รถชนครั้งเดียว สะเทือนเงินเก็บทั้งปี “ประกันรถ” เครื่องมือวางแผนความมั่นคง ที่หลายคนมักมองข้าม




การวางแผนการเงินไม่ใช่แค่การออม แต่รวมถึง การป้องกันความเสี่ยงอย่าง “อุบัติเหตุรถยนต์” ที่อาจทำให้เงินเก็บทั้งปีกระเทือน ชวนทำความเข้าใจ “ประกันรถ” สำคัญแค่ไหน? เมื่อหลายคนมักมองข้าม

ความฝันของใครหลาย ๆ คน อาจจะเป็นการที่ได้มีรถยนต์คันแรกในชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะซื้อสดหรือดาวน์แล้วผ่อน จะทางไหนก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจของชีวิต และยังเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ต้องมีความรับผิดชอบตามมาด้วย เพราะรถยนต์ไม่ใช่เพียงแค่ทรัพย์สินทั่วไป แต่มันคือทรัพย์สินชิ้นใหญ่ ที่ต้องมากับการดูแลเอาใจใส่ด้วย

แต่การที่เรามีรถยนต์คันแรก ค่าใช้จ่ายมันไม่ได้จบที่ค่าตัวรถ ค่าดาวน์ ค่าผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่มันมีค่าใช้จ่ายมหาศาลที่เราต้องเตรียมรับมือให้ดีก่อนที่จะซื้อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน/ชาร์จไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษาตามระยะ ค่ายาง ค่างวด(ถ้าผ่อน) ค่าต่อภาษีประจำปี + พ.ร.บ.

ซึ่งยังมีอีกค่าใช้จ่ายหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย นั่นก็คือ “ประกันภาคสมัครใจ” ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่กฎหมายได้บังคับให้มีเหมือน พ.ร.บ. แต่ประกันภาคสมัครใจจะสามารถช่วยซัพพอร์ตเรื่องค่าใช้จ่ายของเราในวันที่เราเกิดอุบัติเหตุได้

Thairath Money พาไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับประกันภาคสมัครใจ คืออะไร มีกี่ประเภท และสำคัญกับชีวิตการเงินของเราอย่างไร?

ประกันภาคสมัครใจคืออะไร
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าประกันรถยนต์ในไทยนั้น สามารถแบ่งออกมาได้ทั้งหมด 2 ประเภท ประเภทแรกคือ “ประกันภาคบังคับ” หรือที่เราเรียกกันว่า พ.ร.บ. (พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) เป็นประกันภัยที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี ต้องทำทุกปี

ประเภทที่สอง “ประกันภาคสมัครใจ” คือประกันที่ตัวเจ้าของรถเองนั้น สามารถเลือกซื้อเพิ่มเองได้ ซึ่งประกันภาคสมัครใจนี้ จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า พ.ร.บ. โดยคุ้มครองตั้งแต่ความเสียหายต่อรถยนต์ของเราเอง การโจรกรรม ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ

ประกันภาคสมัครใจ สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 5 ประเภท

โดยมีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป  

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะครอบคลุมอุบัติเหตุมากที่สุด และเเพงมากที่สุด ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุทั้งมี และไม่มีคู่กรณี ภัยธรรมชาติ การโจรกรรม ฯลฯ

จากนั้น ความคุ้มครอง และราคาก็ลดน้อยลงตามลำดับต่อไปนี้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ , ประกันรถยนต์ชั้น 3+ , ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งจะคุ้มครองอุบัติเหตุน้อยที่สุด

หมายเหตุ : ความคุ้มครอง และราคาจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันเจ้านั้น ๆ

ประกันรถสำคัญกับชีวิตการเงินเราอย่างไร?
การที่เราทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ไม่ได้มีไว้แค่รองรับการเกิดอุบัติเหตุแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในการ “วางแผนการบริหารการเงิน” หรือ “บริหารความเสี่ยง” ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ Personal Finance เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์อุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนในอนาคตได้เลย แต่เราสามารถบริหารความเสี่ยง และวางแผนค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันได้ล่วงหน้าได้ ด้วยการทำประกันภาคสมัครใจ

หากเกิดอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด และต้องรับผิดชอบทั้งหมด ประกันภาคสมัครใจนี้ก็จะสามารถช่วยแบ่งเบาค่าเสียหายที่อาจหนักถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทให้เราได้ ถ้าเราไม่มีประกันภาคสมัครใจตรงนี้เข้ามาช่วย เราจะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทันที ซึ่งอาจจะแพงกว่าค่าเบี้ยประกันรายปีบางเจ้าด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ การทำประกันภาคสมัครใจ ยังช่วยให้เราสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเราจะสามารถรู้ได้ว่าในแต่ละปี เราจะต้องเสียค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่ และสามารถเลือกแผนการชำระที่เหมาะสมกับตัวเองได้ เช่น เลือกชำระครั้งเดียวจับ หรือจะผ่อนเป็นรายเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดในแต่ละเดือน

เราสามารถเลือกความคุ้มครอง ของประกันให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของเราได้ ถ้าเราไม่ได้ขับบ่อย วิ่งแค่ในเมือง อาจจะเลือกแผนประกันที่คุ้มค่า และราคาถูกลง ถ้าใช้รถทุกวัน มีความเสี่ยงสูง ก็สามารถเลือกความคุ้มครองแบบจัดเต็มได้

ฉะนั้น การที่เรามีรถยนต์สักหนึ่งคัน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน ราคาเท่าไหร่ การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ คือการบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่ดีตามหลักของ Personal Finance ที่ทำให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดของเราได้


ที่มา:https://www.thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2872663
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่