เปิดบัญชีธนาคารของนิติบุคคล ยากกว่าจดทะเบียนบริษัทฯ รู้ไว้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ

สวัสดีครับวันนี้ จะมาเล่าเรื่อง "การเปิดบัญชีธนาคาร สำหรับนิติบุคคล" ว่าปัจจุบันมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ นักธุรกิจมือใหม่ ที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ หรือเปิดบริษัทฯ (ยาวนะหน่อยนะ ถ้าไม่ชอบอ่านผ่านได้เลยครับ หรือมาแนะนำได้นะครับ)

ปัจจุบันหลายคนเริ่มผันตัวมาเป็นเจ้าของกิจการ มีลู่ทางทำมาหากิน ทำธุรกิจต่างๆ มากมาย แต่การที่จะทำธุรกิจในบ้านเรานั้น ถ้าให้ถูกต้องคุณก็ต้อง จดทะเบียนการค้า จดบริษัทฯ จด หจก. อะไรก็ว่ากันไป เพื่อที่เราจะทำมาค้าขายได้อย่างถูกกฏหมาย และก็จดภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) อะไรก็ว่ากันไปตามเงื่อนไขของแต่ละที่

และการที่เราจะค้าขาย กับนิติบุคคลกันได้อย่างถูกต้อง เราก็ต้องจดจัดตั้งบริษัทฯ อะไรก็ว่ากันไป จะจ้างบริษัทที่รับจดทะเบียนบริษัท ก็ได้ง่ายดี รอเซ็นเอกสารและจ่ายตัง อย่างเดียวพอ ไม่ต้องปวดหัวกับการเตรียมเอกสาร การยื่นแบบต่างๆ

แต่ถ้าอยากจะยื่นจดบริษัทเองก็ไม่ยากแล้ว ปัจจุบัน กรมพัฒนาธุรกิจ สามารถให้เรายื่นจดจัดตั้งบริษัทออนไลน์กันได้แล้ว และง่ายมากด้วย ไม่เกิน 3 วันเอกสารอัพโหลดเข้าระบบ เราก็ได้ทะเบียนการค้า และเอกสารรับรองต่างๆ ง่ายมาก ไม่เหมือนตอนที่ยังต้องไปดำเนินการเองที่ พาณิชย์จังหวัด รอคิวยื่นเอกสาร บลาๆๆ เป็นเดือนกว่าจะเรียบร้อย วิ่งเข้าออกแต่ละที่กันวุ่นวาย ปัจจุบันนี้โครตง่าย

ถ้าใครสนใจอยากดำเนินการจดบริษัทเอง ลองเข้าไปดูที่นี่นะ ระบบ Biz Regist ที่ทางกรมพัฒนาธุรกิจ เขาทำขึ้นมาง่ายมาก  มีคู่มือทุกสิ่งอย่าง ระบบจองชื่อ ตรวจสอบชื่อธุรกิจ ก็อยู่ในขั้นตอนเลย อยากเพิ่มวัทถุประสงค์อะไร ก็จัดไป มีใครหุ้นบ้าง หุ้นละเท่าไหร่ ให้เสร็จครบจบในที่เดียว ถ้าเงื่อนไขถูกต้อง ทุกอย่างครบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อย ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้ไข ระบบก็จะแจ้งค่าใช้จ่ายให้ สแกนจ่ายได้ทันที่ เริ่มต้นที่ 6,300 บาท (ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท) ถ้ามากกว่าก็เสียเพิ่ม 100,000 ละ 500 บาท เพิ่มเติม ในระบบก็จะสามารถเลือกให้ยื่นจดภาษีมูลค่าเพิ่มได้เลย และระบบยังสามารถเลือก ยื่นประกันสังคมได้ทันที ตั้งแต่ทำธุรกิจมา ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ขนาดนี้ กับระบบ รชก. ดีครับ ดีมาก ขอชื่นชมระบบหลังบ้านนะครับว่ามันง่ายทุกขั้นตอนจริงๆ

ย้อนนึกถึงตอนที่ทำบริษัทฯ แรกๆ กว่าจะจดได้นี่ต้องเซ็นเอกสารเยอะ ต้องเปลี่ยนเอกสาร ต้องนั่น ต้องนี่ กว่าจะได้ เป็นเดือน เสียเงินจ้างเขาทำนะ กว่าจะได้เพราะมันต้องรอคิว ต้องเช็คชื่อว่าซ้ำกันไหม คนที่รับจดก็ต้องเข้าออก บ่อยมาก..บลาๆๆ

เอาละเรื่องจดทะเบียนก็ว่ากันไป จะจ้างเขาจดให้ หรือจะทำเอง ก็สุดแล้วแต่นะครับ เรามาว่ากันต่ออีก ที่ต้องแนะนำสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ หลังจากที่เราจดทะเบียนบริษัทฯ เรียบร้อย ก็คือการเปิดบัญชีธนาคาร ของนิติบุคคล มาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะไม่ทราบว่าทำไมต้องใช้ บัญชีนิติบุคคล

เหตุผลสำคัญที่ควรเปิดบัญชีนิติบุคคล:

- แยกการเงินส่วนตัวออกจากธุรกิจ: บัญชีนิติบุคคลช่วยให้การจัดการเงินของธุรกิจเป็นระบบและป้องกันความสับสนระหว่างเงินส่วนตัวและเงินของบริษัท.
- สร้างความน่าเชื่อถือ: การมีบัญชีนิติบุคคลช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาลูกค้า, คู่ค้า, และสถาบันการเงินต่างๆ.
- อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม: สามารถออกใบแจ้งหนี้, รับเงิน, และทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ได้โดยตรงในนามบริษัท.
- การจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ: ช่วยในการจัดการรายรับ-รายจ่าย, การวางระบบบัญชี, และการตรวจสอบบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ค่าใช้จ่ายที่จ่ายผ่านบัญชีนิติบุคคลสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ (หากเกี่ยวข้องกับธุรกิจ) และช่วยในการยื่นแบบภาษีต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง.
- เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น: สถาบันการเงินมักจะพิจารณาให้สินเชื่อกับนิติบุคคลที่มีการจัดทำบัญชีที่ชัดเจนและมีความมั่นคงทางกฎหมายมากกว่าบุคคลธรรมดา.

เป็นไงครับพอเห็นความสำคัญกันแล้วใช้ไหมครับ แต่บางคนก็อาจจะไม่จำเป็นก็ได้นะครับ เพราะบางธุรกิจ ก็ขายของรับเงินสดอะไรก็ว่ากันไปครับ แต่ถ้าทำเข้าระบบแล้วก็ควรจะทำให้ถูกต้องดีกว่าครับ

นักบัญชีหลายคนก็จะแนะนำว่า จดบริษัทฯ แล้วควรไปเปิดบัญชีเลย จะดีกว่า เพราะเริ่มบัญชีง่าย ประมาณนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใช่ไหมนะ

แต่ๆๆๆๆ...........

มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะสิ เพราะธนาคารเองเขาก็มีเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละที่แตกต่างกันไปอีก ต่างๆ นานา เช่น เงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี ระยะเวลาการจดทะเบียนต้องกี่วันแล้วถึงจะเปิดบัญชีได้ เอกสารต้องอะไรบ้าง บลาๆ ซึ่งก็เป็นปกติของแต่ละธนาคาร แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แต่ละธนาคาร เขายอมให้เปิดบัญชีหลังจากจดทะเบียนแล้วกี่วันถึงจะดำเนินการได้ ขอยกตัวอย่างเอาเท่าที่ทราบนะครับ เช่น

ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
- ถ้าคุณเพิ่งจดทะเบียนมาไม่ถึง 1 ปี คุณไม่มีสิทธิ์ในการเปิดบัญชี นิติบุคคลเลย
- และถ้าคุณเปิดถึง 1 ปีแล้ว คุณก็จะสามารถเปิดได้แค่ บัญชีสะสมทรัพย์ก่อนเท่านั้น ยอดเปิดขั้นต่ำ 1,000 บาท
- และถ้าอยากเปิดบัญชี กระแสรายวัน คุณต้องเดินบัญชีอย่างน้อย 6-12 เดือนก่อนเท่านั้น และยอดเปิดบัญชีขั้นต่ำ 20,000 บาท
- การใช้งานผ่านหน้าเว็บเท่านั้นไม่มีแอป

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- ต้องจดทะเบียนมาแล้ว 30 วัน
- หลังจาก 30 วัน สามารถขอเปิดบัญชี ออมทรัพย์ได้ ยอดเปิดขั้นต่ำประมาณ 500-1000 บาท
- ถ้าต้องการเปิดกระแสรายวัน ต้องเดินบัญชี เกิน 6 เดือน ถึงจะขอเปิดบัญชีกระแสรายวันได้ ยอดเปิดขั้นต่ำ 10,000 บาท
- การใช้งานผ่านแอป SCB Anyware หรือ บนเว็บได้

ธนาคารกรุงไทย (KTB)
- ต้องจดทะเบียนมาแล้ว 30 วัน
- หลังจาก 30 วัน สามารถขอเปิดบัญชี ออมทรัพย์ได้ ยอดเปิดขั้นต่ำประมาณ 500-1000 บาท
- ถ้าต้องการเปิดกระแสรายวัน ต้องเดินบัญชี เกิน 6 เดือน ถึงจะขอเปิดบัญชีกระแสรายวันได้ ยอดเปิดขั้นต่ำ 10,000 บาท
- การใช้งานผ่านแอป Krungthai Business หรือ บนเว็บได้

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
- ต้องจดทะเบียนมาแล้ว 15 วัน (เจ้าหน้าที่สาขาบอกมา) แก้ไข ปัจจุบันสามารถเปิดบัญชีได้เลย
- สามารถขอเปิดบัญชี กระแสรายวันได้เลย ยอดเปิดขั้นต่ำไม่มีเปิดได้เลย แต่ทำเช็คยังไม่ได้ ต้องรอ
- การใช้งาน ผ่านแอป K-Biz หรือ บนเว็บได้

ประมาณนี้นะครับ ส่วนธนาคารอื่นไม่ได้สอบถามมาครับ ก็อาจจะคล้ายๆกัน หรือท่านใดทราบคอมเม้นท์บอกกันได้เพิ่มเติมนะครับ

ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าจะเลือกที่ไหนได้เลยนะครับ แต่ละที่ก็มีแอป สำหรับธุรกิจใช้แยกต่างหาก ส่วนของธ.กรุงเทพ ไม่มีแอป ต้องใช้ผ่านหน้าเว็บเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้ที่เร็วสุดก็เห็นจะเป็นของ ธนาคารกสิกรไทย เพื่อนๆ ก็เลือกตามความชอบได้เลยนะครับ จริงๆธนาคารอื่นก็มีบริการลูกค้าธุรกิจ เช่นเดียวกันนะครับ ผมถามคร่าวแค่ 4 ที่เท่านั้น อาจจะมีเงื่อนไขที่ง่ายกว่านี้ก็ได้ลองสอบถามดูนะครับ

สิ่งที่ต้องเตรียมเลยคือเอกสารต่างๆ นานา และแต่ละธนาคารอาจจะมีขอเอกสารอื่นไเพิ่มแตกต่างกันไป แนะนำ ก่อนเข้าไปให้โทรถามเจ้าหน้าที่ สาขาของธนาคารเลย ย้ำนะครับ ว่าโทรถามสาขาธนาคารที่เราจะใช้บริการ เท่านั้น เพราะถ้าโทรหาส่วนกลาง เอกสารอาจจะไม่ตรงกันครับ ถ้าเป็นไปได้ก็เอาไปหมดเลย

เอกสารเบื้องต้นเลยที่ต้องเตรียม
เอกสารที่ใช้เปิดบัญชีนิติบุคคล มีดังนี้:
- หนังสือรับรองของบริษัท: อายุไม่เกิน 3 หรือ 6 เดือน นับจากวันที่ออกหนังสือรับรอง (แล้วแต่ธนาคารครับ ต้องสอบถาม) 
- หนังสือบริคณห์สนธิ: บอจ. 2
- รายงานการประชุม: หรือหนังสือแจ้งความประสงค์ขอเปิดบัญชี ที่ระบุความประสงค์จะเปิดบัญชีและผู้มีอำนาจในการสั่งจ่าย และต้องระบุสาขาธนาคาร และรูปแบบบัญชีที่จะเปิดด้วย และถ้าต้องการใช้บริการออนไลน์ต่างๆ ของธนาคาร ต้องระบุในวาระเพิ่มเติมด้วย (แล้วแต่ธนาคารต้องโทรถามก่อน)
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น: บอจ. 5 
- รายการจดทะเบียนจัดตั้ง : บอจ. 3 ถ้ามีการแก้ไขให้เอา บอจ. 4 ไปด้วย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน: ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม. 
- สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20): (ถ้ามี). 
- เอกสารแสดงตน: ของผู้มีอำนาจลงนามและผู้มีอำนาจสั่งจ่าย. 
- หนังสือมอบอำนาจ: (ถ้ามี). 
- เงินฝากเริ่มต้น: ตามที่ธนาคารกำหนด 
- อื่นๆ: ตามที่ธนาคารกำหนด บางธนาคารอาจะต้องเอา ทะเบียนบ้านตัวจริงไปด้วย

หมายเหตุ:
- เอกสารบางรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมตามประเภทของนิติบุคคลและนโยบายของธนาคาร. 
- ควรติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมจากธนาคารสาขา เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง. 
- เอกสารที่นำมาแสดง ควรเป็นฉบับจริงและยังไม่หมดอายุ. 

*** ย้ำอีกครั้ง ก่อนเข้าไปควรโทรหาธนาคาร สาขาที่เราจะเข้าไป *** และอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ตรายาง ถ้ายื่นจดไว้เอาไปด้วย อย่าลืม

ถ้าผู้มีอำนาจมีคนเดียว อันนี้ง่ายเลยไม่ต้องไป แต่ๆๆๆ ถ้าหุ้นส่วนที่ถือหุ้นเกิน 25% ต้องให้เขา เซ็นสำเนา บัตรประจำตัวประชาชน ด้วย หรือบางธนาคารอาจจะต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านด้วย แต่เจ้าตัวไม่ต้องไปก็ได้

เท่านี้ก็เรียบร้อย เป็นอย่างไรครับ ยาวหน่อยนะ เพราะบางคนมือใหม่จริงๆ เรื่องนี้อาจจะทำให้เสียเวลาไปธนาคารมากสำหรับบางคน เดี๋ยวไปแล้วแห้วกลับมานะจ๊ะ ยังไงก็ขอให้นักธรกิจมือใหม่ ทำมาค้าขายร่ำรวยนะจ๊ะ... ยังไม่มีบัญชีบริษัทก็เก็บเงินสดไปก่อนนะจ๊ะ...

เพี้ยนกินกล้วยพาพันขอบคุณเพี้ยนยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่