ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งที่เสียภาษีอย่างถูกต้องทุกปี ฉันไม่เคยคาดหวังให้รัฐดูแลทุกเรื่องแทน แต่ฉันมีความหวังว่า “เงินที่ฉันจ่ายเข้าไปในระบบ” จะถูกใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง ด้วยหลักที่เรียบง่ายที่สุด …ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความสมเหตุสมผล
โปร่งใส ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องเป็นระบบ
ความโปร่งใสไม่ควรเป็นแค่แนวคิดบนกระดาษ แต่ต้องเกิดขึ้นจริง ผ่านระบบที่ประชาชนเข้าถึงและตรวจสอบได้
ในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ การเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างงบประมาณ ควรเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ข้อยกเว้น
– งบจัดซื้ออาหารกลางวัน!
– งบวัสดุอุปกรณ์ในโรงเรียน!
– งบก่อสร้างของหน่วยงานท้องถิ่น!
ข้อมูลเหล่านี้ควรแสดงให้เห็นแบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ หรือ dashboard ที่พลเมืองทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ไม่ใช่เอกสาร PDF หลายร้อยหน้าอ่านยาก
เพราะภาษีที่รัฐใช้…ก็คือ “เงินของทุกคน”
ความสมเหตุสมผลของงบประมาณ: ตัวอย่างจากอาหารกลางวันเด็ก
หนึ่งในตัวอย่างที่ฉันสะเทือนใจเสมอ คือ งบอาหารกลางวันสำหรับเด็กในโรงเรียน ซึ่งในหลายพื้นที่อยู่ที่ 20–25 บาท/คน/วัน
ในความเป็นจริงของค่าครองชีพปัจจุบัน เราทุกคนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้อาจยังไม่พอสำหรับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอ
แต่เมื่อเจาะลึกลงไป เราพบว่าปัญหาไม่ใช่แค่งบน้อย — แต่ยังมี ความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง และ “ระบบที่ไม่ยืดหยุ่นหรือไม่ตอบสนองกับความจริง”
ระบบที่ดี เริ่มต้นจากคนและกระบวนการที่ดี
สิ่งที่น่ากังวลไม่น้อยกว่าความไม่โปร่งใส คือ ความไร้ประสิทธิภาพของคนในระบบ — ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกคนเข้าทำงาน ไปจนถึงกลไกที่ขาดความรับผิดชอบ
บางครั้งคนในระบบดูเหมือนทำหน้าที่เป็นเพียง “กลไกเชิงเอกสาร” มากกว่าจะเป็นผู้มีใจรับใช้สาธารณะ
และเมื่อไม่มีความสามารถตรวจสอบถ่วงดุลกันได้อย่างแท้จริง สิ่งที่ควรเป็น “ระบบเพื่อคนส่วนใหญ่” ก็กลายเป็น “ระบบที่หลุดหายจากเป้าหมาย”
เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือความหวังใหม่
ฉันเชื่อว่า เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถเป็นตัวเปลี่ยนเกม ได้จริง
ระบบติดตามงบประมาณแบบเปิด (Open Budget)
ระบบจัดซื้อจัดจ้างอัจฉริยะ
AI ตรวจสอบความผิดปกติของโครงการ
หากรัฐให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ “เพื่อประชาชน” แทนที่จะเป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนระบบเดิม… เราจะเห็นคุณภาพการใช้งบประมาณดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ไม่ว่าจะรัฐบาลใด ความคาดหวังไม่เคยเปลี่ยน[/i]
สุดท้ายแล้ว ฉันไม่ต้องการเลือกข้างฝ่ายใด เพราะรัฐบาลจะเป็นสีอะไรไม่สำคัญเท่ากับว่า…
“เรามีระบบที่ทำให้คนดีอยู่ได้ คนไม่ดีถูกเปิดเผย และประชาชนตรวจสอบได้หรือไม่”
และหากยังไม่ถึงจุดนั้น สิ่งที่ฉันจะทำได้ คือ ตั้งคำถาม พูดความจริงอย่างสุภาพ และเรียกร้องให้ระบบที่เราอยู่ร่วมกันนั้น เป็นธรรม โปร่งใส และมีคุณภาพเพียงพอ… สำหรับคนรุ่นต่อไป
บทความนี้เป็นหนึ่งในเสียงสะท้อนของคนธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ใช้ชีวิตในประเทศนี้ เสียภาษีอย่างถูกต้อง ถูกจ้างงาน และสุดท้าย…ถูกเลิกจ้าง😓
แต่แม้ในวันที่ไม่มีรายได้ประจำ ฉันยังคงอยากเห็นระบบที่ใช้เงินภาษีของพวกเราทุกคน
อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกชีวิตในสังคมเดียวกันนี้🙏
Read More อ่านต่อ 💼 👇
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Read More อ่านต่อ 💼 >> https://immayyo.blogspot.com/p/blog-page.html
#เสียงของพลเมือง #ภาษีของเรา #โปร่งใสตรวจสอบได้
#งบประมาณรัฐ #สิทธิของประชาชน #การศึกษาไทย
#อาหารกลางวันเด็ก #ระบบราชการไทย #ตรวจสอบงบประมาณ
#ภาษีคือเงินของเรา #ประชาชนอยากรู้ #เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส
สิ่งที่พลเมืองผู้เสียภาษีอย่างฉันต้องการจากรัฐบาล: ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริง
โปร่งใส ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องเป็นระบบ
ความโปร่งใสไม่ควรเป็นแค่แนวคิดบนกระดาษ แต่ต้องเกิดขึ้นจริง ผ่านระบบที่ประชาชนเข้าถึงและตรวจสอบได้
ในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ การเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างงบประมาณ ควรเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ข้อยกเว้น
– งบจัดซื้ออาหารกลางวัน!
– งบวัสดุอุปกรณ์ในโรงเรียน!
– งบก่อสร้างของหน่วยงานท้องถิ่น!
ข้อมูลเหล่านี้ควรแสดงให้เห็นแบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ หรือ dashboard ที่พลเมืองทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ไม่ใช่เอกสาร PDF หลายร้อยหน้าอ่านยาก
เพราะภาษีที่รัฐใช้…ก็คือ “เงินของทุกคน”
ความสมเหตุสมผลของงบประมาณ: ตัวอย่างจากอาหารกลางวันเด็ก
หนึ่งในตัวอย่างที่ฉันสะเทือนใจเสมอ คือ งบอาหารกลางวันสำหรับเด็กในโรงเรียน ซึ่งในหลายพื้นที่อยู่ที่ 20–25 บาท/คน/วัน
ในความเป็นจริงของค่าครองชีพปัจจุบัน เราทุกคนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้อาจยังไม่พอสำหรับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอ
แต่เมื่อเจาะลึกลงไป เราพบว่าปัญหาไม่ใช่แค่งบน้อย — แต่ยังมี ความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง และ “ระบบที่ไม่ยืดหยุ่นหรือไม่ตอบสนองกับความจริง”
ระบบที่ดี เริ่มต้นจากคนและกระบวนการที่ดี
สิ่งที่น่ากังวลไม่น้อยกว่าความไม่โปร่งใส คือ ความไร้ประสิทธิภาพของคนในระบบ — ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกคนเข้าทำงาน ไปจนถึงกลไกที่ขาดความรับผิดชอบ
บางครั้งคนในระบบดูเหมือนทำหน้าที่เป็นเพียง “กลไกเชิงเอกสาร” มากกว่าจะเป็นผู้มีใจรับใช้สาธารณะ
และเมื่อไม่มีความสามารถตรวจสอบถ่วงดุลกันได้อย่างแท้จริง สิ่งที่ควรเป็น “ระบบเพื่อคนส่วนใหญ่” ก็กลายเป็น “ระบบที่หลุดหายจากเป้าหมาย”
เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือความหวังใหม่
ฉันเชื่อว่า เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถเป็นตัวเปลี่ยนเกม ได้จริง
ระบบติดตามงบประมาณแบบเปิด (Open Budget)
ระบบจัดซื้อจัดจ้างอัจฉริยะ
AI ตรวจสอบความผิดปกติของโครงการ
หากรัฐให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ “เพื่อประชาชน” แทนที่จะเป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนระบบเดิม… เราจะเห็นคุณภาพการใช้งบประมาณดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ไม่ว่าจะรัฐบาลใด ความคาดหวังไม่เคยเปลี่ยน[/i]
สุดท้ายแล้ว ฉันไม่ต้องการเลือกข้างฝ่ายใด เพราะรัฐบาลจะเป็นสีอะไรไม่สำคัญเท่ากับว่า…
“เรามีระบบที่ทำให้คนดีอยู่ได้ คนไม่ดีถูกเปิดเผย และประชาชนตรวจสอบได้หรือไม่”
และหากยังไม่ถึงจุดนั้น สิ่งที่ฉันจะทำได้ คือ ตั้งคำถาม พูดความจริงอย่างสุภาพ และเรียกร้องให้ระบบที่เราอยู่ร่วมกันนั้น เป็นธรรม โปร่งใส และมีคุณภาพเพียงพอ… สำหรับคนรุ่นต่อไป
บทความนี้เป็นหนึ่งในเสียงสะท้อนของคนธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ใช้ชีวิตในประเทศนี้ เสียภาษีอย่างถูกต้อง ถูกจ้างงาน และสุดท้าย…ถูกเลิกจ้าง😓
แต่แม้ในวันที่ไม่มีรายได้ประจำ ฉันยังคงอยากเห็นระบบที่ใช้เงินภาษีของพวกเราทุกคน
อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกชีวิตในสังคมเดียวกันนี้🙏
Read More อ่านต่อ 💼 👇
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#เสียงของพลเมือง #ภาษีของเรา #โปร่งใสตรวจสอบได้
#งบประมาณรัฐ #สิทธิของประชาชน #การศึกษาไทย
#อาหารกลางวันเด็ก #ระบบราชการไทย #ตรวจสอบงบประมาณ
#ภาษีคือเงินของเรา #ประชาชนอยากรู้ #เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส