นาคศิลา:ศึกชิงนาง

กระทู้สนทนา
นาคศิลา

EP.5: ศึกชิงนาง

บทที่ 1 : เมื่อไฟแห่งแววตาบรรพกาล จุดประกายแผ่นดิน

เสียงฆ้องศึกสะเทือนทั่วนคร...
กลางลานประลองที่พสุธายังเงี่ยหูฟัง
เจ้าชายจากหัวเมืองร้อยแคว้น พ่ายแพ้หมดสิ้น
ใต้ฝ่าเท้าท้าวผาแดง — นักรบเลือดครุฑ

ดวงเนตรสีชาดของเขาวาบวับ
เพลิงแห่งความหยิ่งทระนงฉายชัดในทุกก้าว
เกราะเงินเปื้อนเลือด เปล่งประกายใต้แดดแผดเผา

...แต่แล้ว...

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากเงามืด
ชายผู้สวมอาภรณ์ดำสนิท ปรากฏร่างขึ้นจากมุมหนึ่งของลาน
ตาเขียววาวระริก... ราวหยดพิษจากจอมอสรพิษใต้บาดาล

ทุกสายตาหันขวับราวต้องมนต์
แม้แต่สายลม... ยังหยุดหายใจ

เขาคือ “นาคามรกต” — ผู้ไร้ชื่อในบันทึกของโลกบนบก
แต่ชื่อของเขา... กลับเป็นตำนานที่กระซิบก้องในแม่น้ำลึก

บนบัลลังก์สูง — นางไอ่ผู้เลอโฉมทอดพระเนตร
ดวงตาคู่นั้นสบกับแววมรกตเพียงคราเดียว...
โลกทั้งใบของเธอก็เหมือนหยุดนิ่ง

เธอเคยเห็นเขา...
ในฝัน... ในเงา... ในกระจกน้ำยามราตรี
หรือบางที... ในภพก่อน

และแม้ผาแดงจะสังหารนักรบนับร้อยเพื่อยืนตรงนี้
แต่นับแต่เสี้ยววินาทีที่นางไอ่ตาไหวระริก...
เขาก็พ่ายแล้ว

บทที่ 2 : ศึกเหนือสวรรค์ ใต้เงาฝันของหญิงผู้ถูกเลือก

เสียงฆ้องครั้งสุดท้ายดังขึ้น
ศึกแห่งสายเลือดเริ่มต้นอีกครา...

มวยครุฑของผาแดง — คือศิลปะแห่งทวยเทพ
รวดเร็ว หนักแน่น แหลมคมราวอสนีบาต

ส่วนมวยนาคาแห่งนาคามรกตนั้น...
กลับเย็นเยียบ พริ้วไหว ดุจงูเลื้อยผ่านม่านหมอก
จู่โจมไร้เสียง ตวัดกลับราวหางอสรพิษฟาดเปลือกไม้แห้ง

เสียงฝีเท้าทั้งสองราวกลืนหายไปกับลม
มีเพียงเสียงปะทะของหมัดกับเลือดที่สาดกระเซ็น

นางไอ่กลั้นหายใจ
เธอไม่รู้ว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วเพราะศึก
หรือเพราะในความฝันคืนนั้น... ที่เธอไม่อาจลืม

เธอนั่งบนบัลลังก์สูง แต่ความรู้สึกกลับย้อนคืน
นาคามรกตในฝัน... ใช้ดวงตาคู่นั้นพาเธอลงลึก
สัมผัสเยียบเย็นแต่วาบวับ
ริมฝีปากที่ไม่เคยพูด... แต่กลับลื่นไหลราวกระแสน้ำ

"เจ้าคือของข้า... นับแต่เจ้าสบตา"

เธอสะดุ้งตื่นหลายครั้งจากภาพเลือนรางนั้น
แต่ทุกเช้ากลับพบรอยนิ้วกดบางเบาบนผ้าทรงสีขาว
กลิ่นเหงื่อแปลกปลอมที่ไม่ใช่ของเธอ...
และเส้นเกล็ดสีเขียวบาง ๆ ร่วงหล่นบนหมอน

...นั่นฝัน หรือเป็นจริง?

ศึกยังดำเนินต่อ ผาแดงเหงื่อซึม เลือดไหลเป็นทาง
แต่ยังยืนหยัด สายตาเขาหันกลับไปมองนางไอ่

นางเบือนหน้า... หัวใจสั่นไหว
เธอรู้ว่าเขามองมาด้วยรัก
แต่เธอ... กลับรู้สึกผิด

เพียงจังหวะหนึ่งที่ผาแดงเผลอ
นาคามรกตตวัดร่างหมุนกลางอากาศ
ขาสะบัดดั่งหางนาคากระแทกกลางแผ่นหลัง

เขาล้มคลุกฝุ่น... เสียงครางต่ำลอดไรฟัน
ท่ามกลางเสียงเงียบสนิทของผู้ชม

เงาร่างนางไอ่ก้าวลงบัลลังก์อย่างเชื่องช้า
พวงมาลัยในมือหล่นลงสู่ข้อมือนาคามรกต

ชายผู้ไม่เคยพูดสักคำ...
ได้ทุกสิ่ง

บทที่ 3 : ไฟรักไม่เคยดับในตาขอทาน

ลมเย็นแห่งพลบค่ำ พัดผ่านตลาดร้าง
ขอทานตาบอดนั่งพิงเสาไม้ไผ่ผุพัง
ตาข้างหนึ่งปิดสนิท... แต่อีกข้าง วูบวาบสีเขียวมรกต

เขาเอ่ยเสียงต่ำ

“ข้าจะเล่าเรื่องให้ฟัง
แลกข้าวถ้วยหนึ่งกับปลาแห้งก็พอ…”

เด็ก ๆ ห้อมล้อม ผู้ใหญ่หยุดฟัง
บางคนหัวเราะ... บางคนครุ่นคิด

ชายชราเอ่ย

“มีหญิงนางหนึ่ง ถูกเผาด้วยไฟรัก
ชายอีกคน... ถูกเผาด้วยเพลิงแค้น
ส่วนอีกหนึ่ง... ชนะทั้งสนามรบและสนามใจ
แม้ไม่เอ่ยคำเดียว”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนหลุบตาลง

“และนาง... ก็ไม่เคยตื่นจากฝันคืนนั้นเลย”

เด็กคนหนึ่งถามเสียงใส

“ท่านรู้ได้ไงลุง?”

ชายชราเพียงยิ้มบาง ๆ
ตาวูบไหว... วาบวาวราวสายเลือดในสายน้ำ

“เพราะข้า... อยู่ในฝันนั้นเสมอมา”


บท/เรื่อง : Bell 1001 × T-801
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่