2568 เมื่อร้านค้า (โรงแรม) คืนเงินเป็นสกุลต่างประเทศเข้าบัตรเครดิต ได้ไม่เท่าเดิม คุณจะทำอย่างไร

ผู้ให้บริการบางกลุ่มทำรายการในลักษณะตัดเงินเรียกเก็บเข้าบัตรเครดิตในทันที (ไม่ใช่แค่กันวงเงินไว้) หลักจากนั้นก็คืนเงินแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรภายหลังเต็มจำนวน ซึ่งผิวเผินฟังดูเป็นเหตุเป็นผลและเป็นยุติธรรมดีแล้ว

อย่างไรก็ดี เมื่อทำรายการเป็นสกุลต่างประเทศ สิ่งที่ลูกค้าจะต้องเผชิญ คือ

1. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (บางครั้งเราก็กำหนดได้เองว่าจะกดซื้อหรือกดยกเลิก/refund เมื่อใด แต่บางครั้งเราก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพียงแต่รอเวลาว่าเขาจะทำรายการให้เมื่อใด โดยที่ไม่คิดในแง่ร้ายว่าร้านค้าจะเอาเปรียบ เพราะเขาก็ได้สกุลเงินเป็น local currency ของตัวเองเท่าเดิม เพียงแต่ทำรายการให้ในเวลาที่เขาสะดวกเท่านั้น)

2. ค่าธรรมเนียม (ประมาณ) 2.5% เพิ่มเติมนอกเหนืออัตราที่กำหนดโดยเครือข่ายบัตร (อัตราค่าธรรมเนียมแล้วแต่บริษัทผู้ออกบัตรเครดิต/เดบิตกำหนด และนำมาขายแข่งกันในท้องตลาด)

3. ผลกระทบต่อโครงการโปรโมชั่นของบัตรเครดิต ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาร่วมรายการ หากยกเลิกแล้วเรียกเก็บใหม่ในเวลาที่แตกต่างกัน ยอดจำนวนใช้และเวลาที่ร่วมรายการก็คลาดเคลื่อนไปทั้งหมด

----

ผมเข้าใจว่าแต่ละบัตรมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน และพยายามปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเอง แต่ก็ไม่คิดจะเอาเปรียบกันจนเกินไปโดยหวังเอาประโยชน์ทุกข้อ 1-2-3 ถ้าทราบเงื่อนไขให้ชัดแจ้งก็จะทราบแนวทางการใช้งาน  เท่าที่ดูประวัติกระทู้เก่าในพันทิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าจะดำเนินการไปในทางใดและกระทู้เก่าก็คือกระทู้เก่า เวลาเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปมาก จึงขอเล่าให้ฟังและถามคำถามไปในตัวในฐานะคนที่ไปทำงานต่างประเทศอยู่บ่อยในอดีตและกำลังจะเริ่มกลับมาผาดโผนในวงการอีกครั้ง

1. บัตรธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีอีกแล้ว ค่อนข้างชัดเจนว่าขอคืนส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนได้ทั้งจำนวน เนื่องจากส่วนต่างเกิดขึ้นจาก 2.5% x 2 = 5% (จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดกำไรจากการ refund เป็นผลให้ไม่ต้องไปขอคืนส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน หากยอด refund สูงกว่ายอดใช้จ่าย)
ในสิบปีที่ผ่านมา เข้าใจว่าผมขอไปเพียง 1-2 ครั้ง กรอกได้ตามแบบฟอร์มเป็นปกติ โดยมีข้อความเขียนไว้เด่นชัดสำหรับกรณีเช่นนี้

2. ธนาคารทหารไทยธนชาต (เดิมในขณะนั้นคือทหารไทย)  ผมเคย charge back ร้านค้าที่ทำรายการซ้ำในทันทีที่เห็นรายการในแอปจากต่างประเทศ รวมถึงติดต่อกลับ call center อีกหลายเดือนต่อมา เขาตอบว่าร้านค้า refund ให้แล้วแต่ยอดไม่เท่ากัน เขาถามผมว่าลูกค้า serious ไหม  ผมตอบว่าซีเรียสซิครับเพราะติดต่อหาธนาคารผู้ออกบัตรทันทีตั้งแต่อยู่ต่างประเทศ  แม้ยอดส่วนต่างจะเป็นเพียง xx.xx บาท มันก็สำคัญเพราะกรณี charge back มันคือลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เป็นปัญหาของร้านค้า  พนักงานรับทราบว่าขอยอดคืนเต็ม แล้วอีกสักสองสามวันก็ปรับปรุงยอดให้

ต่อมาเป็นกรณี refund ของทหารไทยธนชาต แต่ว่าผ่านมายาวนาน (น่าจะ > 3 เดือน เพราะเป็นปัญหาของร้านค้าเอง)  ผมก็ขอแบบเดิม คำตอบคือไม่ได้ refund ในวันเดียวกัน (หรือรอบเดียวกัน) จะไม่ยกเว้นส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนให้ ผมก็รับทราบและยกเลิกบัตรในเวลาต่อมา

3. ตอนนี้อยู่กับกรุงศรีและกรุงไทยนะครับ สถาบันการเงินที่ควบรวมกันทั้งหลายได้ทยอยเลิกใช้ไปแล้ว และมีกรณีเงินคืนเป็นสกุลต่างประเทศเกิดขึ้นที่กรุงศรีเป็นแห่งแรก ยังไม่ไปถึงขั้นเห็นใบแจ้งยอดประจำเดือน แต่รายการบันทึกเรียกเก็บเข้าทั้งหมดแล้ว และจะสรุปในรอบบัญชีเดียวกันต้นเดือนหน้า ยอดส่วนต่างคราวนี้เพียง 1xx.xx บาท  แต่ที่เขียนมานี้ให้เป็นตัวอย่าง เพราะในที่สุดก็ต้องมียอดทำรายการสูงและมีผลกระทบที่สำคัญตามมาได้หากมีความไม่แน่นอนหรือไม่แน่ใจในวิธีปฏิบัติงาน

ก. มีส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าจะเป็นบวกเล็กน้อย เข้าใจว่าอย่างนั้น
ข. แต่ก็ไม่ถึงกับพอจะชดเชย  2.5% แปลงไปกลับได้  เพราะเห็นยอดสุทธิแล้วมีส่วนต่างสุทธิเป็นลบน้อยกว่า 2.5% เล็กน้อย (หากเข้าใจผิดก็ช่วยอธิบายนะครับว่า 2.5% ต้องคูณสองทางหรือคิดทางเดียว)
ค. ในส่วนโปรโมชั่น อ่านตามเงื่อนไข สิ่งที่ถูก refund ไปแล้วควรจะถูกตัดออก แต่ใน uchoose ยัง track ให้อยู่เป็นยอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข

ถามว่าลูกค้าต้องการอย่างไร เอาแบบแฟร์ๆ ก็คือ
- คืนยอดเต็มจำนวนแล้วตัดยอดออกจากโปรโมชั่น  หรือ
- ปล่อยยอดคืนที่มีส่วนต่างไว้อย่างนั้น แต่ไม่ตัดรายการของลูกค้าออกจากส่วนร่วมโปรโมชั่น
เพียงทางใดทางหนึ่งก็ยุติธรรม เพียงแต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนมีความไม่แน่นอนว่าเวลาผ่านไปพอปิดโปรโมชั่นยอดรวมการใช้อาจถูกคำนวณใหม่ กลายเป็นว่าลูกค้าเสียหายส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนไปฟรีไม่ได้อะไรกลับมาเลย (ทั้งที่ทุกฝ่าย - card network and card issuer ได้ค่าธรรมเนียมของตนเองไปแล้ว)

----

อนึ่ง เนื่องจากผู้อ่านแต่ละท่านใช้บัตรไม่เหมือนกันอาจะไม่มีเวลาได้ศึกษาก่อนใช้งาน สองสามทางที่เลี่ยงปัญหาได้ (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมรายปีหรือมีปัญหาอื่นได้) คือ

1. ให้ร้านค้า/โรงแรม/สายการบิน refund ในลักษณะ voucher เพื่อใช้งานในสกุลต่างประเทศนั่นเลยกับร้านค้าเดิมหรือเครือข่ายของเขา  ผมได้พยายามทำในช่องทางนี้แล้ว แต่รอเวลานานหลายสัปดาห์จึงต้องตัดใจปิดการดำเนินการให้เสร็จสิ้นด้วยการ refund + rebook แล้วจะค่อยไปแจ้งร้องเรียนภายหลัง (หากมีความเสียหายที่ชัดเจนที่เกิดขึ้นในฝั่งลูกค้าที่ลงรายการในบัตรเครดิต หากไม่มีร้านค้าก็จะถูกบ่นเรื่องปัญหาอื่นของเขาที่ไม่เกี่ยวกับการเงิน)  

2. ใช้บัตรที่เป็น foreign currency โดยตรง (เข้าใจว่าเป็นเดบิตทั้งหมด) จะไม่มีโปรโมชั่นส่วนลดที่ให้ % สูง และ/หรือ มีค่าธรรมเนียมรายปี (ตัวอย่างหนึ่ง คือ บัตรของธนาคารกรุงไทยเปิดคู่บัญชีเงินฝากต่างประเทศไปเลย)

3. ใช้บัตรที่ไม่เก็บ 2.5% เลย คือ คิดอัตรา 0% (มีทั้งเครดิตและเดบิต) (ลูกค้ายังต้องแบกรับความเสี่ยงหรือได้รับผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน) มีตัวเลือกในตลาดไม่มาก อาจมีเงื่อนไขคุณสมบัติการสมัคร หรือ มีค่าธรรมเนียมรายปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่