนอของประเทศอื่น ๆ ที่ทำให้ฟิลิปินส์ และอินโดนีเซียได้ภาษีนำเข้าในอัตรา 19% ส่วนเวียดนามได้ 20% แต่ยังยืนยันว่า ข้อเสนอของไทยเป็นข้อเสนอที่ดูดี และจะเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย
.
"ถ้าถามว่ากลับมายิงกันต่อในมุมของสหรัฐฯก็ไม่ควรที่จะมีการเจรจาเรื่องภาษีกันต่อ แต่ตอนนี้ทุกคนตกลงกันได้แล้ว ควรจะเบาลง หลังจากนี้ต้องมาดูกันที่ความจริงใจของแต่ละประเทศ ส่วนวันนี้ยืนยันว่าสหรัฐฯ สั่งให้กลับมาเจรจากันต่อแล้ว แปลว่าเขาปลดล็อกให้เราแล้ว จากนี้ยังเหลืออีก 3 วัน จนกว่าจะถึง 1 ส.ค.อยากให้มาดูกัน เป็นอะไรที่น่าลุ้น ถ้าไม่ทัน เขาก็อาจจะเลื่อนให้" นายพิชัยกล่าว
.
#ไทยกับกัมพูชา #ไทยกัมพูชาชายแดน #ข่าววันนี้ #ภาษีทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่