โรม ชี้ ทักษิณ ฉวยจังหวะแสดงบทบาทนำ ทำ‘อิ๊งค์’ถูกคิดถึงน้อยลง เย้ยรัฐบาลง่อนแง่น
.
.
โรม แขวะ ต้องเอาผู้อาวุโส ใช้บารมีที่สะสมมาเผาเล่น ประคอง “เพื่อไทย-ชินวัตร” ชี้ ทักษิณ ฉวยจังหวะแสดงบทบาทนำ ทำ ‘อิ๊งค์’ ถูกคิดถึงน้อยลง เย้ยรัฐบาลง่อนแง่น
.
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ว่า คงไม่ดูแค่การดินเนอร์วันนี้ และสังคมไม่ได้รู้สึกว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นั้น ไม่ได้แตกต่างอะไรเลย ไม่ได้ทำให้สังคมอยู่ไม่ได้ จะมีน.ส.แพทองธารปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่ได้สร้างความแตกต่าง
.
“กลายเป็นว่าวันนี้คุณทักษิณใช้จังหวะนี้ในการแสดงบทบาทนำของตัวเองมากขึ้น เรื่องดินเนอร์ทานข้าวก็เป็นดุลยพินิจของพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้หลายฉากที่เกิดขึ้นคุณทักษิณแสดงบทบาทนำ แล้วทำให้น.ส.แพทองธาร ถูกคิดถึงน้อยลง” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ก็ไปว่ากันในดุลยพินิจของแต่ละคน แต่วันนี้ตนคิดว่าเราควรจะมีนายกฯ หรือไม่ ในเมื่อนายกฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อคือปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ มากมาย ควรจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ ทั้งเรื่องคลิปเสียง ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แม่น้ำกก มีความท้าทายอยู่
.
เราต้องยอมรับว่ามันไม่ได้รับการแก้ไข และต้องพูดกันว่าความชอบธรรมของ น.ส.แพทองธาร และพรรคเพื่อไทยไม่มีเหลืออยู่แล้ว เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ น.ส.แพทองธาร ไม่ถูกคิดถึงในฐานะนายกฯ อีกแล้ว เพราะขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
.
“ตอนนี้ต้องเอาผู้อาวุโสบั้นปลายชีวิต ที่ใช้บารมีสุดท้ายที่เคยสะสมมาตลอดเวลามาเผาเล่น โดยหวังว่าจะใช้บารมีที่มีในช่วงสุดท้ายในการประคองพรรคเพื่อไทย ประคองตระกูลชินวัตร ประคองลูก วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่ผิด ประเทศของเราควรจะเดินหน้าได้เสียที และการจะเดินหน้าได้มันต้องหลุดพ้นจากการเมืองแบบนี้ได้แล้ว” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลจะไปรอดถึงขั้นไหน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนก็มีคำถามเหมือนกัน เราอยู่ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลง่อนแง่นมาก ล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้วเรื่ององค์ประชุมสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถประคองได้เลย พร้อมที่จะล่มตลอดเวลา
.
ถ้าจังหวะไหนไม่เข้มแข็ง ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะมีความสามัคคีในการปกครองสภา ดังนั้น การผลักดันนโยบายต่างๆ ก็ยิ่งมีปัญหาต่อไป ไม่ใช่แค่นโยบายเรือธงที่ผลักดันไม่ได้ แม้แต่ในการเป็นรัฐบาลที่ดีในแบบที่ควรจะเป็น ก็ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้
.
.
อ.วันวิชิต แนะสังคม จับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสะพัด พร้อมปล่อยงบ แม้มีผู้ประมูลรายเดียว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5286139
.
หวั่นมีเสือนอนกิน ตีพุงงาบงบ ผลประโยชน์ไม่ตกถึงประชาชน “นักรัฐศาสตร์ แนะสังคม จับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ หวั่นไม่โปร่งใส หลังสะพัด พร้อมปล่อยงบ แม้มีผู้ประมูลรายเดียว
.
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ผศ.ดร.
วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นถึงงบ กระตุ้นเศรษฐกิจขอบรัฐบาล ที่มากถึง 1.57 แสนล้านบาท และ เริ่มถูกตรวจสอบโดยฝ่ายค้านว่า
.
เรื่องนี้สังคม ต้องช่วยกันดู จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ เพราะนี่คือการทลายห้าง ‘เสือนอนกิน’ ที่อาจซ่อนอยู่หลังระบบราชการ” หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การที่มีผู้ยื่นประมูลรายเดียวผ่านคุณสมบัติเงื่อนไขของรัฐ ซึ่งทำให้สังคมมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการ “ล็อกสเปก” หรือไม่
.
ทั้งนี้ ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หากมีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียว หรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย แต่มีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจะต้องเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณายกเลิกการประกวดราคาในครั้งนั้น
.
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการเห็นว่ามีเหตุผลสมควรให้ดำเนินการต่อไป โดยไม่ยกเลิกการประกวดราคา ก็สามารถดำเนินการต่อได้โดยอนุโลม ตามข้อ 57 หรือข้อ 58 ของระเบียบฯ แล้วแต่กรณี แบบนี้ก็เปิดช่องให้ได้งานโดยไม่ต้องประมูล เพียงแต่ต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด ถามว่า กรณีนี้ เรา จะป้องกันการล็อคสเปคเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้อย่างไร
.
นาย
วันวิชิตยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับระยะเวลาในการประกาศจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งแม้จะกำหนดให้เผยแพร่ประกาศและเอกสารอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ในหลายกรณีกลับดำเนินการในลักษณะกระชั้นชิด จนอาจเอื้อให้เฉพาะบริษัทที่มีข้อมูลวงในได้เปรียบคู่แข่งรายอื่น ๆ
.
“ผมมองว่า ต้องรีบตรวจสอบเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่มีคำตอบ จะกลายเป็นช่องโหว่ให้สังคมตั้งข้อครหาได้” อาจารย์รัฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวทิ้งท้าย.
.
.
ปภ. ตั้งวอร์รูมรับมือ ‘พายุวิภา’ แจ้งเตือน 17 จังหวัด 89 อำเภอ เสี่ยงดินถล่ม
.
ปภ. ติดตามรับมือ พายุวิภา ตั้งวอร์รูมประสานข้อมูลใกล้ชิด 24 ชม. ย้ำเฝ้าระวังดินถล่ม แจ้งเตือน 17 จังหวัด 89 อำเภอเสี่ยง พร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรง
.
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC 1) สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มและการให้ความช่วยเหลือ
.
โดยมีนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการจัดการสาธารณภัย ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้บริหารกรมปภ. นายชูโชค อายุพงษ์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาเชียงใหม่ ผู้อำนวยการสำนักงานที่ 1 เชียงใหม่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่
.
รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงได้ผลกระทบจากพายุวิภา เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
.
นายภาสกร กล่าวว่า จากการติดตามพายุโซนร้อนวิภาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้ และอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และหย่อมความกดอากาศต่ำ
.
ซึ่งอิทธิพลของพายุวิภาและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะส่งผลทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรงช่วงวันที่ 22-24 ก.ค.
.
ซึ่งจากรายงานทราบว่าบางพื้นที่เริ่มมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ประกอบกับข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าวันนี้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนบางจังหวัด อาจจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จึงได้กำชับให้ห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
.
ปภ. และทุกจังหวัดได้เตรียมพร้อมเชิงรุกตามข้อสั่งการเร่งด่วนในการรับมือพายุวิภาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และแผนเผชิญเหตุจังหวัดอย่างเต็มกำลัง โดย ปภ.ได้เตรียมการขั้นสูงสุดมาตั้งแต่ช่วงต้น ได้เปิดห้องปฏิบัติการวอร์รูมเมื่อวันที่ 20 ก.ค. และได้ตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ที่จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ร่วมกับจังหวัดภาคเหนือ
.
นายภาสกร กล่าวต่อว่า ขณะที่จังหวัดต่างๆ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ร่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์พายุและประเมินความเสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast และหอเตือนภัยในพื้นที่ทันทีที่ประเมินวิเคราะห์พบสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
.
และมีการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วมหรือศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ที่ถูกต้องและการเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพรองรับกรณีสถานการณ์รุนแรง
.
นอกจากนี้ได้มีการเตรียมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย โดยขณะนี้เครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ. จากศูนย์ ปภ.เขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท เช่น รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือพร้อมเครื่องยนต์ เรือท้องแบน ได้เข้าประจำพื้นที่จุดเสี่ยงจุดเปราะบางเรียบร้อยแล้ว และพร้อมเดินเครื่องทำงาน
.
โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ซึ่งสามารถส่งกำลังสนับสนุนการเผชิญเหตุและช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยภาคเหนือได้ทันที
.
ขณะเดียวกันได้นำเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ขึ้นมาประจำที่ฐาน จ.เชียงใหม่ เตรียมพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
.
นายภาสกร กล่าวว่า สำหรับการดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้จัดเตรียมถุงยังชีพไว้ในพื้นที่พร้อมแล้ว หากไม่เพียงพอ ปภ.พร้อมสนับสนุนจังหวัดได้ทันที
.
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการเแจ้งเตือนล่วงหน้าแก่ประชาชน หรือ Early Warning ให้ทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ตื่นตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดต้องเตรียมรับการประสานงานจากส่วนกลางทันที ย้ำว่าเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก
.
นายภาสกร กล่าวว่า นอกจากการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมแล้ว ยังต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากหลายพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับดินมีความชุ่มน้ำมาก อาจมีความเสี่ยงเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะที่ราบลุ่มเชิงเขา ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน โดยห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ. ได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
.
JJNY : "โรม"เย้ยรบ.ง่อนแง่น│ตั้งวอร์รูมรับมือ ‘พายุวิภา’│อ.วันวิชิตแนะสังคมจับตางบ│“พายุวิภา” พัดขึ้นฝั่งเวียดนามแล้ว!
.
อ.วันวิชิต แนะสังคม จับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสะพัด พร้อมปล่อยงบ แม้มีผู้ประมูลรายเดียว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5286139
.
หวั่นมีเสือนอนกิน ตีพุงงาบงบ ผลประโยชน์ไม่ตกถึงประชาชน “นักรัฐศาสตร์ แนะสังคม จับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ หวั่นไม่โปร่งใส หลังสะพัด พร้อมปล่อยงบ แม้มีผู้ประมูลรายเดียว
.
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นถึงงบ กระตุ้นเศรษฐกิจขอบรัฐบาล ที่มากถึง 1.57 แสนล้านบาท และ เริ่มถูกตรวจสอบโดยฝ่ายค้านว่า
.
เรื่องนี้สังคม ต้องช่วยกันดู จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ เพราะนี่คือการทลายห้าง ‘เสือนอนกิน’ ที่อาจซ่อนอยู่หลังระบบราชการ” หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การที่มีผู้ยื่นประมูลรายเดียวผ่านคุณสมบัติเงื่อนไขของรัฐ ซึ่งทำให้สังคมมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการ “ล็อกสเปก” หรือไม่
.
ทั้งนี้ ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หากมีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียว หรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย แต่มีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจะต้องเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณายกเลิกการประกวดราคาในครั้งนั้น
.
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการเห็นว่ามีเหตุผลสมควรให้ดำเนินการต่อไป โดยไม่ยกเลิกการประกวดราคา ก็สามารถดำเนินการต่อได้โดยอนุโลม ตามข้อ 57 หรือข้อ 58 ของระเบียบฯ แล้วแต่กรณี แบบนี้ก็เปิดช่องให้ได้งานโดยไม่ต้องประมูล เพียงแต่ต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด ถามว่า กรณีนี้ เรา จะป้องกันการล็อคสเปคเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้อย่างไร
.
นายวันวิชิตยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับระยะเวลาในการประกาศจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งแม้จะกำหนดให้เผยแพร่ประกาศและเอกสารอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ในหลายกรณีกลับดำเนินการในลักษณะกระชั้นชิด จนอาจเอื้อให้เฉพาะบริษัทที่มีข้อมูลวงในได้เปรียบคู่แข่งรายอื่น ๆ
.
“ผมมองว่า ต้องรีบตรวจสอบเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่มีคำตอบ จะกลายเป็นช่องโหว่ให้สังคมตั้งข้อครหาได้” อาจารย์รัฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวทิ้งท้าย.
.
.