เพนกวิน ยก คดีน้องเมย ชี้ปล่อย ‘อานนท์ นำภา’ มีประโยชน์กว่าขังไว้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5287530
.
.
เพนกวิน ยก คดีน้องเมย ชี้ปล่อย ‘อานนท์ นำภา’ มีประโยชน์กว่าขังไว้
.
คดีน้องเมย – กรณี นาย
ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ
น้องเมย อดีตนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 โดยครอบครัวต่อสู้คดีมานานกว่า 8 ปี
.
วานนี้ (22 ก.ค.) ศาลทหารพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่าด้วยอายุจำเลยไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท ให้รอลงอาญา 2 ปี ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นาย
พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นต่อ คดีน้องเมย ว่า
.
“ถ้าจะไม่จำคุกคนฆ่าน้องเมยด้วยเหตุผลว่า “ขังไปก็ไม่มีประโยชน์ ให้อยู่เป็นทหารต่อมีประโยชน์กว่า” ผมว่าก็ปล่อยอานนท์ นำภา (และคนอื่น ๆ) ออกมาเถอะครับ ปล่อยให้เขาออกมาเป็นทนายความน่าจะมีประโยชน์กว่าขังเขาไว้เป็นนักโทษการเมืองครับ”
.
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/pfbid0382dDXbQvTZXdo62Nwa1qcvnmQMP5DuTzSrw8Cn26pRj3ATxSeHwfVUu28n7qsDcZl
.
.
ไหม คาดดีลภาษีทรัมป์ได้ไม่เกิน 20% ชี้อภิปรายม.152 เรื่องเดียวเสียของ เตือนภท.เก็บกระสุนไว้ https://www.matichon.co.th/politics/news_5287581
.
‘ไหม’ คาดไฟนอลภาษีทรัมป์ ไทยได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ แนะ ‘รัฐบาล’ เร่งเตือนเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้แล้ว หากเปิดเสรีให้สหรัฐเต็มที่ ชี้ เปิด 152 เรื่องเดียวเสียของ เตือน ‘ภูมิใจไทย’ ในฐานะที่อภิปรายมาหลายปี ควรเก็บกระสุนไว้ ถ้าเนื้อหาไม่กว้าง แค่ญัตติด่วนก็พอ
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยกับสหรัฐอเมริกาที่รัฐบาลจะส่งเสนอให้สหรัฐฯ รอบสุดท้าย ว่า เวลาเหลือน้อยลงมาเรื่อยๆ แต่เรายังคงแก้ไขข้อเสนอกลับไปกลับมากับสหรัฐฯ อยู่ โดยมีหลายประเทศที่บรรลุข้อตกลงแล้วไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ที่ได้เกรดเดียวกับอินโดนีเซียอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์ หรือญี่ปุ่นที่ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับเราต้องรอไฟนอล บีบหัวใจของคนไทยทุกคนว่าสุดท้ายจะโดนอัตราภาษีที่เท่าไหร่ และจำเป็นต้องเปิดตลาดให้สหรัฐมากขนาดไหน
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า การเจรจาครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อลดอัตราภาษีอย่างเดียว เพราะหากจำได้ประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เดือนเมษายนเขาได้ 17 เปอร์เซ็นต์ แต่พอต้นเดือนกรกฎาคม ขึ้นเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ พอปิดดีลจบที่ 19 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ประกาศในครั้งแรก ดังนั้น เมื่อดูจากอัตราภาษีหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับจะอยู่ 19-20 เปอร์เซ็นต์ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าประเทศไทยน่าจะใกล้ๆ กัน คงไม่ลดลงไปถึงญี่ปุ่น คืออยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องแลกกับการนำเงินไปลงทุนในสหรัฐ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
เมื่อถามว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่าจะไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ มองว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะจบไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ได้ ถ้าดูตัวอย่างจากอินโดนีเซีย และทางอินโดนีเซียก็มีการเปิดเผยเงื่อนไขที่ให้ไปกับสหรัฐ เช่น การยกเลิกการจัดเก็บภาษีดิจิทัลในโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ และข้อตกลงในการส่งออกแร่สำคัญ รวมถึงยอมรับมาตรฐานรถยนต์ของสหรัฐ แต่สุดท้ายก็ต้องรอฟังคำตอบจากโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนเดียว เพราะเวลาที่เจรจาก็เป็นแบบหนึ่ง แต่พอประกาศออกมาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เราทำได้แค่ส่งใจช่วยให้ประเทศไทยยืนหลักการหนักแน่น ไม่นำสินค้าเกษตรไปแลกมากจนเกินไป ทั้งที่ไม่มีการเตรียมมาตรการเยียวยาให้กับเกษตรกรที่ถูกนำสินค้าตัวเองไปขึ้นโต๊ะเจรจา ไม่เช่นนั้น เราจะทำให้ผู้ที่เสียประโยชน์ แม้จะน้อยนิด เมื่อเทียบกับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เราได้มา แต่จำนวนคนที่จะได้รับผลกระทบมีค่อนข้างมาก เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เรามีเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 แสนราย ก็คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและลึก จึงต้องดูว่าเวลาเปิด เปิดฟรีเลยหรือไม่ หรือจะเป็นการจำกัดโควตาเข้ามา
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า หากมีการเปิดเสรี สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือเตือนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตอนนี้ได้แล้วว่าให้เปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น ถ้าเราเอาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปเปิดเสรีให้กับสหรัฐทั้งหมด ไม่เช่นนั้น เราจะไม่สามารถแข่งขันได้ ตนได้ข่าวว่าบริษัทผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศหยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีการประกันราคาที่ 7 บาท แต่ก็ไม่รับซื้อ ดังนั้นเกษตรกรกำลังกังวลกับอนาคตของตัวเองอยู่
.
เมื่อถามถึง กรณีการสวมใส่สินค้าจีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ ถ้าเป็นสินค้าที่เราตรวจจับง่ายๆ แค่เข้ามาผ่านทางแล้วออกไป เราก็ไม่ยอมให้เขามานุ่งโจงกระเบน แล้วตีตราว่าเป็นสินค้าไทยอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะสหรัฐฯ อาจจะตั้งเกณฑ์ ต้องเป็นวัตถุดิบที่ผลิตในไทย ทำให้เราไม่สามารถใช้วัตถุดิบที่ผลิตจากประเทศจีนได้เลย ซึ่งเป็นความซับซ้อนและยุ่งยาก เพราะสหรัฐฯต้องการที่จะตัดห่วงโซ่อุปทานที่ไทยมีกับประเทศจีนอย่างเหนียวแน่น เป็นการตรวจเข้มมากขึ้นว่าสินค้าใดใช้วัตถุดิบจากประเทศจีน เรื่องของการสวมสิทธิ์ปกติ เพราะหากตรวจเข้มข้นขนาดนี้ เราก็ไม่มั่นใจว่ากระทบเศรษฐกิจมากหรือไม่
.
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาภาษีสหรัฐฯ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กำลังพูดคุยภายในวิปฝ่ายค้าน แต่การเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติเรื่องภาษีทรัมป์ สามารถทำได้ ทั้งนี้ สำหรับพรรคปชน.ที่อภิปราย 152 มาหลายปี มองว่าควรจะต้องมีเรื่องประเด็นที่ค่อนข้างกว้างมากกว่านี้เพื่อจะได้สอบถามกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้ข้อคิดเห็นในครั้งเดียวกัน นอกเหนือจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เพราะการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่สามารถใช้ได้บ่อยควรเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามที่จำเป็น แต่ถ้าเกิดมีการเจรจาพูดคุยระหว่างวิปฝ่ายค้านแล้วมีหลากหลายเรื่อง มากกว่าเรื่องภาษีสหรัฐ ก็อาจจะจบลงที่การเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติได้ ถ้าเป็นเรื่องภาษีสหรัฐอย่างเดียว ก็เป็นญัตติด่วนด้วยวาจาก็น่าจะเพียงพอ
.
.
ศิริกัญญา มอง วิทัย เป็นคนมีความสามารถ โจทย์ยากคือปัญหาศก.ทรุด ฝากการบ้านลดดอกเบี้ยผู้กู้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5287491
.
‘ศิริกัญญา’ มอง ‘วิทัย’ นั่ง ผู้ว่า ธปท.คนใหม่ เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ประทับใจผลงาน ลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มอง โจทย์ท้าทาย ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ฝากการบ้านลดดอกเบี้ยผู้กู้
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศักยภาพของ นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ (ธปท.) ว่า เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งผลงานที่ตนประทับใจอย่างหนึ่งคือ การเปิดบริษัทลูกของธนาคารออมสิน เข้ามาในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สามารถที่จะเข้ามาเพิ่มการแข่งขันในตลาดและลดดอกเบี้ยสินเชื่อการจำนำทะเบียนรถได้ จึงเป็นผลงานที่น่าประทับใจของนายวิทัย สำหรับเรื่องส่วนตัวก็คงจะไม่ก้าวล่วง
.
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า อยากฝากการบ้านให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ อย่างแรก คือการลดดอกเบี้ยอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตขึ้นได้ การที่แบงค์ชาติลดดอกเบี้ยลงที่ 0.75 เปอร์เซ็นต์ แต่ธนาคารส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของรายย่อยหรือ MRR ซึ่งแม้แต่ธนาคารออมสินที่นายวิทัยเคยบริหาร ก็ลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเพียง 30 สตางค์เท่านั้น
.
“
ดังนั้น จึงอยากฝากการบ้านว่า เมื่อลดดอกเบี้ยแล้ว ต้องไปกำชับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐ ให้ลดดอกเบี้ยตามลงมา ไม่เช่นนั้น นโยบายการลดดอกเบี้ยจะไม่เกิดผลกับประชาชน ไม่ช่วยลดภาระ และไม่ช่วยให้แบงค์พาณิชย์ปล่อยกู้เพิ่มด้วย ดังนั้นการให้แบงค์พาณิชย์ปล่อยกู้เพิ่มต้องประสานงานให้มีนโยบายการคลัง สอดประสาน เช่น การค้ำประกันสินเชื่อ ให้ผู้กู้รายย่อยสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ จึงเป็นการบ้านที่ขอฝากให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ด้วย” น.ส.
ศิริกัญญากล่าว
.
เมื่อถามว่า ความท้าทายแรกที่นาย
วิทัยต้องเจอคืออะไร น.ส.
ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำและแนวโน้มของเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นโจทย์ที่ยากและสำคัญ สำหรับ ธปท. ในการดำเนินนโยบายทางการเงิน และการกำกับสารบัญการเงินให้สามารถรอดพ้นวิกฤตไปได้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ แม้พอจะมีกระสุนตุนไว้ สำหรับดอกเบี้ย ที่เพิ่งลดเพียงสามครั้งที่ 0.75 เปอร์เซ็นต์แต่ก็เหลือไม่มากแล้ว จากนี้คงต้องใช้อย่างตรงจุดตรงเป้า ให้เกิดผลมากที่สุด ซึ่งรวมถึงการใช้นโยบายอื่นร่วมด้วย เพื่อดูแลการเงินทั้งระบบ และอัตราแลกเปลี่ยน ที่อาจเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ที่แข็งค่าขึ้น โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร.
JJNY : ชี้ปล่อย‘อานนท์’มีประโยชน์กว่า│ไหมชี้อภิปรายม.152 เรื่องเดียวเสียของ│มองวิทัยเป็นคนมีความสามารถ│พายุวิภาถล่มพะเยา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5287530
.
เพนกวิน ยก คดีน้องเมย ชี้ปล่อย ‘อานนท์ นำภา’ มีประโยชน์กว่าขังไว้
.
คดีน้องเมย – กรณี นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย อดีตนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 โดยครอบครัวต่อสู้คดีมานานกว่า 8 ปี
.
วานนี้ (22 ก.ค.) ศาลทหารพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่าด้วยอายุจำเลยไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท ให้รอลงอาญา 2 ปี ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นต่อ คดีน้องเมย ว่า
.
“ถ้าจะไม่จำคุกคนฆ่าน้องเมยด้วยเหตุผลว่า “ขังไปก็ไม่มีประโยชน์ ให้อยู่เป็นทหารต่อมีประโยชน์กว่า” ผมว่าก็ปล่อยอานนท์ นำภา (และคนอื่น ๆ) ออกมาเถอะครับ ปล่อยให้เขาออกมาเป็นทนายความน่าจะมีประโยชน์กว่าขังเขาไว้เป็นนักโทษการเมืองครับ”
.
https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/posts/pfbid0382dDXbQvTZXdo62Nwa1qcvnmQMP5DuTzSrw8Cn26pRj3ATxSeHwfVUu28n7qsDcZl
.
.
ไหม คาดดีลภาษีทรัมป์ได้ไม่เกิน 20% ชี้อภิปรายม.152 เรื่องเดียวเสียของ เตือนภท.เก็บกระสุนไว้ https://www.matichon.co.th/politics/news_5287581
.
.
ศิริกัญญา มอง วิทัย เป็นคนมีความสามารถ โจทย์ยากคือปัญหาศก.ทรุด ฝากการบ้านลดดอกเบี้ยผู้กู้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5287491
.
‘ศิริกัญญา’ มอง ‘วิทัย’ นั่ง ผู้ว่า ธปท.คนใหม่ เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ประทับใจผลงาน ลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มอง โจทย์ท้าทาย ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ฝากการบ้านลดดอกเบี้ยผู้กู้
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศักยภาพของ นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ (ธปท.) ว่า เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งผลงานที่ตนประทับใจอย่างหนึ่งคือ การเปิดบริษัทลูกของธนาคารออมสิน เข้ามาในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สามารถที่จะเข้ามาเพิ่มการแข่งขันในตลาดและลดดอกเบี้ยสินเชื่อการจำนำทะเบียนรถได้ จึงเป็นผลงานที่น่าประทับใจของนายวิทัย สำหรับเรื่องส่วนตัวก็คงจะไม่ก้าวล่วง
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า อยากฝากการบ้านให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ อย่างแรก คือการลดดอกเบี้ยอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตขึ้นได้ การที่แบงค์ชาติลดดอกเบี้ยลงที่ 0.75 เปอร์เซ็นต์ แต่ธนาคารส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของรายย่อยหรือ MRR ซึ่งแม้แต่ธนาคารออมสินที่นายวิทัยเคยบริหาร ก็ลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเพียง 30 สตางค์เท่านั้น
.
“ดังนั้น จึงอยากฝากการบ้านว่า เมื่อลดดอกเบี้ยแล้ว ต้องไปกำชับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐ ให้ลดดอกเบี้ยตามลงมา ไม่เช่นนั้น นโยบายการลดดอกเบี้ยจะไม่เกิดผลกับประชาชน ไม่ช่วยลดภาระ และไม่ช่วยให้แบงค์พาณิชย์ปล่อยกู้เพิ่มด้วย ดังนั้นการให้แบงค์พาณิชย์ปล่อยกู้เพิ่มต้องประสานงานให้มีนโยบายการคลัง สอดประสาน เช่น การค้ำประกันสินเชื่อ ให้ผู้กู้รายย่อยสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ จึงเป็นการบ้านที่ขอฝากให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ด้วย” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
.
เมื่อถามว่า ความท้าทายแรกที่นายวิทัยต้องเจอคืออะไร น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำและแนวโน้มของเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นโจทย์ที่ยากและสำคัญ สำหรับ ธปท. ในการดำเนินนโยบายทางการเงิน และการกำกับสารบัญการเงินให้สามารถรอดพ้นวิกฤตไปได้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ แม้พอจะมีกระสุนตุนไว้ สำหรับดอกเบี้ย ที่เพิ่งลดเพียงสามครั้งที่ 0.75 เปอร์เซ็นต์แต่ก็เหลือไม่มากแล้ว จากนี้คงต้องใช้อย่างตรงจุดตรงเป้า ให้เกิดผลมากที่สุด ซึ่งรวมถึงการใช้นโยบายอื่นร่วมด้วย เพื่อดูแลการเงินทั้งระบบ และอัตราแลกเปลี่ยน ที่อาจเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ที่แข็งค่าขึ้น โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร.