น้ำมันเบรก สำคัญกับรถแค่ไหน

ใครที่ใช้รถไปทำงานทุกวัน แต่ไม่ค่อยได้ดูแล นานๆ จะพาเข้าศูนย์ที ถึงเวลาที่เราจะต้องใส่ใจรถให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของระบบ “เบรก” ที่เป็นจุดสำคัญมากที่สุดของรถยนต์ ควรต้องหมั่นเช็ค พาเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบการเบรกและเติมน้ำมันเบรก ป้องกันการชำรุดและถนอมอายุรถให้นานมากขึ้น แต่หลายคนสงสัยว่าน้ำมันเบรก สำคัญอย่างไร จะให้เลือกซื้อก็ยากเพราะในตลาดมีหลายรุ่น วาโวลีน เลยรวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับน้ำมันเบรกมาบอกทุกคนกันครับ

น้ำมันเบรก คืออะไร?

    รู้หรือไม่ น้ำมันเบรก แท้จริงแล้วไม่ใช่น้ำมัน แต่เป็นสารผสมจำพวกอีเทอร์ (Ether) และไกลคอล (Glycol) แต่ในประเทศเรายังไม่มีคำแปลของ "Brake Fluid" จึงเรียกเพื่อให้คนใช้เข้าใจกันทั่วไปว่า “น้ำมันเบรก” เพราะมีคุณสมบัติหล่อลื่นได้เหมือนน้ำมัน  คุณสมบัติโดยพื้นฐานของน้ำมันเบรกจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลัง เปรียบเหมือนระบบไฮดรอลิก คือเมื่อมีการเหยียบที่แป้นเบรก แรงดันที่เหยียบจะถูกถ่ายทอดผ่านของเหลวในระบบไปยังห้ามล้อทั้ง 4 ล้อ ทำให้ความเร็วลดลง หรือหยุดได้ตามที่ต้องการนั่นเองครับ และด้วยสารตั้งต้นทั้ง 2 ตัวอย่างที่กล่าวไป ทำให้น้ำมันเบรกที่ดีต้องมีคุณสมบัติดูดซับความชื้นทั้งอากาศและลมได้ดีครับ

ประเภทของน้ำมันเบรก
น้ำมันเบรก แบ่งได้หลัก ๆ เป็น 3 ประเภท ดังนี้
     น้ำมันเบรก Dot3
     น้ำมันเบรก Dot4
     น้ำมันเบรก Dot5.1

     โดยมาตรฐานแล้ว รถยนต์ในไทยปัจจุบัน จะใช้น้ำมันเบรกที่เป็น Dot3 และ Dot4 โดยเฉพาะ Dot 4 ค่อนข้างจะใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงในรถแข่งบางประเภท เนื่องจากทนความร้อนสูงได้มากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการควบคุมระบบเบรกได้ตึงมากขึ้น และไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนในระบบเบรก ในขณะที่ Dot5.1 ยังจำกัดการใช้เฉพาะกลุ่ม จะเป็นสายเน้นซิ่ง และ performance สูง เพราะมีจุดเดือดที่สูงขึ้นไปอีกครับ 

ประโยชน์ของน้ำมันเบรก
สำหรับประโยชน์ของน้ำมันเบรก มีดังนี้
1. ระบบเบรกทำงานได้ดี
แน่นอนว่าเบรกเป็นระบบสำคัญ ที่ช่วยให้การขับขี่ของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หากใครที่ไม่เคยเช็กระบบเบรก ก็อาจเกิดความเสี่ยงที่จะมีการชำรุดหรือเสียหายได้ ประโยชน์ของน้ำมันเบรกจะช่วยรักษาระบบการใช้งาน ช่วยให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล จะเบรกแรงแค่ไหนก็มั่นใจ และปลอดภัยแน่นอน

2. ระบบหล่อลื่น
การทำงานของเบรกยิ่งไหลลื่น ยิ่งเบรกได้ดี การเติมน้ำมันเบรกจึงเหมือนการเติมความชุ่มชื่น ช่วยให้เบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในระบบเบรกได้ด้วย แถมมีความหนืดที่ดี ทั้งในอุณหภูมิที่ร้อนและเย็นจัดได้ อีกทั้งไม่กัดกร่อนโลหะหรือยาง ที่เป็นอะไหล่ในระบบเบรกด้วย

3. เก็บกักความชื้น
น้ำมันเบรกจะช่วยดูดซับความชื้นได้ดี ยิ่งเมืองไทยมีอากาศร้อนชื้น ทำให้มีโอกาสสูงที่ทำให้เบรกเสื่อมสภาพได้ จึงเป็นที่มาให้คุณต้องดูแลและหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเบรกอยู่เสมอ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ดีขึ้น เพราะว่าหากเบรกไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จะส่งผลให้ระบบเบรกมีปัญหาในที่สุดครับ

4. สัญญาณเปลี่ยนน้ำมันเบรก
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเบรกพอใช้ไปนาน ๆ ก็เสื่อมสภาพเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อให้เบรกทำงานได้ดีที่สุด ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุกๆ 1-2 ปี หรือตามระยะทางทุกๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และประเภทการใช้งานด้วยส่วนหนึ่ง แต่จะให้ชัวร์ควรดูตามที่คู่มือกำหนด หรือสังเกตหากน้ำมันเบรกมีสีคล้ำ แสดงว่าเสื่อมสภาพแล้ว

ข้อสำคัญการเลือกใช้น้ำมันเบรก คือต้องมีมาตรฐานสากล ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตรถยนต์และเลือกแบรนด์ที่ไว้วางใจได้ เพราะเป็นส่วนสำคัญต่อระบบภายในของรถยนต์ และมีผลต่อการขับขี่โดยตรง ช่วยให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพ ยังช่วยถนอมอายุของรถยนต์ให้อยู่กับเราได้นานขึ้น จึงไม่ควรละเลยในการตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกให้ตรงกำหนดอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยนะครับ

ขอบคุณข้อมูล Valvoline

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่