บทเรียนของกัมพูชาที่แพ้ศึกครั้งนี้เพราะไม่มีเครื่องบินขับไล่ระบบป้องกันทางอากาศที่ป้องกัน F16

บทเรียนในศึกไทยกัมพูชาปี2554   ตอนนั้นกัมพูชาขาดปืนใหญ่สนับสนุนหลังจากแพ้คราวนั้นก็สะสมอาวุธมาตลอดและแก้เกมด้วยการใช้ BM21 เคลื่อนที่ยิงเร็ว

สงคามไทยกัมพูชาครั้งนี้ปี 2568  กัมพูชาได้บทเรียนในศึกครั้งนี้อีกเพราะไม่คิดว่ากองทัพไทยจะใช้เครื่องบินขับไล่มาตัดกำลังทางยุทธศาสตร์   พวกเขาเสียเปรียบเนื่องจากโดนเครื่องบินทิ้งระเบิด F16 ของไทยเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่พวกเขาตีโต้กลับไม่ได้  ทำให้ขวัญกำลังใจทหารกัมพูชาสูญเสียเนื่องจากตอบโต้กลับไม่ได้ กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่เพื่อขึ้นมาป้องกันทางอากาศยามโดนรุกรานทางอากาศ    ส่วนปืนต่อสู้อากาศยานที่กัมพูชามีสามารถใช้ในระยะทำการเรดาร์ 70 กิโลเมตร   ไทยรู้จุดอ่อนตรงนี้เลยไม่ใช้เครื่องบิน F5 แต่เปลี่ยนไปใช้ F16 และกริพเพ่นแทนทำให้ปืนต่อสู้อากาศยานของทางกัมพูชาไม่สามารถตรวจจับล็อคเป้าเครื่องบินได้คงเป็น 2 เรื่องหลักที่กัมพูชาต้องกลับไปแก้ไขใหม่หลังจบศึกคราวนี้
1. จัดหาเครื่องบินขับไล่  กรณีนี้คงทำได้ยากเพราะไม่มีงบประมาณเพียงพออีกทั้งกว่าจะฝึกนักบินให้พร้อมรบกลับมาสู้กับไทยอีกครั้งใช้เวลาเกิน 10 ปีแน่
2.จัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่ที่สามารถสอย F16 และกริพเพ่นได้ในคราวเดียวกัน เพราะกองทัพอากาศไทยขีดความสามารถไม่หนีจากฝูงบินเหล่านี้
3.ยุทธวิธีการรบของไทยยังยึดหลักแบบเดิมของอเมริกาคือใช้ทหารราบนำก่อนและปืนใหญ่สนับสนุน    กัมพูชายังไม่สามารถแก้ทางปืนใหญ่อัตราจรที่มีอำนาจการยิงเหนือกว่าได้
4.กัมพูชายังไม่พร้อมรบทางทะเล  ตรงนี้ต้องยอมรับว่าขีดความสามารถการรบทั้งอาวุธและทหารเรือยังห่างจากกองทัพไทยอยู่มาก  อาจต้องทบทวนเรื่องเกาะกูดไปด้วย

  ถ้ากัมพูชาแก้ 4 จุดนี้ไม่ได้   กัมพูชาถอยคราวนี้ควรกลับไปทำการบ้านใหม่ไม่ควรรีบกลับมาแก้มือ   ชายแดนไทย กัมพูชา ​น่าจะสงบสุขเกิน 10 ปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่