หลังจากห่างหายไปเนิ่นนานที่ไม่ได้เข้าเล่นพันทิป เพราะลืมรหัสบวกกับวุ่นวายกับงานอย่างหนัก ตอนนี้พอเริ่มว่างก็เลยไเกลับมาส่งคำขอไปใหม่ก็เลยเข้าได้ ดีใจมากที่ยังเข้าอันเดิมได้เพราะเท่าที่จำได้พันทิปเป็นอะไรที่สมัครยากมากช่วงปี 2553 เกิ่นหอมปากหอมคอละจะมาแชร์และบอกเล่าเรื่องใหม่ๆที่เพิ่งเคยทำนั้นก็คือ"การเข้าวงการปุ๋ยเกษตร" เพราะช่วงปี 2564กลางๆโควิดนี่อะไรก็เริ่มเงียบ แต่ธุรกิจอาหารออนไลน์โตเอาๆ แต่ธุรกิจแบตเตอรี่ของเราชะลอตัวอย่างมาก เลยคิดว่าอะไรก็คงเปลี่ยนแปลง เผอิญได้เจอเพื่อนเก่าและพี่ๆที่ออกไปทำเกษตรหลายๆคนกลับมาร่วงวงสุรา เลยได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน จนกระทั่งตัวพี่แฝดสนใจในการเกษตรซะงั้น ! "เกิ่นรอบ2 โฮ่ๆๆๆ"
จุดเริ่มต้น
1. ก็ทำการสำรวจตลาดราคาปุ๋ยยา ไม่ว่าจะโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ ราคาส่งปุ๋ยเคมี ช่วงนั้นยังไม่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ไม่ได้ตามข่าว จำได้ว่าปุ๋ยยูเรียสูตรเสมอราคาท้องตลาดก็พอๆกันคือกระสอบละ 900-1000 อ่ะก็ว่ากันไปแต่ละที่ราคาขึ้นบ้างตามความห่างไกลอันนี้เข้าใจได้ แต่พอมาดูปุ๋ยอินทรีย์อย่างเช่นปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด ขี้หมูอัดเม็ด ก็พบว่ากระสอบ50กิโลกรัม กระสอบละ 350-500 บาท
2. พอสำรวจราคาได้สักพักใหญ่ๆ ก็มาสำรวจตลาดผู้ใช้นั้นก็คือตัวเกษตรกร จุดที่เราอึ้งนั้นก็คือ เกษตรกรจะมีการซื้อขายในเชิงของเครดิตกับร้าน อิหยังวะ!! นั้นเท่ากับว่าร้านปุ๋ยต้องมั่นใจและเป็นคนในพื้นที่เกษตรนั้นๆ ต้องมีสายป่านเงินสำรองระยะยาวด้วย แม่เจ้า....
3. เริ่มถามตัวเองว่าเราจะทำตรงไหนได้บ้าง จากการค้าขายธุรกิจปุ๋ย"โดยที่เราไม่ใช่เกษตรกร" ซะเองด้วยการแนะนำการขายเราก็ไม่มีประสบการณ์และร้านที่ขายพวกเฮียๆเค้าก็เก่งและเป็นเจ้าขาประจำในถิ่น "เราคนกทม. ด้วยสิจะเอาเวลาไหนไปบริหาร" ตอนแรกก่ะคิดว่าซื้อมาขายไปง่ายๆ จ้างคนมาขาย แต่....กำไรมันไม่ได้เยอะอย่างที่คิด เริ่มถอดใจ...

กำลังจะลงเงินแต่เบรคซะก่อนจนกระทั่ง.......
4. เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพิ่งมาทราบข่าวจากคนที่เคยคุยว่าปุ๋ยราคาแพงขึ้นไปที่กระสอบละ 1400 จนไปถึง 1700 บาทต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยและที่สำคัญเกษตรก็ไม่มีตังค์มาซื้อต้องเครดิตตามเคย ถ้าลงไปคำนวนแล้วโอกาสแคลชโฟร์อาจสะดุด เราเลยทรงๆชะลอตัวดูสถานการณ์ ช่วงนั้นอะไรก็แพงขึ้นถ้าจำกันได้นะครับ
5. เราเจอผักจีนตีแข่ง !! ใช่ครับเกษตรกรมีต้นทุนต่อการปลูกที่สูงกว่าและพอผักจีนเข้ามามากเกิดอะไรขึ้น แน่นอนราคาย่อมถูกลงนั้นเองช่วงนั้นพี่แฝดก็ทรงๆและทำงานแบตเตอรี่เท่าที่มีไปก่อน พร้อมกับบ่นอุ๊บไปโควิดเพิ่งจบเกิดสงครามต่ออีกละ แล้วเราจะทำไรต่อดีแล้วมีโอกาสได้เข้าโอ้กระจู๋ครั้งแรก พบว่าราคาอาหารต่อจานนั้น....ดีมาก เอ้า ไม่ควรต่อต้านแต่ควรตั้งคำถามว่าเพราะอะไร จนมาจุติคำๆหนึ่งได้ ถ้าคุณรู้ว่าผักจานนี้คือผักที่เป็นออร์แกนิคคุณจะอยากกินมันไหม? แน่นนอนใครๆก็ต้องอยากนั้นจึงเป็นที่มาของเรื่องที่จะเกิดต่อไป
ขอจบตอนแรกก่อนนะ พี่แฝดอยากเล่าความเป็นมาเป็นไปตลอด 3 ปีตั้งแต่ 2564-2568 แต่มันจะยาวและมีรายละเอียดเยอะขอซอย่อยเป็นตอนๆไละกัน
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยครับ
ตอนที่ 1 เริ่มต้นหาอะใหม่ๆทำบ้าง 2564
หลังจากห่างหายไปเนิ่นนานที่ไม่ได้เข้าเล่นพันทิป เพราะลืมรหัสบวกกับวุ่นวายกับงานอย่างหนัก ตอนนี้พอเริ่มว่างก็เลยไเกลับมาส่งคำขอไปใหม่ก็เลยเข้าได้ ดีใจมากที่ยังเข้าอันเดิมได้เพราะเท่าที่จำได้พันทิปเป็นอะไรที่สมัครยากมากช่วงปี 2553 เกิ่นหอมปากหอมคอละจะมาแชร์และบอกเล่าเรื่องใหม่ๆที่เพิ่งเคยทำนั้นก็คือ"การเข้าวงการปุ๋ยเกษตร" เพราะช่วงปี 2564กลางๆโควิดนี่อะไรก็เริ่มเงียบ แต่ธุรกิจอาหารออนไลน์โตเอาๆ แต่ธุรกิจแบตเตอรี่ของเราชะลอตัวอย่างมาก เลยคิดว่าอะไรก็คงเปลี่ยนแปลง เผอิญได้เจอเพื่อนเก่าและพี่ๆที่ออกไปทำเกษตรหลายๆคนกลับมาร่วงวงสุรา เลยได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน จนกระทั่งตัวพี่แฝดสนใจในการเกษตรซะงั้น ! "เกิ่นรอบ2 โฮ่ๆๆๆ"
จุดเริ่มต้น
1. ก็ทำการสำรวจตลาดราคาปุ๋ยยา ไม่ว่าจะโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ ราคาส่งปุ๋ยเคมี ช่วงนั้นยังไม่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ไม่ได้ตามข่าว จำได้ว่าปุ๋ยยูเรียสูตรเสมอราคาท้องตลาดก็พอๆกันคือกระสอบละ 900-1000 อ่ะก็ว่ากันไปแต่ละที่ราคาขึ้นบ้างตามความห่างไกลอันนี้เข้าใจได้ แต่พอมาดูปุ๋ยอินทรีย์อย่างเช่นปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด ขี้หมูอัดเม็ด ก็พบว่ากระสอบ50กิโลกรัม กระสอบละ 350-500 บาท
2. พอสำรวจราคาได้สักพักใหญ่ๆ ก็มาสำรวจตลาดผู้ใช้นั้นก็คือตัวเกษตรกร จุดที่เราอึ้งนั้นก็คือ เกษตรกรจะมีการซื้อขายในเชิงของเครดิตกับร้าน อิหยังวะ!! นั้นเท่ากับว่าร้านปุ๋ยต้องมั่นใจและเป็นคนในพื้นที่เกษตรนั้นๆ ต้องมีสายป่านเงินสำรองระยะยาวด้วย แม่เจ้า....
3. เริ่มถามตัวเองว่าเราจะทำตรงไหนได้บ้าง จากการค้าขายธุรกิจปุ๋ย"โดยที่เราไม่ใช่เกษตรกร" ซะเองด้วยการแนะนำการขายเราก็ไม่มีประสบการณ์และร้านที่ขายพวกเฮียๆเค้าก็เก่งและเป็นเจ้าขาประจำในถิ่น "เราคนกทม. ด้วยสิจะเอาเวลาไหนไปบริหาร" ตอนแรกก่ะคิดว่าซื้อมาขายไปง่ายๆ จ้างคนมาขาย แต่....กำไรมันไม่ได้เยอะอย่างที่คิด เริ่มถอดใจ...
4. เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพิ่งมาทราบข่าวจากคนที่เคยคุยว่าปุ๋ยราคาแพงขึ้นไปที่กระสอบละ 1400 จนไปถึง 1700 บาทต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยและที่สำคัญเกษตรก็ไม่มีตังค์มาซื้อต้องเครดิตตามเคย ถ้าลงไปคำนวนแล้วโอกาสแคลชโฟร์อาจสะดุด เราเลยทรงๆชะลอตัวดูสถานการณ์ ช่วงนั้นอะไรก็แพงขึ้นถ้าจำกันได้นะครับ
5. เราเจอผักจีนตีแข่ง !! ใช่ครับเกษตรกรมีต้นทุนต่อการปลูกที่สูงกว่าและพอผักจีนเข้ามามากเกิดอะไรขึ้น แน่นอนราคาย่อมถูกลงนั้นเองช่วงนั้นพี่แฝดก็ทรงๆและทำงานแบตเตอรี่เท่าที่มีไปก่อน พร้อมกับบ่นอุ๊บไปโควิดเพิ่งจบเกิดสงครามต่ออีกละ แล้วเราจะทำไรต่อดีแล้วมีโอกาสได้เข้าโอ้กระจู๋ครั้งแรก พบว่าราคาอาหารต่อจานนั้น....ดีมาก เอ้า ไม่ควรต่อต้านแต่ควรตั้งคำถามว่าเพราะอะไร จนมาจุติคำๆหนึ่งได้ ถ้าคุณรู้ว่าผักจานนี้คือผักที่เป็นออร์แกนิคคุณจะอยากกินมันไหม? แน่นนอนใครๆก็ต้องอยากนั้นจึงเป็นที่มาของเรื่องที่จะเกิดต่อไป
ขอจบตอนแรกก่อนนะ พี่แฝดอยากเล่าความเป็นมาเป็นไปตลอด 3 ปีตั้งแต่ 2564-2568 แต่มันจะยาวและมีรายละเอียดเยอะขอซอย่อยเป็นตอนๆไละกัน
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยครับ