ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกต่อ ด้านราคาน้ำมัน - ราคาทองปิดร่วง

KEY POINTS
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนบวก โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
ราคาน้ำมันดิบทั้งของสหรัฐฯ และเบรนต์ปรับตัวลดลง โดยน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.32%
ราคาทองคำร่วงลงจากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เฝ้าระวังความเสี่ยงในสัปดาห์หน้า ซึ่งรวมถึงการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) การประกาศผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า
 

ดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนบวก พร้อมสร้างผลตอบแทนรายสัปดาห์ในเชิงบวก โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่ดัชนี Dow Jones ปิดใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2024 โดยห่างเพียง 0.25%
 

ราคาทองคำอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความเสี่ยง ซึ่งลดความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัย
 

การประชุม Fed และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในสัปดาห์หน้า โดยมีแนวโน้มว่าธนาคารจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในกรอบ 4.25% ถึง 4.50% ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากประธานาธิบดีทรัมป์ที่เรียกร้องให้มีการลดอัตราดอกเบี้ย
 

ความเคลื่อนไหวด้านการค้าและผลประกอบการ
 

ใกล้ถึงเส้นตายการเจรจาในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ สหรัฐฯ และพันธมิตรการค้าต่างเร่งเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้ารอบใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จากฝั่งยุโรปแสดงความหวังหลังจากบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
 

Intel หนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก เผชิญแรงเทขายหลังคาดการณ์ผลประกอบการขาดทุนมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ พร้อมประกาศระงับหรือยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงงานใหม่ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 8.5%
 

จนถึงขณะนี้ บริษัทในดัชนี S&P 500 กว่า 1 ใน 3 ได้ประกาศผลประกอบการแล้ว โดย 80% ของบริษัทเหล่านี้มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลจาก LSEG ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของกำไรไตรมาส 2 แบบปีต่อปีขึ้นเป็น 7.7% จากเดิมที่ 5.8% ณ วันที่ 1 กรกฎาคม
 

สำหรับสัปดาห์หน้า นักลงทุนเตรียมจับตาการประกาศผลประกอบการของ 4 บริษัทในกลุ่ม “Magnificent 7” ซึ่งได้แก่ Amazon, Apple, Meta และ Microsoft โดยนักลงทุนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อคำชี้แจงของผู้บริหารในประเด็นที่เกี่ยวกับการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านภาษีต่อแนวโน้มผลประกอบการในอนาคต
 

ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ยังชี้ให้เห็นถึงคำสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐานที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด สะท้อนความลังเลของภาคธุรกิจต่อการลงทุนขนาดใหญ่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้า
ภาพรวมตลาดการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์
 

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ:
• Dow Jones เพิ่มขึ้น 208.01 จุด (+0.47%) ปิดที่ 44,901.92 จุด
• S&P 500 เพิ่มขึ้น 25.30 จุด (+0.40%) ปิดที่ 6,388.65 จุด
• Nasdaq เพิ่มขึ้น 50.36 จุด (+0.24%) ปิดที่ 21,108.32 จุด
 

• ค่าเงินดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับขึ้น 0.23% สู่ระดับ 97.68
• ยูโรอ่อนค่าลง 0.11% อยู่ที่ 1.1741 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับเยน อยู่ที่ 147.65 เยนต่อดอลลาร์
 

• ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี:
• Bitcoin ลดลง 1.66% ปิดที่ 116,805.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ
• Ethereum ลดลง 2.52% ปิดที่ 3,645.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ
 

• ราคาน้ำมัน:
• น้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.32% ปิดที่ 65.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
• น้ำมันดิบเบรนต์ ลดลง 1.07% ปิดที่ 68.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
 

• ราคาทองคำ:
• ราคาทองสปอตลดลง 0.9% อยู่ที่ 3,337.66 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
• สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 1.24% ปิดที่ 3,329.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่