เรื่องนี้ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ตอนเรียนป.ตรี ก็นั่งเรียนใกล้กัน อยู่สาขาเดียวกัน สาขาเราผู้หญิงเยอะ ผู้หญิง 29 ผู้ชาย 4 คน เพื่อนชาย 2 คน ตอนเรียนเราอยู่กลุ่มใหญ่เกือบสิบคน เราเป็นคนตั้งใจเรียนแต่นั่งเรียนหลังห้องเลย และมีเพื่อนผู้ชาย 3 คน นั่งติดกับเรา เรียนแบบนี้ในห้องสาขากันมา 4 ปี เรามีเพื่อนเยอะ แต่สนิทจริงๆ ไม่กี่คน คุยได้กับทุกคน โดยเพื่อนผู้ชายที่เรามาสนิทจริงตอนหลังเรียนจบมี 1 คน ตอนเรียนเหมือนจะคุยกันได้ เค้าเป็นคนดูเจ้าชู้ เพลย์บอย จีบสาวเยอะ มีแฟนไม่เคยขาด ตอนนั้นก็สนิทกันประมาณนึง มีไปร้านดื่มๆด้วยกันกับเพื่อนๆในกลุ่ม เราไม่ดื่ม แต่ชอบบรรยากาศเวลาไปกับเพื่อนมันคุยกันสนุกดี ฮาๆ เรากับเพื่อนคนนี้ ก็มีเรื่องที่เราไปงอนเค้าไม่พูดกับเค้าเลยเป็นเกือบปี เหตุแค่เราจะเอาหนังสือไปคืนแล้วซ้อนจักรยานเพื่อนอีกคนแล้วหนังสือมันค่อนข้างเยอะเราก็ถือวางบนตัก เค้าวิ่งมาแล้วบอกว่า ฝากคืนด้วย เราก็เลยนึกโมโหตอนนั้นว่าเค้ามีรถยนต์ แต่ฝากเราที่ซ้อนจักรยานเพื่อนซึ่งหนังสือมันหนักและจะรีบเอาไปคืนห้องสมุดจะปิด เราก็ไม่ได้รับฝาก และหลังจากนั้นเราก็ไม่คุยกับเค้าเลย (งงตัวเองเหมือนกัน ไปโกรธอะไรเค้านักหนา 555)
จนได้มาคุยกันอีกทีประมาณปี 3 ไปทริปกันในสาขา เค้าก็นั่งดื่มกับเพื่อนๆผู้ชาย เราก็คอยดูเพื่อนๆเรา จนเค้าคงมึนๆ เลยมาคุยกับเราสองคน ถามเราว่า โกรธอะไรเค้าขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมไม่คุยกับเค้าเลย ถ้าเค้าทำอะไรไม่ดีกับเรา เค้าขอโทษ และให้เรากลับมาคุยกันเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม เราก็บอกเค้าไปว่าโกรธอะไร และหลังจากนั้นก็กลับมาคุยกัน พอเรียนจบเราก็เรียนต่อป.โท ส่วนเค้าก็ทำงาน และเค้าเป็นคนมีแฟนมาตลอด และเป็นคนค่อนข้างดูแลผู้หญิงดีมากๆ จะไปรับส่ง เลี้ยงข้าว ดูแล และตอนนั้นเค้าก็เหมือนจะคบกับเพื่อนในสาขาอีกคนนึง เราก็ไม่ได้ตามข่าว รู้แต่ว่าเค้าไม่ค่อยโสด มีคนคบตลอด แต่เรากับเค้าก็มีอัพเดตเรื่องราวในชีวิตกันบ้าง สมัยนั้นการสื่อสารค่อนข้างลำบาก ไม่ได้มีไลน์ fb จำได้ว่า ปี 1 ใช้ msn ก็หรูแล้ว
เราก็จำเรื่องราวได้บ้างไม่ได้บ้าง พอผ่านมานาน ๆ ก็จำขึ้นมาได้หลายเรื่องราว และเริ่มรู้ว่าเค้าอยู่ในชีวิตเรามาตลอด ห่างกันไปบ้าง เช่น มาดูรูปรับปริญญาตอนป.ตรี ก็มีรูปที่ถ่ายด้วยกันโดยบังเอิญ และตอนเรารับป.โท เค้าก็มาถ่ายรูปกับเราด้วย (ซึ่งเราจำไม่ได้) จนป.เอก เค้าจะไปมหาลัยวันที่เรารับ แต่มันไกล และเข้าค่อนข้างยาก (จำกัดคนเข้าพื้นที่) และช่วงโควิด เลยบอกว่าไม่ต้องมาหรอก ไว้นัดกินข้าวกัน
หลังเรียนจบ ป.โท เราไปทำงานที่ต่างจังหวัดปีกว่า ก็ไม่ได้เจอกัน แต่ก็คุยกันบ้าง ทราบข่าวจาก fb บ้าง (มีบางช่วงเราไม่ได้เล่น fb จะทราบข่าวเค้าจากเพื่อนคนอื่นบ้าง) พอเรากลับมาทำงานที่ปัจจุบัน ไม่ไกลจากบ้านเค้า เค้าก็มีมารับไปกินกาแฟบ้าง เมาท์มอยกันบ้าง โดยเฉพาะตอนเลิกกับแฟน ชอบมาหา มาคุยให้ฟัง เราก็ปลอบใจไป และบอกว่าเดี๋ยวก็มีใหม่ ปกติไม่เคยว่าง ตอนหลัง ๆ เค้าจะเล่าเรื่องคนที่เค้าคบให้ฟังค่อนข้างละเอียดเลย ทำให้รู้ว่าเค้าเป็นคนอ่อนไหว เปราะบางพอสมควร จนเราเคยคิดว่า อยากให้เค้ามีคนดี ๆ ในชีวิต ดูแลเค้าให้ดี เราจะดีใจกับเค้ามาก เพราะพอมาสนิทกันตอนหลัง เค้าเป็นคนละเอียดอ่อน น่ารัก ดูแลอย่างดี (ในฐานะเพื่อน แต่ตอนเรียนไม่ใช่แบบนี้นะ 555 พอมานั่งคิด มันเปลี่ยนไปตอนไหนหว่า) เป็นคนช่วยเหลือคนอื่น แบบเรายังคาดไม่ถึง แต่เป็นมุมน่ารักของเค้า
เข้าเรื่องเลยนะคะ เราก็เพื่อนกันแบบนี้มาเป็นสิบปีค่ะ และตอนหลังจากกินกาแฟ ก็กินข้าวกัน (ไปกันสองคนนะคะ) กาแฟก็กินกันสองคน และเราก็เข้าใจว่า เค้าคงนัดกับเพื่อนในรุ่นคนอื่นๆ บ้างแหละ จนมารู้ทีหลังว่า เพื่อนคนอื่นไม่ได้มีเบอร์เค้า ไม่ได้มีไลน์เค้า มีแต่ fb เพิ่งรู้สามปีนี้เอง มีกินข้าวแถวที่ทำงานใกล้ ๆ จนหลังเรารับป.เอก วันนั้นเป็นวันวาเลนไลน์ เค้าชวนเราไปกินข้าวตอนเย็น เรากลับคอนโดแล้ว เราบอกว่า เราไม่ไป ไม่อยากเห็นคู่กัน 555 เค้าบอกไม่เป็นไร ไปด้วยกัน เค้าจะเลี้ยงข้าวเราที่รับปริญญาด้วย ก็เลยออกไปเจอกัน กินข้าวกันไปตามปกติ (ช่วงนั้นเราอ้วนสุดในชีวิต สูง 162 หนัก 87 อ้วนบวมมาก เพราะเครียดกับการเรียนและการทำงาน) อยู่ดีเค้าก็บอกว่า ถ้าเค้าอายุ 40 เราอายุ 40 เค้ากับเราไม่มีใคร เรามาคบกันดูแลกันไหม (ตอนนั้นเราอายุ 34-35) เราก็บอกว่า เราอยากมีลูก (ไม่รู้พูดไปได้ไง ตอนนั้นอยากมี แต่ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดก่อน) เค้าบอกว่า การมีลูกไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ ต้องวางแผน ดูแลคนหนึ่งอย่างดี และก็จบบทสนทนาแบบนั้น ไม่ได้ตกลงอะไรกัน แต่เค้าบอกว่า เค้าพูดแบบนี้กับเราและเพื่อนผู้หญิงอีกคน
วันนั้นเรากลับมา ก็ไม่ได้คิดอะไร ความรู้สึกช้า หลังจากนั้นก็มีไปไหนกันบ้าง จนมีจุดเปลี่ยน เราอยากไปวัดต่างจังหวัด เดินทางประมาณ 1 ชม. ก็เลยลองชวนเค้าตอนนั้นเที่ยงๆวันเสาร์ ถามว่าว่างไป ไปด้วยกันไหม อยากไปไหว้พระ (กล้าไปชวนเค้านะ) เค้าถามว่าไปกับใคร เราบอกเราไปคนเดียว เค้าบอกรอเค้าแป๊บนึง แล้วเราไปรับเค้า ก็รู้สึกแปลกๆดีนะ แต่ไม่อึดอัดเลย รู้สึกปลอดภัย สบายใจ ที่มีเค้าอยู่ในรถ รู้สึกเหมือนบ้าน (เวลานั่งรถเค้า เราก็รู้สึกแบบนี้ พึ่งพาได้ ไปกับเค้าไม่เคยกลัวอะไร) พอออกจากวัด จะไปกินข้าว ก็มีเหตุ รถเราความร้อนขึ้น เค้าให้เราปิดแอร์ และขับไปจอดที่ปั๊ม เค้าดูแผนที่ว่าปั๊มใกล้ๆอยู่ที่ไหน และจอดรถ ยังไม่ดับเครื่อง เค้าเปิดฝากระโปรง ให้เราเอาผ้าในรถมา และขวดน้ำ เค้าใช้ผ้าจับฝาหม้อน้ำ (ลืมบอกว่าเค้าเก่งเรื่องรถมาก) ซึ่งมึอเค้าก็สั่น ๆ เพิ่งรู้ว่าร้อนมาก แม้มีผ้ารอง ค่อยๆเปิดฝา และใส่น้ำ และเช็คส่วนอื่นให้ ว่ายังวิ่งได้ แต่กลับไปให้เช็ค เพราะหม้อเริ่มตัน และชี้ให้ดู (เรายืนมองแบบสตั้น คิดว่า ทำไมเท่ห์แบบนี้ โคตรเจ๋งเลย) (เรื่องเกี่ยวกับรถ เค้าทำอะไรให้หลายอย่างมาก)
หลังจากทริปนั้นก็นัดไปวัดกันบ่อย ทุกครั้งที่นัดคือไปวัดมีใน กทม. บ้าง ต่างจังหวัดใกล้ๆ บ้าง อยู่ด้วยกัน นานสุดน่าจะสิบชั่วโมง ไปด้วยกันคือไม่เร่งรีบ เค้าเป็นคนที่ไปวัด ทำบุญด้วยแล้วสบายใจมาก เหตุการณ์ต่าง ๆ มีรายละเอียดเยอะมาก แต่สรุปว่า ตอนหลัง ๆ เราเริ่มมาเอ๊ะ ว่าเค้าคิดอะไรกับเรามั้ย ตอนนั้นที่พูดหรือเพราะเค้าเหงา ไม่มีใคร เพราะเราไม่ใช่สเปคเค้าเลยจากที่เคยเห็นผู้หญิงที่ผ่านมา แต่เราไม่ได้คุยกันทุกวัน หรือแนวจีบกันเลย แต่จะเป็นแนวช่วยเหลือกันมากกว่า และเค้าดีกับเราแบบเล่าให้เพื่อนในรุ่นฟัง เพื่อนจะงง เพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเค้า จนตอนหลังก็มีทั้งเราชวนเค้า และเค้าชวนเรา หรือการขอความช่วยเหล่ือ เช่น เราบินกลับจากต่างจังหวัด ถึงดอนเมืองสี่ทุ่มกว่าเราต้องนั่ง taxi กลับ เลยไลน์บอกเค้าว่า ขอโทรหานะถ้ามีอะไร จะไลน์บอกว่าถึงไหน เค้าบอกว่า เดี๋ยวเค้ามารับ สรุปเค้าก็มารับเรา และเราก็เลี้ยงข้าวเค้า เค้าบอกว่า มีให้รับส่งอีกบอกได้นะ เราก็บอกว่ามีอีกวันที่เท่านี้ เค้าก็ตื่นเช้ามารับเรา ตื่นตีสี่ และมารับกลับตอนค่ำ บางอย่างเราก็ wow กับสิ่งที่เค้าทำให้ (จริง ๆ มีเรื่องอีกเยอะเลยค่ะ แต่เดี๋ยวจะนอกประเด็น)
ขอถามเพื่อนผู้ชายว่า ปกติทำให้เพื่อนผู้หญิงแบบนี้กันไหมคะ หรือระดับความสนิทกันขนาดไหน (เราสนิทกัน แต่เรากับเค้าไม่เคยพูด กรูหรือ

เลย และไม่ค่อยทะเลาะหรือพูดไม่ดีใส่กัน) จะเรียกว่าเค้าเป็นเพื่อนผู้ชายที่เราสนิทสุดเลยก็ว่าได้ หรือเพื่อนผู้หญิงที่มีเพื่อนสนิทผู้ชาย ปกติคือทำอะไรให้กันขนาดไหน แล้วการพูดคุยเป็นยังไงคะ
Friend Zone หรือ Comfort Zone
จนได้มาคุยกันอีกทีประมาณปี 3 ไปทริปกันในสาขา เค้าก็นั่งดื่มกับเพื่อนๆผู้ชาย เราก็คอยดูเพื่อนๆเรา จนเค้าคงมึนๆ เลยมาคุยกับเราสองคน ถามเราว่า โกรธอะไรเค้าขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมไม่คุยกับเค้าเลย ถ้าเค้าทำอะไรไม่ดีกับเรา เค้าขอโทษ และให้เรากลับมาคุยกันเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม เราก็บอกเค้าไปว่าโกรธอะไร และหลังจากนั้นก็กลับมาคุยกัน พอเรียนจบเราก็เรียนต่อป.โท ส่วนเค้าก็ทำงาน และเค้าเป็นคนมีแฟนมาตลอด และเป็นคนค่อนข้างดูแลผู้หญิงดีมากๆ จะไปรับส่ง เลี้ยงข้าว ดูแล และตอนนั้นเค้าก็เหมือนจะคบกับเพื่อนในสาขาอีกคนนึง เราก็ไม่ได้ตามข่าว รู้แต่ว่าเค้าไม่ค่อยโสด มีคนคบตลอด แต่เรากับเค้าก็มีอัพเดตเรื่องราวในชีวิตกันบ้าง สมัยนั้นการสื่อสารค่อนข้างลำบาก ไม่ได้มีไลน์ fb จำได้ว่า ปี 1 ใช้ msn ก็หรูแล้ว
เราก็จำเรื่องราวได้บ้างไม่ได้บ้าง พอผ่านมานาน ๆ ก็จำขึ้นมาได้หลายเรื่องราว และเริ่มรู้ว่าเค้าอยู่ในชีวิตเรามาตลอด ห่างกันไปบ้าง เช่น มาดูรูปรับปริญญาตอนป.ตรี ก็มีรูปที่ถ่ายด้วยกันโดยบังเอิญ และตอนเรารับป.โท เค้าก็มาถ่ายรูปกับเราด้วย (ซึ่งเราจำไม่ได้) จนป.เอก เค้าจะไปมหาลัยวันที่เรารับ แต่มันไกล และเข้าค่อนข้างยาก (จำกัดคนเข้าพื้นที่) และช่วงโควิด เลยบอกว่าไม่ต้องมาหรอก ไว้นัดกินข้าวกัน
หลังเรียนจบ ป.โท เราไปทำงานที่ต่างจังหวัดปีกว่า ก็ไม่ได้เจอกัน แต่ก็คุยกันบ้าง ทราบข่าวจาก fb บ้าง (มีบางช่วงเราไม่ได้เล่น fb จะทราบข่าวเค้าจากเพื่อนคนอื่นบ้าง) พอเรากลับมาทำงานที่ปัจจุบัน ไม่ไกลจากบ้านเค้า เค้าก็มีมารับไปกินกาแฟบ้าง เมาท์มอยกันบ้าง โดยเฉพาะตอนเลิกกับแฟน ชอบมาหา มาคุยให้ฟัง เราก็ปลอบใจไป และบอกว่าเดี๋ยวก็มีใหม่ ปกติไม่เคยว่าง ตอนหลัง ๆ เค้าจะเล่าเรื่องคนที่เค้าคบให้ฟังค่อนข้างละเอียดเลย ทำให้รู้ว่าเค้าเป็นคนอ่อนไหว เปราะบางพอสมควร จนเราเคยคิดว่า อยากให้เค้ามีคนดี ๆ ในชีวิต ดูแลเค้าให้ดี เราจะดีใจกับเค้ามาก เพราะพอมาสนิทกันตอนหลัง เค้าเป็นคนละเอียดอ่อน น่ารัก ดูแลอย่างดี (ในฐานะเพื่อน แต่ตอนเรียนไม่ใช่แบบนี้นะ 555 พอมานั่งคิด มันเปลี่ยนไปตอนไหนหว่า) เป็นคนช่วยเหลือคนอื่น แบบเรายังคาดไม่ถึง แต่เป็นมุมน่ารักของเค้า
เข้าเรื่องเลยนะคะ เราก็เพื่อนกันแบบนี้มาเป็นสิบปีค่ะ และตอนหลังจากกินกาแฟ ก็กินข้าวกัน (ไปกันสองคนนะคะ) กาแฟก็กินกันสองคน และเราก็เข้าใจว่า เค้าคงนัดกับเพื่อนในรุ่นคนอื่นๆ บ้างแหละ จนมารู้ทีหลังว่า เพื่อนคนอื่นไม่ได้มีเบอร์เค้า ไม่ได้มีไลน์เค้า มีแต่ fb เพิ่งรู้สามปีนี้เอง มีกินข้าวแถวที่ทำงานใกล้ ๆ จนหลังเรารับป.เอก วันนั้นเป็นวันวาเลนไลน์ เค้าชวนเราไปกินข้าวตอนเย็น เรากลับคอนโดแล้ว เราบอกว่า เราไม่ไป ไม่อยากเห็นคู่กัน 555 เค้าบอกไม่เป็นไร ไปด้วยกัน เค้าจะเลี้ยงข้าวเราที่รับปริญญาด้วย ก็เลยออกไปเจอกัน กินข้าวกันไปตามปกติ (ช่วงนั้นเราอ้วนสุดในชีวิต สูง 162 หนัก 87 อ้วนบวมมาก เพราะเครียดกับการเรียนและการทำงาน) อยู่ดีเค้าก็บอกว่า ถ้าเค้าอายุ 40 เราอายุ 40 เค้ากับเราไม่มีใคร เรามาคบกันดูแลกันไหม (ตอนนั้นเราอายุ 34-35) เราก็บอกว่า เราอยากมีลูก (ไม่รู้พูดไปได้ไง ตอนนั้นอยากมี แต่ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดก่อน) เค้าบอกว่า การมีลูกไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ ต้องวางแผน ดูแลคนหนึ่งอย่างดี และก็จบบทสนทนาแบบนั้น ไม่ได้ตกลงอะไรกัน แต่เค้าบอกว่า เค้าพูดแบบนี้กับเราและเพื่อนผู้หญิงอีกคน
วันนั้นเรากลับมา ก็ไม่ได้คิดอะไร ความรู้สึกช้า หลังจากนั้นก็มีไปไหนกันบ้าง จนมีจุดเปลี่ยน เราอยากไปวัดต่างจังหวัด เดินทางประมาณ 1 ชม. ก็เลยลองชวนเค้าตอนนั้นเที่ยงๆวันเสาร์ ถามว่าว่างไป ไปด้วยกันไหม อยากไปไหว้พระ (กล้าไปชวนเค้านะ) เค้าถามว่าไปกับใคร เราบอกเราไปคนเดียว เค้าบอกรอเค้าแป๊บนึง แล้วเราไปรับเค้า ก็รู้สึกแปลกๆดีนะ แต่ไม่อึดอัดเลย รู้สึกปลอดภัย สบายใจ ที่มีเค้าอยู่ในรถ รู้สึกเหมือนบ้าน (เวลานั่งรถเค้า เราก็รู้สึกแบบนี้ พึ่งพาได้ ไปกับเค้าไม่เคยกลัวอะไร) พอออกจากวัด จะไปกินข้าว ก็มีเหตุ รถเราความร้อนขึ้น เค้าให้เราปิดแอร์ และขับไปจอดที่ปั๊ม เค้าดูแผนที่ว่าปั๊มใกล้ๆอยู่ที่ไหน และจอดรถ ยังไม่ดับเครื่อง เค้าเปิดฝากระโปรง ให้เราเอาผ้าในรถมา และขวดน้ำ เค้าใช้ผ้าจับฝาหม้อน้ำ (ลืมบอกว่าเค้าเก่งเรื่องรถมาก) ซึ่งมึอเค้าก็สั่น ๆ เพิ่งรู้ว่าร้อนมาก แม้มีผ้ารอง ค่อยๆเปิดฝา และใส่น้ำ และเช็คส่วนอื่นให้ ว่ายังวิ่งได้ แต่กลับไปให้เช็ค เพราะหม้อเริ่มตัน และชี้ให้ดู (เรายืนมองแบบสตั้น คิดว่า ทำไมเท่ห์แบบนี้ โคตรเจ๋งเลย) (เรื่องเกี่ยวกับรถ เค้าทำอะไรให้หลายอย่างมาก)
หลังจากทริปนั้นก็นัดไปวัดกันบ่อย ทุกครั้งที่นัดคือไปวัดมีใน กทม. บ้าง ต่างจังหวัดใกล้ๆ บ้าง อยู่ด้วยกัน นานสุดน่าจะสิบชั่วโมง ไปด้วยกันคือไม่เร่งรีบ เค้าเป็นคนที่ไปวัด ทำบุญด้วยแล้วสบายใจมาก เหตุการณ์ต่าง ๆ มีรายละเอียดเยอะมาก แต่สรุปว่า ตอนหลัง ๆ เราเริ่มมาเอ๊ะ ว่าเค้าคิดอะไรกับเรามั้ย ตอนนั้นที่พูดหรือเพราะเค้าเหงา ไม่มีใคร เพราะเราไม่ใช่สเปคเค้าเลยจากที่เคยเห็นผู้หญิงที่ผ่านมา แต่เราไม่ได้คุยกันทุกวัน หรือแนวจีบกันเลย แต่จะเป็นแนวช่วยเหลือกันมากกว่า และเค้าดีกับเราแบบเล่าให้เพื่อนในรุ่นฟัง เพื่อนจะงง เพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเค้า จนตอนหลังก็มีทั้งเราชวนเค้า และเค้าชวนเรา หรือการขอความช่วยเหล่ือ เช่น เราบินกลับจากต่างจังหวัด ถึงดอนเมืองสี่ทุ่มกว่าเราต้องนั่ง taxi กลับ เลยไลน์บอกเค้าว่า ขอโทรหานะถ้ามีอะไร จะไลน์บอกว่าถึงไหน เค้าบอกว่า เดี๋ยวเค้ามารับ สรุปเค้าก็มารับเรา และเราก็เลี้ยงข้าวเค้า เค้าบอกว่า มีให้รับส่งอีกบอกได้นะ เราก็บอกว่ามีอีกวันที่เท่านี้ เค้าก็ตื่นเช้ามารับเรา ตื่นตีสี่ และมารับกลับตอนค่ำ บางอย่างเราก็ wow กับสิ่งที่เค้าทำให้ (จริง ๆ มีเรื่องอีกเยอะเลยค่ะ แต่เดี๋ยวจะนอกประเด็น)
ขอถามเพื่อนผู้ชายว่า ปกติทำให้เพื่อนผู้หญิงแบบนี้กันไหมคะ หรือระดับความสนิทกันขนาดไหน (เราสนิทกัน แต่เรากับเค้าไม่เคยพูด กรูหรือ