จากคำถาม “ทหารมีไว้ทำไม” ถึง “สนามตะกร้อ” วาทะลวงโลกที่แพ้ต่อเสียงปืนจริง เลือดของทหารลูกชาวบ้าน และน้ำตาของคนอพยพ ตอบแทนทุกคำพูดลอยฟ้า สนามรบไม่ใช่บทสนทนาโชว์ลีลา แต่มันคือความจริงที่เจ็บกว่าคำพูดทุกคำ
คำพูดบางคำอาจดูเบาเหมือนลม แต่ผลกระทบกลับหนักราวกับตะปูที่ตอกลงกลางใจผู้ฟัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยตั้งคำถามบนเวทีปราศรัยหาเสียงว่า “ทหารมีไว้ทำไม?”- “ประเทศที่อยู่ใกล้ๆกันมันไม่ทะเลาะแล้ว” ประโยคที่เหมือนจะชวนคิด แต่กลับสะท้อนท่าทีของคนที่ยืนอยู่บนโลกของวาทกรรม มากกว่าจะเข้าใจความจริงที่แนวชายแดน
พิธาพูดด้วยบุคลิกคล้ายพระเอกลิเก วางท่ามั่นใจ ยกคางสูง พูดคล่องราวกับตนเป็นผู้รู้ทุกอย่าง แต่ความจริงที่ไม่เคยถูกเอ่ยคือ ทหารเหล่านั้นคือกำแพงเลือดเนื้อที่ยืนอยู่แทนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพียงหมากการเมืองที่จะถูกตั้งคำถามเอาไว้เรียกเสียงปรบมือ
ในอีกด้านหนึ่ง ทักษิณ ชินวัตร เลือกพูดถึงสถานการณ์ชายแดนว่า “แทนที่จะยิงกัน ก็เตะตะกร้อกันดีกว่า” ถ้อยคำที่เหมือนมาจากคนซึ่งมั่นใจว่าตนยังครองอำนาจชี้ขาด ทั้งที่โลกความจริงโหดร้ายเกินกว่าที่จะลดทอนให้เหลือเพียงเกมกีฬา
ทหารมีไว้ทำไม