เมื่อต้นปีเรามี Gel boys ที่ก็ทำได้ดีในแง่ตีแผ่ความสัมพันธ์ของเด็ก gen z ที่ลงลึกถึงระดับโมเลกุล ทั้งการฟังเพลง พฤติกรรมการแชร์ list เพลงใน spotify ลักษณะการพิมพ์ไลน์ การซ่อนสตอรี่ คือมันโคตะระจะ gen Z เลย ถึงผมจะทำงานแล้วแต่ก็ดูมีหลายๆอย่างที่ relate หรือทำให้เชื่อได้ว่า เนี่ยเด็กสมัยนี้เขาทำแบบนี้กันจริงๆ เหมือนได้สำรวจโลกอีกใบที่มันดูเรียลมากๆ (สรุปเอ็งมาพูดถึงซีรีย์เรื่องไหนกันแน่ฟระ ฮา) แต่พอมาคิดว่าแก่นของฮอโมส์มันไม่ใช่เด็กนักเรียนแต่คือสารที่มันจะสื่อต่างหาก เรื่อง taste เลยเป็นอะไรที่ดูเหมาะจะเรียกว่า Hormones 2025 มากกว่า แต่เป็นการเล่าเสียดสีสังคมในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ไม่ได้ในรั้วโรงเรียน ซึ่งเป็นยุคที่โซเชี่ยลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น
ต้องยอมรับว่า ผมมักชอบอะไรที่ดูเรียลๆแบบฝั่ง gdh,nadao มากกว่า ส่วนช่องone จะติดภาพความเป็นละครมากกว่าซีรีย์ แถม line up นักแสดง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าดึงดูดขนาดนั้น เลยไม่ได้คาดหวังมาก แต่เริ่มสนใจดูเพราะเผลอไปเห็นคลิปของ ดีเซลที่ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกจันทร์ คิดในใจว่า เห้ย ซี่รี่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แบบที่เราคิดก็ได้ พอได้ดูก็ไม่ผิดหวังจริงๆ หนังแสดงหลักทุกคนเล่นได้ธรรมชาติมากๆ คนอาจจะชมคู่ดรีมกับดีเซลเยอะ เพราะบทมี dynamic ค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนตัวคิดว่า มาเบลกับแอนโทนี่ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน แต่ทุกคนคือไม่ได้มีความละคร งาน production ก็ตามมาตรฐานซีรีส์ไทย ไม่ได้ว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่ ถ้าพูดว่า ฮอร์โมนส์คือการเอา ชีวิตวัยรุ่นชนชั้นกลางค่อนบนของเด็กในเมืองที่นั่งรถไฟฟ้าไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนก็เดินสยามเป็นแกนหลัก เรื่องนี้จะเล่าชีวิตของคนอีกกลุ่มนึง ที่เป็น Elit class จริงๆแอบให้อารมณ์เหมือนซีรีย์ Elite, Gossip girl เหมือนกันนะ
ดังนั้นจะไม่ได้รู้สึก relate ในแง่ว่าตัวละครนี้เหมือนเรา แต่เป็นในแง่ว่าในสังคมมันมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆที่เล่าแบบอ้อมๆ ทั้งเรื่องการใช้เส้นสาย การเมือง อินฟลู คู่จิ้นวาย 2ประเด็นหลังแอบชอบเป็นพิเศษเพราะดูยังไม่มีเรื่องไหนนำมาเล่า พาร์ทการเมืองที่แตกประเด็น เกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้ เอาจริงๆเรื่องการเมืองกับวงการบันเทิง ดูไม่น่าจะเอามาเล่าด้วยกันได้ แต่เรื่อง taste ก็สามารถนำมาร้อยเรียงกันได้แบบไม่รู้สึกเคอะเขิน ตัวละครมีความเป็นมนุษย์สูง มีมุมที่ดี บางมุมก็ดูน่ารำคาญ ชอบที่แบมบี้ไม่ได้เป็นเด็กบ้านจนตามแพทเทินขิงตัวละครแนวนี้ แค่เป็นเด็กสาวที่หลงไหลในชื่อเสียงเท่านั้น
ในเรื่องข้อเสียมันก็มี แต่ไม่ได้แย่จนทำให้องค์รวมดูไม่สนุก เรื่องแรกคือความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง บางทีบทก็ดูเอื้อกับแบมบี้เกิน อะไรก็ดูง่ายไปหมด ตั้งแต่ไปเรียนพิเศษ และอยู่ๆอินฟลูก็คุยเฟลนลี่แถมยังพาเข้างานทั้งทีรู้จักกันแบบผิวเผิน จริงๆถ้าเพิ่มอีกสักฉากที่แบมบี้ช่วยเหลือเพียว(อะไรเล็กๆน้อยๆอย่าง ทำของหายแบมบี้ช่วยหาจนเจอ มันจะน่าเชื่อกว่าอยู่ดีๆก็ช่วยเข้างานซะงั้น แต่จะแถว่าก็แบมบี้สวยจนเพียวชอบ ก็พอถูไถแหละ ฮา) บทโตเกียวที่ดูไม่ได้เกี่ยวกับอะไรกับเส้นเรื่องหลักเท่าไหร่ ซึ่งมันดีนะแต่ถ้าผูกกันซักหน่อยจะดีมาก บทลูกจันทร์ที่น้อยไปหน่อยเราแทบจะเห็นลูกจันทร์แค่ไหนมิติเดียวผ่านมุมมองบุคคลภายนอก และใช้เป็นตัวแทนของลูกคุณหนูที่สายป่านยาวสามารถเข้าถึงโอกาสหลายๆอย่าง ชีวิตที่โรงเรียนของแบมบี้ที่โดนเพื่อนลับหลัง พี่ชมรมหลีดดูถูกต้นเรื่อง ตัดภาพมาอีกอีพีก็ดีกันแล้ว ถ้าจะเล่าห้วนๆแบบนี้ไม่ต้องใส่ประเด็นนี้มายังได้เลย ในภาพรวมคือซีรีส์ดูมีอะไรให้เล่ามากกว่าจำนวนตอนที่วางไว้ ทำให้อีพีสุดท้ายทุกอย่างดูเร่งรัดไปหมด ซึ่งดูจะเป็นปัญหานึงที่ซีรีย์ไทยประสบกันเยอะ
ผมค่อนข้างคาดหวังว่า เรื่องนี้จะมีซีซั่นสอง ด้วยปมหลายๆอย่างที่ยังไม่เคลียร์สามารถนำมาเล่าต่อได้ แถมตัวละครอย่างลูกจันทร์และหม่องก็ดูมีอะไรให้เล่นอีกเยอะ (หรือ ผกก ตั้งใจจะกั๊กไว้รอซีซั่น2 ก็ไม่รู้เหมือนกัน) แต่ถ้าจะจบเท่านี้ก็ไม่น่าเกลียด แต่จุดที่ขัดใจมากๆๆๆ ของซีรีส์ช่องวันคือโฆษณาน่าเกลียดเกินอะ นี้มันยุคไหนแล้ว ยังclose up ไปที่ตัวสินค้า เอามือจับกล่องท่าประหลาดๆเพราะกลัวบังโลโก้ แล้วทำหน้าตาอร่อยเกินความเป็นจริง มันแสดงให้เห็นว่าช่องละครมันก็ยังเป็นช่องละครอะยังไม่สามารถก้าวสู่ความเป็นสากลได้ อาจจะต้องรอดูต่อๆไป แต่ตอนนี้ก็พัฒนาขึ้นแล้ว รอวันนึงวงการบันเทิงจัเลิกทำอะไรเฉิ่มๆแบบนี้ซักที แต่ก็ต้องพูดถึงนายทุนด้วยที่รีเควสแบบเอาแต่ได้
Taste = Hormones 2025 ตีแผ่สังคมในสเกลที่ใหญ่ขึ้น
ต้องยอมรับว่า ผมมักชอบอะไรที่ดูเรียลๆแบบฝั่ง gdh,nadao มากกว่า ส่วนช่องone จะติดภาพความเป็นละครมากกว่าซีรีย์ แถม line up นักแสดง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าดึงดูดขนาดนั้น เลยไม่ได้คาดหวังมาก แต่เริ่มสนใจดูเพราะเผลอไปเห็นคลิปของ ดีเซลที่ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกจันทร์ คิดในใจว่า เห้ย ซี่รี่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แบบที่เราคิดก็ได้ พอได้ดูก็ไม่ผิดหวังจริงๆ หนังแสดงหลักทุกคนเล่นได้ธรรมชาติมากๆ คนอาจจะชมคู่ดรีมกับดีเซลเยอะ เพราะบทมี dynamic ค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนตัวคิดว่า มาเบลกับแอนโทนี่ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน แต่ทุกคนคือไม่ได้มีความละคร งาน production ก็ตามมาตรฐานซีรีส์ไทย ไม่ได้ว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่ ถ้าพูดว่า ฮอร์โมนส์คือการเอา ชีวิตวัยรุ่นชนชั้นกลางค่อนบนของเด็กในเมืองที่นั่งรถไฟฟ้าไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนก็เดินสยามเป็นแกนหลัก เรื่องนี้จะเล่าชีวิตของคนอีกกลุ่มนึง ที่เป็น Elit class จริงๆแอบให้อารมณ์เหมือนซีรีย์ Elite, Gossip girl เหมือนกันนะ
ดังนั้นจะไม่ได้รู้สึก relate ในแง่ว่าตัวละครนี้เหมือนเรา แต่เป็นในแง่ว่าในสังคมมันมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆที่เล่าแบบอ้อมๆ ทั้งเรื่องการใช้เส้นสาย การเมือง อินฟลู คู่จิ้นวาย 2ประเด็นหลังแอบชอบเป็นพิเศษเพราะดูยังไม่มีเรื่องไหนนำมาเล่า พาร์ทการเมืองที่แตกประเด็น เกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้ เอาจริงๆเรื่องการเมืองกับวงการบันเทิง ดูไม่น่าจะเอามาเล่าด้วยกันได้ แต่เรื่อง taste ก็สามารถนำมาร้อยเรียงกันได้แบบไม่รู้สึกเคอะเขิน ตัวละครมีความเป็นมนุษย์สูง มีมุมที่ดี บางมุมก็ดูน่ารำคาญ ชอบที่แบมบี้ไม่ได้เป็นเด็กบ้านจนตามแพทเทินขิงตัวละครแนวนี้ แค่เป็นเด็กสาวที่หลงไหลในชื่อเสียงเท่านั้น
ในเรื่องข้อเสียมันก็มี แต่ไม่ได้แย่จนทำให้องค์รวมดูไม่สนุก เรื่องแรกคือความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง บางทีบทก็ดูเอื้อกับแบมบี้เกิน อะไรก็ดูง่ายไปหมด ตั้งแต่ไปเรียนพิเศษ และอยู่ๆอินฟลูก็คุยเฟลนลี่แถมยังพาเข้างานทั้งทีรู้จักกันแบบผิวเผิน จริงๆถ้าเพิ่มอีกสักฉากที่แบมบี้ช่วยเหลือเพียว(อะไรเล็กๆน้อยๆอย่าง ทำของหายแบมบี้ช่วยหาจนเจอ มันจะน่าเชื่อกว่าอยู่ดีๆก็ช่วยเข้างานซะงั้น แต่จะแถว่าก็แบมบี้สวยจนเพียวชอบ ก็พอถูไถแหละ ฮา) บทโตเกียวที่ดูไม่ได้เกี่ยวกับอะไรกับเส้นเรื่องหลักเท่าไหร่ ซึ่งมันดีนะแต่ถ้าผูกกันซักหน่อยจะดีมาก บทลูกจันทร์ที่น้อยไปหน่อยเราแทบจะเห็นลูกจันทร์แค่ไหนมิติเดียวผ่านมุมมองบุคคลภายนอก และใช้เป็นตัวแทนของลูกคุณหนูที่สายป่านยาวสามารถเข้าถึงโอกาสหลายๆอย่าง ชีวิตที่โรงเรียนของแบมบี้ที่โดนเพื่อนลับหลัง พี่ชมรมหลีดดูถูกต้นเรื่อง ตัดภาพมาอีกอีพีก็ดีกันแล้ว ถ้าจะเล่าห้วนๆแบบนี้ไม่ต้องใส่ประเด็นนี้มายังได้เลย ในภาพรวมคือซีรีส์ดูมีอะไรให้เล่ามากกว่าจำนวนตอนที่วางไว้ ทำให้อีพีสุดท้ายทุกอย่างดูเร่งรัดไปหมด ซึ่งดูจะเป็นปัญหานึงที่ซีรีย์ไทยประสบกันเยอะ
ผมค่อนข้างคาดหวังว่า เรื่องนี้จะมีซีซั่นสอง ด้วยปมหลายๆอย่างที่ยังไม่เคลียร์สามารถนำมาเล่าต่อได้ แถมตัวละครอย่างลูกจันทร์และหม่องก็ดูมีอะไรให้เล่นอีกเยอะ (หรือ ผกก ตั้งใจจะกั๊กไว้รอซีซั่น2 ก็ไม่รู้เหมือนกัน) แต่ถ้าจะจบเท่านี้ก็ไม่น่าเกลียด แต่จุดที่ขัดใจมากๆๆๆ ของซีรีส์ช่องวันคือโฆษณาน่าเกลียดเกินอะ นี้มันยุคไหนแล้ว ยังclose up ไปที่ตัวสินค้า เอามือจับกล่องท่าประหลาดๆเพราะกลัวบังโลโก้ แล้วทำหน้าตาอร่อยเกินความเป็นจริง มันแสดงให้เห็นว่าช่องละครมันก็ยังเป็นช่องละครอะยังไม่สามารถก้าวสู่ความเป็นสากลได้ อาจจะต้องรอดูต่อๆไป แต่ตอนนี้ก็พัฒนาขึ้นแล้ว รอวันนึงวงการบันเทิงจัเลิกทำอะไรเฉิ่มๆแบบนี้ซักที แต่ก็ต้องพูดถึงนายทุนด้วยที่รีเควสแบบเอาแต่ได้