ตอนที่ 2 ถามใจตัวเองว่าอยากปลูกหรืออยากขาย


    เอาเวลาว่างในการนั่งคาเฟ่มาเขียนบทความก็เพลินๆดีนะครับ มีทั้งกาแฟขนมนมเนย" อู๊ย...ใช้ศัพท์ซะรู้วัยเลย" เพี้ยนเขิน
เอาเป็นว่าเข้าเรื่องราวต่อเลย ในตอนที่ 2 นี้จะเป็นในช่วงเวลาปี 2565 ก็นับว่าเป็นช่วงปลายๆโควิดแต่ยังมีใส่หน้ากากกันประปรายบ้าง คือช่วงเวลาที่พี่แฝดก็ตั้งรับกับคำถามในตัวเองว่าอยากทำอะไรเกี่ยวกับเกษตร อืม...เรามาสำรวจตัวเองก่อนว่าเป็นในด้านอะไรบ้าง



1. เราทำสวนเป็นไหม เป็นคำถามที่พี่แฝดก็ตอบได้ในเสี้ยววินาทีเลยคือ"ไม่เป็น"และไม่เคยทำมาก่อนจะต้องเริ่มจากตรงไหน ก็แหง่ละพี่กูมีความรู้เป็นร้อยๆก็ค้นหาบวกกับเพื่อนๆพี่เก่าๆที่ทำสวน ไอ้เราก็เริ่มจากเอาเวลาว่างในแต่ละวันขับรถออกไปหาเพื่อน ไปเรียนรู้เกษตรการปลูก ซึ่งไปดูทั้งสวนทุเรียน ส้มโอ สวนผัก ฯลฯ เราไปดูเพื่อศึกษาว่ามีช่องว่างอะไรที่เราสามารถต่อยอดได้บ้าง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าพวกเค้าทำสวนมาเป็นสิบๆปีย่อมรู้และแก้ปัญหาได้ดีกว่าคนกรุงอย่างเราๆ บวกกับอุปกรณ์การเกษตรที่หาซื้อง่ายในอินเตอร์เน็ตซึ่งพวกเค้าก็ใช้เก่งซะด้วย จึงทำได้แค่ (ดูกว้างๆเรียนรู้นอกเหนือจากอาชีพตัวเอง)




2. เราอยากขายของหรืออยากปลูกผัก คือคำถามที่นอนคิดหลายวันไปเจอแปลงผักที่ออกผลผลิตดกงดงามช่างเป็นภาพที่สวยงามชวนน่าทำตาม แต่คำตอบมันถูกตอบไปข้อแรกแล้วคือ"เราทำไม่เป็น" เพี้ยนมองบน ซึ่งคงใช้ระยะเวลายาวนานในการเรียนรู้กว่าจะรีเทิร์นเงินลงทุนกลับมาคาดว่าคงไม่คุ้มค่าไปเช่าซื้อที่ และเวลาในการบริหารจัดการแต่พอๆคิดดูเราเป็นพ่อค้ามาตลอดเชี่ยวชาญด้านการขายแบตเตอรี่ แต่ไม่เคยขายด้านการเกษตรก็น่าจะปรับตัวเรียนรู้ได้ เอาวะ...ขายไรดี คำถามคลาสสิค   เพี้ยนขำหนักมากHahaha


แค่ 2 ข้อ ก็ถึงทางตันเพราะในหัวคนกรุงพอมองในมุมเกษตรก็จะมีภาพคนทำสวนขึ้นมา (ยกเว้นพ่อค้าขายผัก)  เลยทำข้อ 1 ยาวๆไปเลยละกันคือเรียนรู้ไปก่อนว่าอะไรคือปัญหาและโอกาส อ่านถึงตรงนี้ก็คงรู้สึกว่าไม่เห็นมีอไรคืบหน้าเลย! ใช่ครับแต่ก่อนที่เราจะตกผลึกบางอย่างมา มันใช้ระยะเวลาการเดินทางและทุนทรัพย์พอควร ในตอนที่ 2 นี้คือช่วงต้นปี 2565 ถึงประมาณกลางปี ที่เราได้ไปสำรวจอะไรต่างๆมาตามประสาคนเริ่มว่างงานบวกกับใช้เงินตัวเองทั้งหมดด้วย ตรงนี้นี่เองที่เราค้นพบว่าเราชอบและอยาก "ผลิตมาขาย" มากกว่า"รับมาขาย" เอาละการเดินทางอันแสนยาวไกลมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ขอจบตรงนี้ไปต่อที่ตอนที่ 3 ครับ เนื้อเรื่องอาจดูยืดนิดนึงแต่เชื่อๆว่าคนที่ทำธุรกิจก่อนจะลงทุนอะไรมักไตร่ตรองและทำการบ้านมาก่อนพอสมควรก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่