สวัสดีทุกท่านครับ
เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ซื้อเครื่องลดความชื้นมาใช้ เพราะเป็นหน้าฝน และด้วยความที่น้องแมวที่บ้านไม่ชอบอยู่แอร์ เลยตั้งโจทย์ว่าอยากให้อากาศในห้องแห้งลง จะได้อยู่ในห้องได้สบายตัวขึ้น ทั้งตัวเอง และน้องแมว
ความเข้าใจเบื้องต้นของผม (ตามที่เครื่องพวกนี้เค้าโฆษณา) คือ อุณหภูมิเท่าเดิม แต่ความชื้นลดลง = รู้สึกร้อนน้อยลง ตัวเหนียวเหงื่อน้อยลง
ปรากฎว่าสิ่งที่เพิ่งรู้ตอนซื้อเครื่องมาแล้ว คือเครื่องลดความชื้นมันปล่อยลมร้อนครับ (เว้นว่าทำความชื้นได้ในระดับที่กำหนดแล้ว มันก็จะเป็นลมที่เย็นๆหน่อย) การจะทำให้ความชื้นในห้องลดลง ก็จะต้องปิดประตูหน้าต่างให้ได้มากที่สุด ผลก็คือทำแบบนี้แล้ว ห้องก็จะร้อนขึ้นไปอีก 2-3 องศา ซึ่งมันจะแทนที่ความรู้สึกร้อนชื้น ด้วยความรู้สึกร้อนอบอ้าวขึ้นมาแทน
ส่วนใครที่คิดว่าเอามาใช้ในห้องแอร์ จากการที่ทดลองมา เปิดแอร์อย่างเดียว ความชื้นก็จะลดลงมาในระดับ 60% ซึ่งเป็นระดับความชื้นที่สบายตัวอยู่แล้วครับ ไม่ต้องเปิดเครื่องลดความชื้นก็ได้ (เครื่องทำความชื้นมันสามารถตั้งได้ที่ 40%-60% แต่กำลังของเครื่อง ความชื้นในปัจจุบัน และขนาดห้องต้องเหมาะสมด้วย) (แอร์เองก็เป็นเครื่องลดความชื้นแบบนึงอยู่แล้ว แถมยังมี Compressor ระบายความร้อนอยู่นอกบ้าน ทำให้ความร้อนจากตัวเครื่องไม่สวนกลับเข้ามา)
ดังนั้น สถานการณ์ที่เหมาะสม ก็คือ
- ถ้าอยากให้คนอยู่สบาย แบบไม่ต้องเปิดแอร์ อุณหภูมิในห้อง ต้องต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่นประมาณ 26-27 องศา เปิดเครื่องมาแล้วอุณหภูมิเป็น 27-29 องศา ยังพอจะรู้สึกสบายอยู่ในห้องได้
- ไม่มีคนอยู่ เปิดไว้ให้สิ่งของในห้องไม่ชื้น ไม่ขึ้นรา รวมถึงสัตว์เลี้ยงขนยาว ขนหนา ก็จะทำให้เป็นเชื้อรายากขึ้นด้วย
- ถ้าคุณหรือคนในบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านมีอาการหอบหืด หรือ ภูมิแพ้ เปิดไว้ก็ดี แต่ก็ต้องขึ้นกับว่าคน หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านจะทนอุณหภูมิที่เพิ่มได้แค่ไหนด้วย
- เอาไว้ตากผ้าที่ต้องการแห้งเร็วๆ พวกของหนาๆอย่างหมอนนี่ตากแปปเดียวก็แห้ง
สถานการณ์ที่ไม่เหมาะ หรือไม่ซื้อก็ได้
- อุณหภูมิห้องค่อนข้างร้อน เช่น 30-35 องศา เปิดเครื่องมายิ่งทำให้ห้องร้อนผ่าวๆเลย
- ติดแอร์อยู่แล้ว (ยกเว้นจะมีเหตุผลให้ต้องลดความชื้นลงไปอีกระดับ)
คำเตือนสำหรับคนที่จะซื้อ Dehumidifier หรือเครื่องลดความชื้นในบ้าน
เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ซื้อเครื่องลดความชื้นมาใช้ เพราะเป็นหน้าฝน และด้วยความที่น้องแมวที่บ้านไม่ชอบอยู่แอร์ เลยตั้งโจทย์ว่าอยากให้อากาศในห้องแห้งลง จะได้อยู่ในห้องได้สบายตัวขึ้น ทั้งตัวเอง และน้องแมว
ความเข้าใจเบื้องต้นของผม (ตามที่เครื่องพวกนี้เค้าโฆษณา) คือ อุณหภูมิเท่าเดิม แต่ความชื้นลดลง = รู้สึกร้อนน้อยลง ตัวเหนียวเหงื่อน้อยลง
ปรากฎว่าสิ่งที่เพิ่งรู้ตอนซื้อเครื่องมาแล้ว คือเครื่องลดความชื้นมันปล่อยลมร้อนครับ (เว้นว่าทำความชื้นได้ในระดับที่กำหนดแล้ว มันก็จะเป็นลมที่เย็นๆหน่อย) การจะทำให้ความชื้นในห้องลดลง ก็จะต้องปิดประตูหน้าต่างให้ได้มากที่สุด ผลก็คือทำแบบนี้แล้ว ห้องก็จะร้อนขึ้นไปอีก 2-3 องศา ซึ่งมันจะแทนที่ความรู้สึกร้อนชื้น ด้วยความรู้สึกร้อนอบอ้าวขึ้นมาแทน
ส่วนใครที่คิดว่าเอามาใช้ในห้องแอร์ จากการที่ทดลองมา เปิดแอร์อย่างเดียว ความชื้นก็จะลดลงมาในระดับ 60% ซึ่งเป็นระดับความชื้นที่สบายตัวอยู่แล้วครับ ไม่ต้องเปิดเครื่องลดความชื้นก็ได้ (เครื่องทำความชื้นมันสามารถตั้งได้ที่ 40%-60% แต่กำลังของเครื่อง ความชื้นในปัจจุบัน และขนาดห้องต้องเหมาะสมด้วย) (แอร์เองก็เป็นเครื่องลดความชื้นแบบนึงอยู่แล้ว แถมยังมี Compressor ระบายความร้อนอยู่นอกบ้าน ทำให้ความร้อนจากตัวเครื่องไม่สวนกลับเข้ามา)
ดังนั้น สถานการณ์ที่เหมาะสม ก็คือ
- ถ้าอยากให้คนอยู่สบาย แบบไม่ต้องเปิดแอร์ อุณหภูมิในห้อง ต้องต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่นประมาณ 26-27 องศา เปิดเครื่องมาแล้วอุณหภูมิเป็น 27-29 องศา ยังพอจะรู้สึกสบายอยู่ในห้องได้
- ไม่มีคนอยู่ เปิดไว้ให้สิ่งของในห้องไม่ชื้น ไม่ขึ้นรา รวมถึงสัตว์เลี้ยงขนยาว ขนหนา ก็จะทำให้เป็นเชื้อรายากขึ้นด้วย
- ถ้าคุณหรือคนในบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านมีอาการหอบหืด หรือ ภูมิแพ้ เปิดไว้ก็ดี แต่ก็ต้องขึ้นกับว่าคน หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านจะทนอุณหภูมิที่เพิ่มได้แค่ไหนด้วย
- เอาไว้ตากผ้าที่ต้องการแห้งเร็วๆ พวกของหนาๆอย่างหมอนนี่ตากแปปเดียวก็แห้ง
สถานการณ์ที่ไม่เหมาะ หรือไม่ซื้อก็ได้
- อุณหภูมิห้องค่อนข้างร้อน เช่น 30-35 องศา เปิดเครื่องมายิ่งทำให้ห้องร้อนผ่าวๆเลย
- ติดแอร์อยู่แล้ว (ยกเว้นจะมีเหตุผลให้ต้องลดความชื้นลงไปอีกระดับ)