▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยว
โอซาก้า
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
[CR] เที่ยวโอซาก้าเปิดประสบการณ์รอต่อคิวซื้อสินค้าและกินโอมากาเสะเทมปุระครั้งแรก
งั้นขอเริ่มเลยนะครับวันที่ 23/7/2568 เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเดินทางโดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เวลาเครื่องออกจากสนามบิน 21.05 น. ถึง สนามบินโฮจิมินห์เวลา 22.20 น. และออกจากสนามบินโฮจิมินห์เวลา 00.20 น. ถึงโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นเช้าวันที่ 24/7/2568 เวลา 07.40 น. แต่พอเช็คอินโหลดกระเป๋าความว้าวุ่นก็เริ่มขึ้น เมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานที่ออกบัตรโดยสารว่าเที่ยวบินจะดีเลย์เปลี่ยนเวลาออกเดินทางเป็น 21.55 น. ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพนักงานออกบัตรโดยสารให้ด้วยเพราะเราเลือกที่นั่งท้ายเครื่องไว้แต่พนักงานเกรงว่าจะออกไปต่อเครื่องไม่ทันเลยเปลี่ยนเป็นที่นั่งโซนด้านหน้าเครื่องให้ โดย Gate ในตั๋วโดยสารจะยังไม่ขึ้นให้ไปเช็คอีกทีหลังจากที่ผ่าน ตม. แล้ว เราก็ถามพนักงานว่าถ้าไม่ทันจะต้องทำอย่างไรพนักงานตอบว่าให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์สายการบินที่โฮจิมินห์ เราก็พอเข้าใจได้ พอผ่านตม. เข้ามาเพิ่งจะได้รับแจ้งอีเมลจากการการบินตอนเวลา 19.30 น. ว่าจะมีการเปลี่ยนเวลาบิน แต่ยังไม่แจ้งว่าออกจากโฮจิมินห์จะเปลี่ยนเวลาไหม พอผ่านตม.เข้ามาป้ายก็ยังไม่บอก Gate เราเลยย้อนไปดูเวลาก่อนเราบินของสายการบินนี้ว่าเครื่องขึ้น Gate ไหนซึ่งจากที่ดูจะอยู่ Gate F เลยเดินไปหาร้านนั่งรอตรงแถวนั้น
จนในที่สุดถึงถึงเวลาขึ้นเครื่องก็ได้บินออกจากประเทศไทยมุ่งหน้าสู่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โดยถึงเวลาประมาณ 00.05 น. ถึงเวลานึกในใจตกเครื่องแน่นอนหรือพอออกจากเครื่องจะมีพนักงานสายการบินมารอบอกให้รีบวิ่งตามไป พอถึงเวลาออกจากประตูเครื่องไม่มีพนักงานมารอจ้า พร้อมกับออกวิ่งกับกลุ่มคนอีกกลุ่มนึงประมาณ 20-30 คน เพื่อไปที่ตรง Transfer ปรากฏว่าประตูปิดจ้า ไม่มีเจ้าหน้าที่ พลันสายตาหันไปเห็นหน้าจอว่า เวลาเปลี่ยนจากออกจากโฮจิมินห์ 00.20 น. เป็น 01.20 น. เราก็เลยโล่งใจ ยืนรอสักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาเปิดประตูและผ่านเครื่องX-ray พอไปถึง Gate พบว่ามีเครื่องดื่มและขนมให้ผู้โดยสารหยิบทานฟรีได้เพื่อเป็นการขอโทษที่มีการเปลี่ยนแปลงเวลา
พอได้ขึ้นเครื่องหลับเลยตื่นมาอีกทีตอนเสริฟอาหารบนเครื่อง หลังจากนั้นเครื่องถึงเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 8.40 น. พอออกมาจากเครื่องความรู้สึกแรกคือร้อนสุดๆ พอผ่านจากตม. ก็ออกจากสนามบินเพื่อนั่ง JR Rapid ลงสถานี Tennoji เพื่อเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมซึ่งโรงแรมจะเริ่มให้เช็คอินได้เวลา 15.00 น.
พอถึงที่โรงแรมประมาณ 10.30 น. กะจะฆ่าเวลาด้วยการไปเดินเล่นดูสัตว์ที่สวนสัตว์เทนโนจิ แต่เดินไปได้ประมาณ 5 นาที สู้เดินไม่ไหวจริงๆเหงื่อท่วมตัวสุดๆ เลยกลับมานั่งดูหนังที่โหลดไว้ที่ล๊อบบี้โรงแรม (ได้ถามที่โรงแรมแล้วว่าขอจ่ายเงินเพื่อเข้าพักก่อนได้ไหมแต่ทางโรงแรมบอกว่าไม่มีนโยบายนี้) พอถึงเวลาเช็คอินได้ ก็นอนพัก 3 ชั่วโมงแล้วออกไปหาข้าวเย็นทาน กลับมาหลับยาว ต้องบอกก่อนว่าการมาครั้งนี้คือมาเจอเพื่อนคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้เจอกันเกือบ 10 ปีเท่านั้นไม่ได้มีแพลนเที่ยวอะไรเป็นพิเศษ พอวันที่ 25/7/2568 ก็มีภารกิจเบาๆคือไปซื้อของให้น้องที่บ้านและน้องที่ทำงานที่ Shinsaibashi ซึ่งเรามองว่าสบายๆไม่มีอะไรทำอยู่แล้วเพราะนัดเพื่อนไว้วันที่ 26/7/2568 เวลา 12.00 น. โดยสิ่งที่น้องที่บ้านฝากซื้อคือรองเท้า เราก็ไปซื้อแบบสบายๆ เพราะเป็นเวลา 10.30 น. พอจะทำเรื่อง Tax Free ที่ร้านรองเท้าเราก็ไม่กล้าให้ Passport พนกงานก็ถามว่าทำไมเราบอกเราอายอายุ พนักงานบอกดูจากหน้าแล้วน่าจะ 20 ปลายๆ พอพนักงานรับ Passport ไปเราก็ก้มหน้ารีบจ่ายเงิน พนักงานก็ตกใจกับอายุเรามาก 555
พอมาร้านที่สองที่น้องที่ทำงานฝากซื้อ ขอบอกก่อนว่าโดยนิสัยส่วนตัวของตัวเป็นเป็นคนไม่ชอบต่อคิวหรือรอคิมไม่ว่าร้านนั้นจะดังแค่ไหนหรืออาหารจะร่อยขนาดไหน ยกเว้นอยากได้หรืออยากกินจริงๆ พอมาถึงร้านซึ่งก็คือร้าน Human Made พอเราเห็นร้านก็ตกใจร้านเล็กมากที่สำคัญต้องต่อคิวซึ่งเราก็ไปต่อคิวให้ใช้เวลารอคิวประมาณ 5-10 นาทีโดยได้เสื้อมาตัวเดียว อีกลายนึงที่เป็นลายเสือไม่มีต้องมาซื้อพรุ่งนี้
วันต่อมา (26/7/2568) ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตและจะไม่เอาอีกแล้วกับร้าน Human Made และร้านอื่นๆ 555 อย่างที่บอกไปว่าวันนี้มีนัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่นเวลา 12.00 น. เราเลยออกจากโรงแรมและมารอห้าง Parco เปิดเวลา 10.00 น. โดยเป้าหมายคือซื้อเสื้อลายเสือสีขาวและดำอย่างละตัวแค่นั้น
พอถึงเวลาเราก็ใส่หูฟังเพลงเดินสบายๆถ่ายหน้าร้านไปจุดที่ต่อคิวเมื่อวาน เราก็งงคนที่ต่อคิวมามองหน้าเรากันทำไม จนมารู้ตัวอีกทีพนักงานที่ร้านเดินพาไปจุดต่อคิวที่นอกตัวห้างซึ่งขดเป็นอีก 2-3 ขด
หลังจากที่ยืนและเดินวนไปเรื่อยๆประมาณ 20 นาทีเราก็ได้เข้าตัวห้างและเดินต่อไปที่ยืนต่อคิวเมื่อวาน เราก็คิดในใจว่าเดี๋ยวก็ซื้อเสร็จแล้วแต่........สิ่งที่คิดกับสิ่งที่กำลังจะเผชิญไม่ใช่แบบนั้น 555 เราต้องเดินไปต่อคิวที่บันไดหนีไฟซึ่งเดินจนมาถึงชั้น 4 เราถึงขั้นคิดอะไรจะฮิตนิยมกันขนาดนั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนไทยรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่งซึ่งบางคนมาสองคน สามคน คนเดียวก็มี แต่เท่าที่ฟังดูแต่ละคนจะซื้อบางรุ่นมากกว่า 5 ตัวก็มี ได้ยินเด็กวัยรุ่นสองคนข้างหน้าบอกนายไปซื้อแบบนี้ไซส์นี้เราไปซื้อแบบนี้ รวมกันประมาณ 10 ตัวได้ เลยนึกในใจเค้าซื้อไปฝากใครกันเยอะขนาดนี้ พอได้คุยกับน้องที่ฝากซื้อก็เข้าใจได้ว่าเป็นพวกรับหิ้ว หลังจากนั้นก็ยืนรอไปเรื่อยๆเริ่มลงมาๆๆๆๆๆจนถึงชั้นสองเวลาขณะนั้น 11.15 น. เราก็นึกในใจยังน่าจะทันอยู่
จนเวลา 11.30 น.เพิ่งจะเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมง เลยรีบไลน์หาเพื่อนญี่ปุ่นว่าขอเลื่อนนัดเป็นเวลา 12.30 น. เพื่อนก็บอกจะลองต่อรองกับที่ร้านดูให้ว่าได้ไหมเพราะว่าจองไว้เวลา 12.00 น. แต่เพื่อนก็ให้เรารีบไปให้เร็วที่สุด ถึงเวลากว่าจะรอต่อคิวจนเราอยู่ที่เส้นกั้นบางๆ ในร้านจะมี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นหญิงคนไทยวีดีโอคอลกับคนหลายคนมากเข้าไปอยู่เกือบครึ่งชมได้ละ กลุ่มที่สองเป็นครอบครัวพ่อแมีลูกเกาหลี ลองแล้วเปลี่ยนแล้วจะดูแบบนั้นแบบนี้ เราก็เข้าใจได้เพราะเค้าคงอยากเปรียบเทียบแบบที่เค้าและครอบครัวใส่แล้วเหมาะที่สุด กลุ่มที่ 3 2 วัยรุ่ยชายคนไทยอันนี้ดีหน่อยเข้าไปเปิดรูปพร้อมไซส์สั่งพนักงานเลย ซึ่งเรารอตรงเส้นบางๆตั้งแต่น้องวัยรุ่นชายเข้าไปจนออกไปแล้วพนักงานก็ไม่มายกเส้นให้เราเข้าไปจนพนักงานสังเกตเห็นเลยรีบเปิดให้เราเข้าไปเรารีบสั่งรีบซื้อจนเสร็จไม่เกิน 5 นาที สรุปมช้เวลาตั้งแต่รอห้างเปิดต่อคิวและซื้อของรวม 2 ชั่วโมง 15 นาที เป็นประสบการณ์รอคิวที่นานที่สุดในชีวิตเข็ดขยาดไม่เอาอีกแล้ว
พอซื้อเสร็จมือนึงถือถุงเสื้อ อีดมือถือถุงของฝากจากไทยให้เพื่อนญี่ปุ่นหนักประมาณ 5 กิโลได้ เพราะมีทั้งผลไม้อบแห้ง ขนมไทยเช่นท้องม้วน ขนมที่เป็นรสชาติของไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างๆมากกว่า 20 ซอง น้ำจิ้มต่างๆ และเครื่องแกงต่างๆ รีบเดินไปสถานีรถไฟให้เร็วที่สุดเพราะจะใกล้ถึงเวลา 12.30 น. แล้ว พอถึงสถานี Umeda เวลาตอนนั้น 12.20 น. ซึ่งใกล้เวลานัดมาก ตอนนั้นเปิดแผนที่พบว่าร้านอยู่ห่างจากสถานี 1.1 กม. ถ้าเดินใช้เวลา 16 นาที เราซึ่งถือของหนักเดินวนไปมาจนไปไม่ถูกเลยตัดสินใจจะนั่งแท็กซี่แต่กว่าจะหาจุดจอดรับแท็กซี่เจอเหมือนอาบน้ำเลยเหงื่อท่วมตัวสุดๆ หลังจากได้ขึ้นรถแท็กซี่คนขับรถดูแผนที่แล้วพาไปทันทีในที่สุดก็ถึงร้านเวลา 12.45 น. ซึ่งเราละอายใจสุดๆเนื่องจากคนญี่ปุ่นเป็นคนตรงต่อเวลามาก
ที่อาคารนี่เองเป็นที่ๆร้านอาหารนี้อยู่ ซึ่งร้านนี้ชื่อร้าน “มิวะ” ครับ
ขอต่อที่ Comment ต่อไปนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น